เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
EP.3 Czech | #WANDERINGWITHDAEWOODaewoo Wnsbd
EP.3 Czech | #WANDERINGWITHDAEWOO
  • Good evening everyone, we will go to travel Czech, the last country in this trip. 

    LET'S GO


    ตอนที่แล้วหลังจากออกจากออสเตรียเข้าสู่ประเทศเชกโดยผ่านเมืองเชสกี้คลุมลอฟ ( Cesky Krumlov ) อยู่ในภูมิภาคโบฮีเมียใต้ของสาธารณรัฐเชก เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น คือ....คือ.....คือ...เมมกล้องถ่ายรูปเต็ม อมกๆๆ5555 เลยต้องใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปแทน แอบเซ็ง
    ก็เลยถ่ายรูปมาได้ไม่เยอะเท่าไหร่แล้วแบบไปดูปราสาทเชสกี้คลุมลอฟ ( Cesky Krumlov Castle )
    แต่เมมเต็มคือไรฝนตกอีกตะหาก มีความซวยเบาๆ



    ฝนมันก็จะตกๆหน่อยคือไม่ได้พกร่มไป
    ดูไปดูมาก็เหมือนถุงขยะเหมือนกัน55555


    รูปอาจจะไม่ได้ถ่ายข้างในเยอะนะเพราะเมมเต็มแงงงงง




  •     คืนนี้พักกันในโรงแรมในเมืองนี้ เป็นเมืองที่สงบอาหารเช้าอร่อยมากห้องพักดีนอนสบายชอบมากรู้สึกนอนสบายมากเลอะแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา 5555
    ช่วงเช้าเราจะไปเมืองแห่งน้ำแร่ คาร์โลวี่วารี่ (เขียนไปแล้วเมื่อตอนที่แล้วมีการมึนๆในการเรียงวันเบาๆ ขอโทษด้วยนะคะ555)
    ในระหว่างการเดินทางใช้รถเช่าการเดินทางระหว่างประเทศหรือเดินทางเมืองระยะทางค่อนข้างไกลมีแวะปั๊มเพื่อให้คนขับพักให้ลูกทัวร์เข้าห้องน้ำ ในการเข้าห้องน้ำแต่ละทีเสียค่าเข้าห้องน้ำประมาณ 0.5-0.7 ยูโร (ประมาณ19 - 26 บาท)ในวันนึงที่เราเข้าห้องน้ำประมาณ 3-4 ครั้งหมดไปเกือบ 100 อมกๆ5555 แต่เราสามารถนำใบเสร็จที่เข้าห้องน้ำมาลดของที่จะซื้อในมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันได้(อยากจะบอกว่าห้องน้ำบางที่ที่เสียตังค์ก็ไม่ใช่ว่าจะสะอาดนะ555)
    บอกเลยว่าดอกจัน 118 ดอกเลยว่าการเข้าห้องน้ำสำหรับผู้หญิงควรพกทิชชู่เปียกเพราะห้องน้ำที่ยุโรปไม่มีที่ฉีดน้ำมีแต่ทิชชู่แห้งแม้กระทั่งห้องน้ำในโรงแรมก็ไม่มีที่ฉีดตูด5555


    หลังจากออกจากเมืองคาร์โลวี่วารี่ เราจะเข้าสู่กรุงปรากเมืองแห่งความโรแมนติก


    เป็นประเทศแรกที่เราแบบเข้าไปในเมืองหลวงเลยประทับใจมากในสถาปัตยกรรมแต่เรื่องความสะอาดสู้ 2 ประเทศที่ผ่านมาไม่ได้อาจจะแบบคนเยอะเป็นเมืองหลวงอ่ะป่าวที่แรกที่เรามาเมืองหลวง เราจะเดินไปจัตุรัสเมืองเก่าระหว่างทางรายล้อมไปด้วยร้านแบรนด์เนมแล้วพี่ไกด์ปล่อยให้เราเดินชิลเกือบ 2 ชั่วโมง 


