[แปล&วิเคราะห์เพลง] battle, deaths and former feud in Taylor Swift's my tears ricochet
"It is a truth universally acknowledged that Swift's track 5 in each of her album is often the most emotional, vulnerable and heartbreaking." เป็นความจริงที่ทราบกันดีว่าเพลงลำดับที่ 5 ในแต่ละอัลบั้มของสวิฟต์มักจะสะเทือนอารมณ์ เปราะบางและปวดใจที่สุด
แม้คำพูดที่ยกมาจะไม่ได้แต่งขึ้นโดยนักเขียนขึ้นหิ้งอย่างเจน ออสติน (Jane Austen) ผู้ที่ฉันได้ถือวิสาสะดัดแปลงประโยคเปิดเรื่อง Pride and Prejudice ของเธอมาใช้ในบทความนี้ แต่สวิฟตี้ (swifties กลุ่มบุคคลผู้ชื่นชอบเทย์เลอร์ สวิฟต์เป็นชีวิตจิตใจและยกเธอเป็นศาสดา ส่วนพวกเราเป็นสาวกผู้เลื่อมใสศรัทธา) คงจะไม่เห็นต่างจากข้อความนี้นัก
ตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้ม Lover แฟนคลับตั้งข้อสังเกตว่าบทเพลงลำดับที่ 5 ในอัลบั้ม มักจะเป็นเพลงที่สะเทือนอารมณ์ เจ็บปวดและเศร้าจนทำให้ผู้ฟังน้ำตาไหลได้ง่ายที่สุด เช่น White Horse (อัลบั้ม Fearless), Dear John (อัลบั้ม Speak Now), The Archer (อัลบั้ม Lover) และเพลงที่หลายๆ คนยกให้เป็นเพลงที่เจ็บปวดร้าวรานมากที่สุดอย่าง All Too Well (อัลบั้ม Red) ซึ่งในอัลบั้มล่าสุดอย่าง folklore นี้ แม้ว่าเนื้อเพลงและดนตรีในหลายๆ เพลงฟุ้งไปด้วยกลิ่นอายความเศร้า การจากลาและความผิดหวัง การที่เทย์เลอร์เลือกให้เพลง my tears ricochet เป็นแทร็ค 5 (แม้อาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม) เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าอย่างน้อยเพลงนี้ก็เล่าเรื่องประสบการณ์ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและสะเทือนอารมณ์เธอที่สุดเหมือน เพลงอื่นๆ ในลำดับเดียวกันจากอัลบั้มก่อนหน้า นอกจากนี้ my tears ricochet ยังเป็นเพลงที่เทย์เลอร์แต่งเองทั้งหมดและแต่งเป็นเพลงแรกของอัลบั้มนี้ด้วย
ricochet (v.) - (of a bullet, shell, or other projectile) rebound one or more times off a surface.
การสะท้อนกลับยังสอดแทรกความคิดว่าหากเคยทำสิ่งใดไว้กับใครไว้ก็ตาม สิ่งนั้นก็จะสะท้อนกลับมาสู่ตัวผู้กระทำตามแนวคิดกฎแห่งกรรม ตัวเทย์เลอร์เองเคยพูดถึงแนวคิดนี้ในเพลง Look What You Made Me Do จากอัลบั้ม reputation ในท่อนที่ว่า All I think about is karma. ซึ่งหลายๆ คนวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเพลงที่แต่งเกี่ยวกับเรื่องราวดราม่าระหว่างเทย์เลอร์และคานเย่กับคิม สุดท้าย เวลาก็พิสูจน์ความจริงให้เห็นแล้วว่าสองคนนั้นเป็นคนอย่างไร เช่นเดียวกับใน my tears ricochet ความเลวร้ายที่เธอได้เคยรับมาตลอดจะย้อนกลับสู่ตัวคนหวังร้ายต่อเธอในที่สุด
แนวความคิดเรื่องความตายยังคงส่งต่อมาถึงท่อนคอรัส เทย์เลอร์เคยพูดถึงความตายของตัวเองแบบอุปมา (metaphorical death) แล้วในเพลง Look What You Made Me Do ในท่อนที่เธอพูดว่า "The old Taylor can't come to the phone right now. Why? Oh, 'cause she's dead." ตอนนั้นคนที่ตายคือเทย์เลอร์ "คนเก่า" ภาพจำของสาวน้อยบริสุทธิ์ผู้ไม่เคยมีข่าวเสียหาย แต่ความตายในที่นี้ คือมิตรภาพอันแตกหักระหว่างเทย์เลอร์และสก็อตต์ แต่แม้ว่าอีกฝ่ายจะบอกว่าเธอได้ตายจากเขาไปแล้ว เขาก็ยังคงลืมเธอไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเขารักและเอ็นดูเธอ แต่เพราะเธอบ่อเงินบ่อทองของเขา
'Cause when I'd fight, you used to tell me I was brave
And if I'm dead to you why are you at the wake?
