ตื่นเช้ามาไปกินข้าวแล้วคือเดินไปผิดห้องอาหาร แล้วคือไกด์นัดทำเรื่อง tax free แล้วแบบพอเข้าไปไม่เจอใครเลยที่อยู่ในกรุ๊ปทัวร์เดียวกับเราเลยแบบเดินหาใหม่แล้วโรงแรมกว้างทางซับซ้อนมากเกือบหาไม่เจอ5555 มาทันเวลาที่เขานัดแล้วกินอาหารเช้าตามปกติแต่อาหารไม่ค่อยอร่อยเลยอ่ะไม่ค่อยประทับใจตั้งแต่หลอดไฟในห้องขาดแล้ว
เช้านี้เราจะไปเที่ยวปราสาทกันแต่ตัวปราสาทปิดเป็นวันอาทิตย์ดูรอบนอกก็สวยล่ะจ้าแล้วปราสาทก็ปิดปรับปรุงเดินดูรอบนอกก็โอเคแล้วแกร
มหาวิหารเซนต์วิตัส
เป็นรูปข้างในวิหารที่เราไม่ได้เข้าไปแงงงง
( ที่มา : http://www.richard-seaman.com/Wallpaper/Travel/CzechRepublic/ )
( ที่มา : http://chill.co.th/europe/tour.php?pid=1045 )
มหาวิหารเซนต์วิตัส ( ด้านหน้า ) เขาปิดปรับปรุงเสียใจ
ขอพรกะปิ๊กกาจู๋ทองเหลืองคนลูบจนมันเหลืองคิดดูให้ขอเกี่ยวกับความรักขอให้มีแฟนไรงี้
เราไม่กล้าถ่ายรูป( มีความเขินสูง ) เลยส่งแม่ไป ( ดูหน้าแม่ฟินมากเว่อ 5555 )
หลังจากนั้นถ่ายรูปวิวกรุงปรากมุมที่สวยที่สุด
ผมยุ่งงงเว่อ 5555
หลังจากนั้นเราก็เดินกันต่อไปที่สะพานชาร์ลมีลูบรูปปั้นบาทหลวงเขาบอกว่าถ้าขอสิ่งใดอย่างแน่วแน่แล้วสิ่งที่ขอไว้จะเป็นจริงเพราะท่านศักดิ์สิทธิ์มากขอเป็นภาษาอะไรก็ได้พี่ไกด์บอกว่าท่านฟังออกคืออยากจะบอกพี่ไกด์ว่าตอนนั้นเรากำลังคิดแล้วร่างคำขอเป็นภาษาอังกฤษ 55555
เริ่มเดินกัน
ขอถ่ายรูปแบบติสๆนิดนึง55555
เดินมาถึงสะพานแย้ววว
บนสะพานจะมีรูปปั้นต่างๆประดับอยู่ตามสองข้างทางคนบนสะพานเยอะมากส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว
ตามทางก็จะมีจิตรกรวาดภาพเหมือนหรือมีการเล่นดนตรีและมีร้านขายของที่ระลึกจากกรุงปราก
กินหนมอีกแย้วเหมือนขนมเมื่อวานแต่ร้านเมื่อวานอร่อยกว่า
พอมองจากสะพานจะเห็นบ้านติดริมคลองสวยไปอีกแบบเนอะ
มาถึงจุดขอพรแล้วตรงรูปปั้นข้างหลังนั้นเองจริงๆแล้วมีเรื่องราวที่เราพอจำได้ในสมัยหนึ่งมีกษัตริย์กับพระราชินีในเช็กอยู่ปกครองบ้านเมืองสงบสุข แต่อยู่มาวันหนึ่งพระราชินีได้เข้าไปในโบสถ์ได้ทำการสารภาพซึ่งการจะสารภาพบาปเราจำเป็นต้องมีบาทหลวงคอยรับฟังแล้วบังเอิญมีคนไปเห็นแล้วเอาไปบอกพระราชา พระราชาก็เลยไปถามพระราชินีแต่พระราชินีไม่ยอมปริปากพูดท่านจึงสั่งให้คนไปสืบว่าใครคือบาทหลวงที่อยู่ในโบสถ์วันนั้น แล้วท่านก็สืบจนพบตัวแล้วได้ถามกับบาทหลวงผู้นั้น บาทหลวงท่านไม่ตอบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของพระราชินีและท่านก็ไม่สมควรพูดตามหน้าที่ของท่าน ดังนั้นพระราชาจึงสั่งประหารชีวิตบาทหลวงคนนี้โดยจับถ่วงน้ำกับสะพานชาส์ล หลังจากทำการประหารเสร็จได้มีหมู่ดาวที่มีรูปร่างคล้ายท่านบนฟ้า พระราชาเกรงกลัวบาทหลวงจึงได้ปั้นรูปปั้นแล้วกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในเมืองนี้
ขนาดเด็กยังขอพรแล้วแดวูจะพลาดได้ไง555
ใครตัวเตี้ยแบบเราต้องเขย่งนิดนึงนะ
รูปปั้นพระเยซู
ก็มีคนมาขอพรเหมือนกันแล้วแดวูจะพลาดไม่ได้เรื่องดวงเรื่องขอพรขอให้บอก
เดินจนมาถึงอีกฟากแล้วจ้าา
พวกเราเดินมาจุดนัดพบแล้วแบบรถเช่าไม่สามารถเข้ามารับเราได้เพราะปิดถนนแข่งวิ่งมาราธอนกันในเมือง 555
มายก๊อดต้องเดินไกลประาณ 1.7 กิโลเมตรแล้วถ้ารวมที่เราเดินตั้งแต่เข้าวังมาถึงสะพานแล้วไปที่รถประมาณ 2 กิโลกว่าๆ 55555 ตัดภาพมาตอนเช้าพี่ไกด์บอกว่าอย่าทำตัวให้เหงื่อออกเยอะเพราะเราจะขึ้นเครื่องกันเดินทางหลายชั่วโมงแล้วเราก็ไม่ได้อาบน้ำ
เดินไม่หยุดเลยกลัวไปขึ้นเครื่องไม่ทัน 555
สุดท้ายเราก็มาถึงสนามบินแล้วคือเขาไม่เลี้ยงข้าวเที่ยงเราเรามีมาม่าคัพจากประเทศไทยที่พี่ไกด์แจกให้มากินเอาน้ำร้อนจากตู้กดโชคดีที่สามารถใช้เหรียญยูโรได้แต่ได้ทอนเป็นเงินสกุลเช็กก็แลกเงินไทยไม่ได้อยู่ดี 5555 เราแบบหลบมุมกินมาม่าข้างสนามบินแบบอร่อยมากแล้วคิดถึอาหารไทยมาก พอถึงไทยนี้บอกให้พ่อสั่งลาบน้ำตกไข่ต้ม คิดถึงอาหารไทยมากจริงๆ 5555
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาถึงตอนสุดท้ายของการไปเที่ยวยุโรปในทริปนี้เนอะ
ครั้งหน้าไปเที่ยวไหนอย่าลืมติดตามชมกันนะคะ ขอบคุณค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in