**บทวิจารณ์นี้มีสปอยล์**
**บทวิจารณ์นี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นซึ่งอาจเหมือนหรือไม่เหมือนกับของคุณก็ได้**
ผมคนนึงล่ะที่เห็นว่าปีนี้เป็นปีที่หนังน่าดูเยอะจริงๆหรือเพิ่งสังเกตก็ไม่รู้สิ (ฮา) ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบดูหนังที่มีพล็อตแปลกๆ หรือมีกิมมิคที่น่าสนใจ อย่างเจ้า The Purge 3 ที่ผมเพิ่งดูไปไม่นาน ผมเคยดูอยู่ภาคหนึ่ง น่าจะเป็นภาค Anarchy นี่แหละ ซึ่งประจวบเหมาะพอดีคือเป็นเรื่องราวของบอดี้การ์ดของผู้สมัครลงเลือกตั้งสาวสวยในภาคใหม่นี้หรือก็คือตัวพระเอกนั่นแหละ
เอาจริงใครที่ไม่เคยดูเลยสักภาคก็ไม่จำเป็นต้องไปหารื้อ หรือไปนั่งย้อนดูก็ได้นะ ผมว่าตัวหนังมันไม่มีความซับซ้อนอะไรเลย นอกจากกิมมิคหนึ่งเดียวของหนังคือ “มีหนึ่งวันที่ประเทศอเมริกากำหนดให้เป็นวันล้างบาป การก่อการร้ายทุกชนิดจะถือว่าเป็นสิ่งถูกกฎหมายจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น”
และนี่ก็เป็นกิมมิคของเรื่อง ของทุกภาค และเป็นตัวดึงความอยากดูของผู้ชมทุกคน แต่สำหรับภาคนี้ ก็แค่มีผู้สมัครที่คิดจะยกเลิกการล้างบาป และตัวร้ายก็คิดจะใช้วันล้างบาปเพื่อจะฆ่า สว. คนนี้เพราะไม่อยากให้ยกเลิก เรื่องราวก็มีเพียงแค่นั้น ซึ่งเอาจริงถ้าตัดกิมมิคมันออก มันจะกลายเป็นหนังแอคชั่นดีๆ เรื่องหนึ่งที่พระเอกต้องคอยคุ้มกันบุคคลระดับสูงจากพวกผู้ร้ายที่เห็นต่าง อาจจะไม่ต่างจากพวก London has fallen หรือWhite house down เทือกนั้น หรืออาจคล้ายกันเลยก็ได้
ตัวหนังดำเนินเรื่องได้น่าสนใจในระดับหนึ่ง คือดูแล้วก็ลุ้นระทึกกับกิมมิคของมันนั่นแหละว่ามันจะไปเจอใคร จะมีไอบ้าโรคจิตที่ไหนมาทำร้าย ทั้งเมืองดูอันตรายและน่ากลัวไปหมด แต่สิ่งที่ทุกคนต้องคอยลุ้นระทึกกันมันก็ไม่สามารถสร้างอารมณ์คนดู(อย่างผม) ได้ลุ้นไปมากเท่าไรนัก เพราะพี่แกเล่นเอาไปไว้ในตัวอย่างซะหมด เท่าที่จำได้ก็ครบเลยแหละ (ฮา) เอาเป็นว่าฉากที่มันระทึกๆ ก็มีประมาณนั้นเท่าที่เห็นกันในตัวอย่างนั่นแหละ
แล้วพอดูตัวอย่างแล้วมาดูของจริง ฉากเหล่านั้นก็เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา และพวกมันก็โดนจัดการได้ง่ายราวกับปลอกกล้วยเข้าปาก แบบ “เฮ้ย ! นี่กูมาดูเพราะการแต่งหน้าแต่งตาโรคจิตของพวกมึงนะเนี่ยแต่มึงมาออกกันแค่นี้น่ะหรอ”
แต่ภาพรวมของหนังก็ถือว่าโอเคล่ะสำหรับผม ก็ดูเพลินดี เพราะเนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ถือว่าไม่เสียใจที่เสียค่าตั๋วเข้าไปดูเพราะมีลุ้นตลอดเวลา แต่เสียดายที่ไม่ค่อยมีหักมุมเท่าไร ไม่มีเลยน่าจะดีกว่านะ (ฮา)
เอาเป็นว่าผมให้ 7/10 คะแนน สำหรับหนังภาคต่อที่เหมือนจะต่อได้อีก จากที่ดูการตัดจบแบบดื้อๆของหนังตอนท้ายเรื่องอ่ะนะ แต่ของอย่างนี้ก็ต้องไปเห็นกับตา สนุกผมอาจไม่สนุกคุณก็ได้ ใครจะรู้ล่ะ?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in