Cursing my name, wishing I'd stayed
Look at how my tears ricochet
ฉันไม่เข้มแข็งพอที่จะจากไปอย่างสง่างาม
เพราะเมื่อฉันสู้ คุณเคยบอกว่าฉันกล้าหาญ
ถ้าฉันตายจากคุณไปแล้ว คุณจะมางานศพฉันทำไม
สาปส่งชื่อฉัน หวังว่าฉันยังคงอยู่
ดูสิว่าหยดน้ำตาฉันสะท้อนกลับไปหาคุณได้อย่างไร
การกระทำของสก็อตทำให้เทย์เลอร์เจ็บปวดมาก เพราะเธอคิดว่าทั้งสองเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ตอนที่เธอต้อง "ต่อสู้" อาจหมายถึงเมื่อเทย์เลอร์ใช้เสียงของเธอในการสู้เพื่อสิทธิ์ของศิลปินกับ streaming platform อย่าง Spotify และ Apple Music เมื่อเทย์เลอร์ดึงเพลงของเธอออกจาก Spotify เมื่อปี 2014 เนื่องจากเธอไม่เห็นว่าบริการสตรีมมิ่งดังกล่าวให้คุณค่าศิลปะ หรือเมื่อปี 2015 เธอเขียนจดหมายเปิดผนึกลงใน Tumblr ถึง Apple Music เทย์เลอร์เรียกร้องให้ Apple Music จ่ายค่าตอบแทนให้ศิลปินในช่วงทดลองใช้ 3 เดือนจน Apple Music ยอมเปลี่ยนนโยบาย หรือแม้แต่เมื่อตอนที่เธอโดนคานเย่และคิมตัดต่อการสนทนาทางโทรศัพท์จนเธอถูกตราหน้าว่าเป็นงูพิษ เป็นไปได้ว่าตอนนั้นสก็อตต์น่าจะชื่นชมว่าเทย์เลอร์กล้าหาญและเคยอยู่ฝ่ายเดียวกับเธอ แต่ตอนนี้ เมื่อเธอจะสู้เพื่อสิทธิ์ของตัวเธอเองบ้าง สก็อตต์กลับกลับคำและผันตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามเธอ
[bridge]
And I can go anywhere I want
Anywhere I want, just not home
And you can aim for my heart, go for blood
But you would still miss me in your bones
And I still talk to you (When I'm screaming at the sky)
And when you can't sleep at night (You hear my stolen lullabies)
เราหวังว่าในอนาคตทั้งสองฝ่ายจะกลับมาคืนดีกันได้นะคะ (หวังจริงจริ๊ง) แหะๆ
#ขอบคุณสำหรับคำแปลและมุมมองความหมายในเพลงนี้ของคุณค่ะ
ไม่แน่ใจว่าเพลงอื่นในอัลบั้มนี้จะมามั้ย แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ :))))