เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
REVIEW หนังสือCats_Clover
แนะนำหนังสือ 3 เล่ม ที่เข้าใจเรา
  • หนังสือที่เข้าใจเราหรือหนังสือให้กำลังใจคนอ่าน หลายคนคงนึกถึงหนังสือประเภทที่รวมเอาคำคมเด็ดๆยอดกดไลค์เยอะๆมาทำเป็นรูปเล่มขายล่ะสิ แต่ไม่ใช่

    เพราะหนังสือ 3 เล่มที่จะแนะนำต่อไปนี้เขียนมาจากผู้ที่มีอาการซึมเศร้า (ไม่เศร้าก็อ่านได้) ที่นอกจากจะมาเล่าอาการที่เป็นแบบสั้นๆ อารมณ์ต่างๆขณะอาการกำเริบ แต่ยังช่วยปลอบใจผู้อ่าน ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจตัวเองมากขึ้น และนำเสนอมุมมองดีๆที่ผู้อ่านก็สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิต

    หรืออย่างน้อยหนังสือ 3 เล่มนี้ก็ช่วยเป็นเพื่อนที่รับฟังและเข้าใจคุณได้ ด้วยการเจอเหตุการณ์ที่คล้ายๆกับเรา เมื่อโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราที่โชคร้าย หัวใจก็พลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา



    1.อย่าให้ใจเราเจ็บ (Don't get my Heart Hurt)

    อย่าให้ใจเราเจ็บ หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องโดยผ่านเจ้ากระต่ายที่ชื่อซอลโท ซอลโทเป็นกระต่ายที่มีความทุกข์ในชีวิตเยอะมาก และความทุกข์ของซอลโทก็มาจากการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องเพื่อน เรื่องความรัก หรือแม้แต่การอยู่เฉยๆก็ทำให้ซอลโทเศร้าได้


    "ฉันทุกข์ใจแล้วก็หายดี ค่อยยังชั่วได้หน่อยก็เศร้าอีก พอดีขึ้นก็ดันหวนไห้เรื่องอดีต... คิดว่าฉันแปลกหรือเปล่า"

    "แสดงว่าหัวใจมีเรื่องอยากบอกน่ะสิ"


    ซอลโทเหมือนกับฟองน้ำที่ดูดซับความเศร้าเอาไว้ บางความเศร้าซอลโทไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จู่ๆหัวใจก็หนักอึ้งจนเหมือนจะล่วงหล่น แต่สิ่งที่ซอลโททำไม่ใช่แค่การกอดตัวเองร้องไห้ แต่ซอลโทยังสำรวจตรวจสอบความเศร้าของตัวเองว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เกิดขึ้นเพราะอะไร และค้นหาวิธีรับมือ

    อ่านๆไปชีวิตของซอลโทก็เหมือนกับชีวิตเรานั่นแหละ ไม่มีใครสมหวังทุกอย่างในชีวิต ให้ซอลโทเป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนภาพของเรา หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ห้ามให้คุณเศร้า แต่จะตั้งคำถามแล้วชี้แนะวิธีอยู่ร่วมกับความเศร้าเหล่านั้น หลังจากนั้นเราจะมองความเศร้าเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถรับมือได้


    "เอาน่า คนเราก็มีวันแบบนี้กันบ้าง"


    ผู้แต่ง/ภาพประกอบ : Seolleda (ซอลเลดา)
    ผู้แปล : ตรองสิริ ทองคำใส
    สำนักพิมพ์ :Springbooks



    2.แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นจริง ๆ นะ

    แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นจริง ๆ นะ เป็นภาคต่อจากอย่าให้ใจเราเจ็บ ตัวเอกที่ดำเนินเรื่องยังคงเป็นเจ้ากระต่ายซอลโท ดูเหมือนความเศร้าของซอลโทจะไม่มีวันจบสิ้น และครั้งนี้ซอลโทจะพาเราไปทำความรู้จักกับหัวใจตัวเอง ในส่วนที่ลึกที่สุดว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่ บางทีเราอาจซ่อนความรู้สึกแท้จริงของตัวเองเอาไว้ การยอมรับตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด ลองทำความเข้าใจหัวใจตัวเองดูสักครั้งสิ