    แล้วในขณะนั้นเราอยากเข้าห้องน้ำมากเลอะแล้วพี่ไกด์บอกว่าไปเข้าในสตาร์บัคได้เข้าฟรีแบบตีเนียนไปไรงี้แต่ปรากฎว่า....มันไม่ฟรีจ้าไม่ฟรีไม่พอดันต้องใช้เงินสกุลของเชกแล้วคือนี้แลกมาแค่เงินยูโรเพราะเงินสกุลเชกใช้แค่ในประเทศเชกแล้วเราไม่สามารถนำกลับมาแลกเป็นเงินสกุลไทยได้ด้วยแต่บางที่เขาก็ใช้เงินสกุลยูโรด้วยแอบลำบากเบาๆเราก็เลยต้องอั้นต่อไป

    พอออกมาจากสตาร์บัคเดินมาดูหอนาฬิกามีอายุ 600 กว่าปี มีการตกแต่งแกะสลักได้อย่างประณีตมากเกี่ยวกับดาราศาสตร์ นาฬิกาจะตีดังบอกเวลาทุกๆชั่วโมง และจะมีการแสดงท่าทางของสาวกทั้ง 12 คน และการเคลื่อนไหวของรูปปั้นอื่นบนหน้าปฏิทิน แล้วพระเยซูจะปรากฎบนรูปปั้นไก่งวง
    ตอนที่เราไปคนแน่นมากแล้วเราก็ไม่รู้ว่าเขามุงดูนาฬิกาทำไม เราเห็นแค่มีตุ๊กตาเดินวนไปมากับรูปปั้นตีระฆัง ไม่เห็นรูปพระเยซูเราไม่สามารถเบียดเข้าไปได้แล้วรูปย้อนแสงอีก 5555



    ( ที่มา : http://orloj.webgarden.cz/ )

    เดินไปสักพักเริ่มหิวแล้วอ่ะแกรตอนนั้นประมาณ 5 โมงเย็น พอดีแม่กับเพื่อนแม่กำลังเลือกซื้อของฝากร้านฝั่งตรงข้ามมีไอติมกับขนมปังแล้วแบบคนต่อแถวยาวมั่กๆกลิ่นขนมปังก็หอมเราเลยแอบไปส่องร้านก่อนว่าใช้เงินยูโรได้มั๊ย ปรากฎว่าใช้เงินยูโรได้จ้าาาเราเลยไปขอเงินจากแม่แล้วไปต่อแถวก็รอคิวประมาณเกือบ 10 คน รอประมาณ 20 กว่า นาทีสุดท้ายก็ได้กินเราสั่ง ice-cream + nutella ประมาณ 4.50 ยูโร ( ประมาณ 166.50 บาท ) อร่อยดีชอบตรงขนมปังแบบกรอบนอกนุ่มในฟินดีไอติมก็เป็น
    ไอติมวนิลลาก็พอโอเคราดด้วย nutella พอกินเสร็จเพิ่งรู้ว่าเป็นขนมพื้นเมืองในเช็กเราควรจะมากินเรียกว่า​ อะลูมิไล้​ ( อะไรไม่รู้​ )​ แต่คนขายหน้าตาดีแล้วแบบนาง​ 2 คนทำกันใจเย็นมาก555
    สรุปมันเรียกว่า Trdelnik ออกเสียงเป็นภาษาไทยว่า “ตรึ๊ด-เดล-หนิก” ( ออกเสียงยากมากเว่อ 555 )


    เราก็เดินกลับมาที่สตาร์บัคอีกครั้งเพื่อจะมากินขนมที่เพิ่งซื้อมาเดินไปกินไปมันก็ลำบากนิดนึงนี้เดินเข้ามาโง่ๆเลยกาฟงกาแฟก็ไม่ได้สั่งสักแก้ว5555 แล้วแบบกินไปนั่งมองห้องน้ำไปมีความเศร้า หนูอยากเข้าห้องน้ำ 55555 พอกินเสดเราก็เดินเล่นต่อจ้าา

