**บทวิจารณ์นี้มีสปอยล์**
**บทวิจารณ์นี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นซึ่งอาจเหมือนหรือไม่เหมือนกับของคุณก็ได้**
เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่มีกระแสบอกต่อแรงมากๆและก็ได้คะแนนความนิยมไปอย่างล้นหลามตามๆ กันไป ตัวผมเองที่ก็ไม่ค่อยชอบดูหนังแนวนี้เท่าไร หลังจากที่ได้ไปดูมาก็รู้สึกว่าเฮ้ย ! มันดีจริง ทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะการเขียนบท สถานที่ มุมกล้อง หรือจุดขายของเรื่องอย่างเพลงก็ดีไปซะหมด
แต่ใครจะรู้ว่าวง Sing street นี้มีอยู่จริงๆด้วย ด้วยความปลื้มมากกับหนังหลังดูจบก็เผอิญไปอ่านความจริงมาว่าเคยมีวงนี้แล้วจริงๆ ในชื่อวงที่ว่า Get a Maxican Station โดยมีมือกีต้าร์อย่าง เอม่อนที่เรารู้จักกันในหนังตัวเป็นๆ และใครจะรู้ว่าเขาเองก็แอบมาเล่นบทเป็นภารโรงอยู่ในโรงเรียนSynge Street อันเป็นถิ่นกำเนิดอันคุ้นเคยของเขาอีกด้วยเพราะเจ้าโรงเรียนแห่งนี้ก็มีอยู่จริงเช่นกัน !
ส่วนความประทับใจของผมในหนังเรื่องนี้อาจเป็นบทบาทของตัวละครแต่ละตัวไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ และตัวพระเอก รวมถึงเพื่อนร่วมวงด้วย การวางบทตัวละครของเขามันส่งผ่านอารมณ์ มันทำให้เรารู้สึกว่าเราเข้าถึงและมีอารมณ์ร่วม รู้สึกว่าเราใกล้ชิด รู้สึกว่าบางทีเราก็ผ่านเหตุการณ์นั้นมาเหมือนกัน บางฉากก็รู้สึกอึดอัดไปกับตัวละครจริงๆ ดังนั้นอันดับหนึ่งของเรื่องที่ผมชอบเลยคือความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว
รองลงมาที่ประทับใจคือความเป็นยุค 80s ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว สถานที่ถ่ายทำ แสงสี ทุกอย่างมันให้อารมณ์ในยุคนั้นจริงๆ รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจ และความนิยมในขณะนั้น ที่ชอบอยู่อย่างคือเครื่องฟังเพลงที่นางเอกต้องเดินหิ้วเครื่องไปมามันดูเท่ห์ดี รู้สึกชอบเป็นการส่วนตัว(ฮา)
ต่อมาที่พูดถึงไม่ได้คือเพลง เพราะมันเป็นจุดขายของเรื่อง บอกก่อนว่าผมก็จำเพลงได้ไม่หมดจริงๆยกเว้นเพลงหลักๆ ของมัน แต่การวางจังหวะของเรื่องว่าเพลงจะขึ้นตอนไหน ยังไง มันตรงจุดและขับอารมณ์ของฉากนั้นออกมาได้สุดยอดและทำเราอินมากขึ้นไปอีกจริงๆ จะไม่อินได้ยังไงล่ะ ก็เอม่อนตัวจริงก็ยังมาร่วมแต่งเพลงประกอบและเล่นเบสเองอยู่เลยความอินเพิ่มขึ้นไปอีกหลังจากรู้ (ฮา)
แต่มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียกันบ้างล่ะเนอะ ผมว่าข้อที่พลาดของหนังเรื่องนี้ที่มีอยู่น้อยนิด(สำหรับผมนะ คนอื่นอาจให้มากกว่านี้) คือความง่ายในการสำเร็จและการวางตัวละคร ถ้าใครดูมาแล้วจะรู้ว่า เจ้าแบรี่เด็กเกเรในชั้นเรียนที่ต้นเรื่องดูจะมีวามสำคัญมากๆกลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรเลยในกลางเรื่อง แล้วอยู่ๆตัวบทก็ดันพาพระเอกไปชวนมาร่วมวงซะดื้อๆ ราวกับว่าแค่พยายามจะอุดช่องว่างของหนังซะอย่างนั้น(ใครคิดแบบนี้บ้างพยักหน้าเร็ว)
เอาเป็นว่าไม่ต้องพูดให้มากความ ไปดูซะ ! (ฮา) จะได้รู้ว่ามันดียังไง ผมให้คะแนนเรื่องนี้ไปเลย 9/10 ขอหักเจ้าแบรี่ซะหน่อย ไม่รู้ว่าจอห์น คาร์นีย์ แกตั้งใจหรือยังไง แต่ผมว่ามันออกชุ่ยไปหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าแกกำกับและพาทิศทางหนังไปในทางที่ดีจริงๆ หนังทุกเรื่องของ จอห์น คาร์นีย์ แกส่งผ่านอารมณ์ ความรู้สึก แรงปรารถนาขับดันอารมณ์ของคนดูให้เข้าร่วมและอยากทำอะไรขึ้นมาจริงๆ อันนี้ต้องขอยอมรับแกเลย ผมเองออกจากโรงนี่ยังอยากกลับไปเล่นกีต้าร์ที่บ้านเลย (ฮา)
แล้วคุณล่ะ คิดยังไงกับเรื่องนี้?
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิง: http://goo.gl/mDf2lI
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in