    ตึกรามบ้านช่อง


    หลังจากกินเสร็จแล้วก็เดินเล่นถ่ายรูปกันต่อ


    มีคนมาแฮร่ใส่เราด้วยก็คือ คนที่ชู 2 นิ้ว ( ชอบเราก็บอก5555 )


    โฟกัสข้างหลังดีๆมีคนอยากถ่ายรูปกะฉันด้วยคนมัน​hot 5555


    เฮียแกเป็นนายแบบเก่าหรอม​(แซวเล่นนาจา)​


    เดินไปเดินมาแกรเจอร้านนวดแผนไทยแล้วเราก็ขอเขาเข้าห้องน้ำเขาให้เข้าเว่ยเพราะเป็นคนไทย(อย่างงี้ก็ได้หรอ 5555) เห็นฝรั่งมานวดเท้ากันใหญ่เบย เราเห็นแค่ป้ายราคาเดียวอ่ะน่ะไม่รู้ว่านวดอะไร ราคาประมาณ 9.99 ยูโร (ประมาณ 369.63 บาท) หลังจากที่เข้าห้องน้ำเสร็จเราก็ได้คุยกับพนักงานต้อนรับชาวแอฟริกานิดหน่อยเขาบอกว่า
    เขามาทำงานที่นี้ได้ 2-3 ปี แล้วเขาก็ถามว่า เรากะผู้หญิงเป็นแม่ลูกกันใช่ม่ะ
    เราก็แบบตอบว่า ใช่ๆ
    เขาก็ถามว่าแล้วพ่อไม่มาเที่ยวด้วยอ่อ
    เราตอบว่า พ่อทำงานอยู่ไทยไม่ได้มาเที่ยว 55555
    พอคุยกันสักพัก แม่บอกอยากถ่ายรูปกะเขา เราก็เลยขอให้(อีกแล้ว)


    ทำท่ากด Like หน่อย 5555


    เราก็เดินมาร้านข้างๆติดกับร้านแผนไทยเป็นร้านขายของ tax free เราเลยแบบเข้าไปดูหน่อย5555
    แล้วก็โดนกระเป๋สเป้สีชมพูนู้ดเอาจริงมันก็ไม่ได้มียี่ห้ออะไรแต่ก็อยากได้55555 ราคา 40 ยูโร แล้วเพื่อนแม่ต่อให้เหลือ 38 ยูโร ( ประมาณ 1,406 บาท )

    หลังจากนั้นเราก็เดินเล่นกันจนเมื่อยขาแล้วก็กลับมารอทุกคนที่จุดนัดพบ แล้วจู่ๆแม่ก็อยากให้เราถ่ายรูปกะฝรั่งแล้วแบบตื้อเราให้เขาไปขอถ่ายรูปก็ให้เราไปขอถ่ายคู่รักเกย์ซึ่งแม่ไม่รู้ว่านางเป็นคู่รักกันแม่อยากให้เราถ่ายรูปกะเขาสุดท้ายเลยทำตามที่แม่ขออ่ะน่ะให้แม่มีความสุขหน่อย55555 


    ฉันดูเหมือนไปแย่งแฟนเขามาถ่ายรูป555(ขอโทษนะคะแต่ก็ขอบคุณที่เขาให้ถ่ายรูปตามความปรารถนาของแม่55)​
    พอถ่ายรูปเสร็จแล้วแม่ก็เห็นว่าเขา 2 คน เดินกันออกไปกันกะหนุงกะหนิ้ง แม่ก็หันมาถามเราว่า
    เขาเป็นคู่รักกันหรอ
    เราเลยตอบไปว่า แม่ไม่รู้จิงอ่ะ55555

    แล้วเราก็ไปกินข้าวแล้วพักที่โรงแรมกัน 



    โรงแรมแบบกว้างใหญ่ดูดีมากเลยแกแต่แบบพอไปถึงห้องแคบกว่าโรงแรมอื่นที่เราเคยไปพักกันมาหลอดไฟขาด 1 ดวง อย่างเซ็งบอกเลอะ5555 แล้วน้ำในขวดที่เคยซื้อมันหมดแล้วก็แบบไม่รู้จะไปเติมที่ไหน แต่เราเห็นตู้กดน้ำแถวๆล๊อบบี้ เราตั้งใจจะไปซื้อน้ำจากตู้เลอะเตรียมตังไปอย่างดีปรากฎว่าไม่รับเหรียญยูโรเลยอดกินน้ำคอแห้งเลยจ้าา น้ำประปาที่นี้ไม่สามารถดื่มได้เหมือนกับประเทศเยอรมันกับออสเตรียนะ เลยต้องทนคอแห้งกันต่อไป5555
  •     ตื่นเช้ามาไปกินข้าวแล้วคือเดินไปผิดห้องอาหาร แล้วคือไกด์นัดทำเรื่อง tax free แล้วแบบพอเข้าไปไม่เจอใครเลยที่อยู่ในกรุ๊ปทัวร์เดียวกับเราเลยแบบเดินหาใหม่แล้วโรงแรมกว้างทางซับซ้อนมากเกือบหาไม่เจอ5555 มาทันเวลาที่เขานัดแล้วกินอาหารเช้าตามปกติแต่อาหารไม่ค่อยอร่อยเลยอ่ะไม่ค่อยประทับใจตั้งแต่หลอดไฟในห้องขาดแล้ว
    เช้านี้เราจะไปเที่ยวปราสาทกันแต่ตัวปราสาทปิดเป็นวันอาทิตย์ดูรอบนอกก็สวยล่ะจ้าแล้วปราสาทก็ปิดปรับปรุงเดินดูรอบนอกก็โอเคแล้วแกร


    มหาวิหารเซนต์วิตัส


    เป็นรูปข้างในวิหารที่เราไม่ได้เข้าไปแงงงง

    ( ที่มา : http://www.richard-seaman.com/Wallpaper/Travel/CzechRepublic/ )

    ( ที่มา : http://chill.co.th/europe/tour.php?pid=1045 )




    มหาวิหารเซนต์วิตัส ( ด้านหน้า ) เขาปิดปรับปรุงเสียใจ


    ขอพรกะปิ๊กกาจู๋ทองเหลืองคนลูบจนมันเหลืองคิดดูให้ขอเกี่ยวกับความรักขอให้มีแฟนไรงี้
    เราไม่กล้าถ่ายรูป( มีความเขินสูง ) เลยส่งแม่ไป ( ดูหน้าแม่ฟินมากเว่อ 5555 )



    หลังจากนั้นถ่ายรูปวิวกรุงปรากมุมที่สวยที่สุด


    ผมยุ่งงงเว่อ 5555


    หลังจากนั้นเราก็เดินกันต่อไปที่สะพานชาร์ลมีลูบรูปปั้นบาทหลวงเขาบอกว่าถ้าขอสิ่งใดอย่างแน่วแน่แล้วสิ่งที่ขอไว้จะเป็นจริงเพราะท่านศักดิ์สิทธิ์มากขอเป็นภาษาอะไรก็ได้พี่ไกด์บอกว่าท่านฟังออกคืออยากจะบอกพี่ไกด์ว่าตอนนั้นเรากำลังคิดแล้วร่างคำขอเป็นภาษาอังกฤษ 55555

    เริ่มเดินกัน


    ขอถ่ายรูปแบบติสๆนิดนึง55555


    เดินมาถึงสะพานแย้ววว



    บนสะพานจะมีรูปปั้นต่างๆประดับอยู่ตาม​สองข้างทางคนบนสะพานเยอะมากส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว


    ตามทางก็จะมีจิตรกรวาดภาพเหมือนหรือมีการเล่นดนตรี​และมีร้านขายของที่ระลึกจากกรุงปราก



    กินหนมอีกแย้วเหมือนขนมเมื่อวานแต่ร้านเมื่อวานอร่อยกว่า


    พอมองจากสะพานจะเห็นบ้านติดริมคลองสวยไปอีกแบบเนอะ


    มาถึงจุดขอพรแล้วตรงรูปปั้นข้างหลังนั้นเองจริงๆแล้วมีเรื่องราวที่เราพอจำได้ในสมัยหนึ่งมีกษัตริย์​กับพระราชินีในเช็กอยู่ปกครองบ้านเมืองสงบสุข​ แต่อยู่มาวันหนึ่งพระราชินีได้เข้าไปในโบสถ์ได้ทำการสารภาพซึ่งการจะสารภาพบาปเราจำเป็นต้องมีบาทหลวงคอยรับฟังแล้วบังเอิญมีคนไปเห็นแล้วเอาไปบอกพระราชา​ พระราชาก็เลยไปถามพระราชินีแต่พระราชินีไม่ยอมปริปากพูด​ท่านจึงสั่งให้คนไปสืบว่าใครคือบาทหลวงที่อยู่ในโบสถ์วันนั้น​ แล้วท่านก็สืบจนพบตัวแล้วได้ถามกับบาทหลวงผู้นั้น​ บาทหลวงท่านไม่ตอบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของพระราชินีและท่านก็ไม่สมควรพูดตามหน้าที่ของท่าน ดังนั้นพระราชาจึงสั่งประหารชีวิตบาทหลวงคนนี้โดยจับถ่วงน้ำกับสะพานชาส์ล​ หลังจากทำการประหารเสร็จได้มีหมู่ดาวที่มีรูปร่างคล้ายท่านบนฟ้า​ พระราชาเกรงกลัวบาทหลวงจึงได้ปั้นรูปปั้นแล้วกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในเมืองนี้


    ขนาดเด็กยังขอพรแล้วแดวูจะพลาดได้ไง555


    ใครตัวเตี้ยแบบเราต้องเขย่งนิดนึงนะ


    รูปปั้นพระเยซู
    ก็มีคนมาขอพรเหมือนกันแล้วแดวูจะพลาดไม่ได้เรื่องดวงเรื่องขอพรขอให้บอก



    เดินจนมาถึงอีกฟากแล้วจ้าา


    พวกเราเดินมาจุดนัดพบแล้วแบบรถเช่าไม่สามารถเข้ามารับเราได้เพราะปิดถนนแข่งวิ่งมาราธอนกันในเมือง 555


    มายก๊อดต้องเดินไกลประาณ 1.7 กิโลเมตรแล้วถ้ารวมที่เราเดินตั้งแต่เข้าวังมาถึงสะพานแล้วไปที่รถประมาณ 2 กิโลกว่าๆ 55555 ตัดภาพมาตอนเช้าพี่ไกด์บอกว่าอย่าทำตัวให้เหงื่อออกเยอะเพราะเราจะขึ้นเครื่องกันเดินทางหลายชั่วโมงแล้วเราก็ไม่ได้อาบน้ำ



    เดินไม่หยุดเลยกลัวไปขึ้นเครื่องไม่ทัน 555


    สุดท้ายเราก็มาถึงสนามบินแล้วคือเขาไม่เลี้ยงข้าวเที่ยงเราเรามีมาม่าคัพจากประเทศไทยที่พี่ไกด์แจกให้มากินเอาน้ำร้อนจากตู้กดโชคดีที่สามารถใช้เหรียญยูโรได้แต่ได้ทอนเป็นเงินสกุลเช็กก็แลกเงินไทยไม่ได้อยู่ดี 5555 เราแบบหลบมุมกินมาม่าข้างสนามบินแบบอร่อยมากแล้วคิดถึอาหารไทยมาก พอถึงไทยนี้บอกให้พ่อสั่งลาบน้ำตกไข่ต้ม คิดถึงอาหารไทยมากจริงๆ 5555

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาถึงตอนสุดท้ายของการไปเที่ยวยุโรปในทริปนี้เนอะ
    ครั้งหน้าไปเที่ยวไหนอย่าลืมติดตามชมกันนะคะ ขอบคุณค่ะ




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in