    "ถึงเป็นกล่องใส่หัวใจของตัวเอง เราก็ไม่รู้ว่ามีอะไรในกล่องจนกว่าจะเปิดดู"


    เล่มต่อถูกแบ่งเป็นพาร์ทเพื่อให้เราทำความรู้จักกับหัวใจตัวเองได้ง่ายขึ้น ค่อยๆคุยกับหัวใจไปทีละเรื่อง เป็นเหมือนสารบัญอารมณ์ก็ว่าได้ อีกสิ่งที่ต่างจากเล่มแรกคือเล่มนี้พูดถึงเรื่องความรักมากขึ้น เมื่อเริ่มรัก เมื่อให้หัวใจไป และเมื่อต้องเจ็บเพราะความรัก ซอลโทจะรับมือกับความเศร้านี้ยังไง

    นอกจากนั้นเรายังพบการจิกกัดเล็กๆแต่เจ็บจี๊ดในหนังสือเล่มนี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจิกกัดตัวเองที่ปล่อยปละละเลยหน้าที่ หรือการจิกกัดคนอื่นที่ทำอะไรขัดแย้งกับคำพูด บางหน้ายังมีสอดแทรกอารมณ์ขันเอาไว้ด้วย ทำให้การคุยกับตัวเองไม่เคร่งเครียดจนเกินไป

    หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนตัวแทนหัวใจที่อยากบอกอะไรกับเรา และเป็นเหมือนเพื่อนที่เข้าอกเข้าใจเรา หากต้องการคนรับฟังไปพร้อมๆกับชี้แนะว่าจะอยู่ร่วมกับความรู้สึกมากมายพวกนี้ยังไง ลองหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านสิ หรืออย่างน้อยใช้มันเป็นประตูเข้าไปคุยกับหัวใจตัวเองก็ได้นะ


    "ที่สุดแล้วคนทำให้เราขยับคือตัวเราเอง"


    ผู้แต่ง/ภาพประกอบ : Seolleda (ซอลเลดา)
    ผู้แปล : ตรองสิริ ทองคำใส
    สำนักพิมพ์ :Springbooks



    3.ไม่ได้ขี้เกียจแค่กำลังชาร์จพลัง

    อาการหมดไฟหรืออาการหม่นหมองซึมเศร้าเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกวัย อาการคือจู่ๆก็ไม่อยากทำอะไรเลย แม้แต่การออกไปร้านสะดวกซื้อที่เดินไม่กี่นาทีถึงยังดูห่างไกล พอคิดว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้างก็ได้แต่ถอนใจแล้วทิ้งตัวลงนอนตามเดิม

    หลายคนมองว่าอาการแบบนี้ของตัวเองคือปัญหา แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มองว่าอาการนี้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะเวลาไม่อยากทำอะไรก็มีการไม่ทำอะไรนี่ละที่ช่วยได้

    ไม่อยากทำอะไรเลยงั้นหรอ? งั้นก็ไม่ต้องทำสิ ไม่ได้สนับสนุนให้เป็นคนเอื่อยเฉื่อยแต่บางครั้งการนอนเฉยๆแล้วปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไปก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน อย่างน้อยวันนั้นก็ถือเป็นการพักร่างกายและหัวสมองที่ถูกใช้งานมาเนิ่นนาน หรือเรียกว่าชาร์จพลังอย่างที่ในหนังสือบอก

    หนังสือไม่ได้พูดถึงแค่อาการหมดไฟหรืออาการซึมเศร้าเท่านั้น แต่ยังตัดพ้อถึงเหตุการณ์แย่ๆในชีวิตอีกด้วย หลายเหตุการณ์ยังชักนำไปสู่อาการหมดไฟและซึมเศร้า อย่างเช่นเจอคนพูดแย่ๆใส่จนไม่อยากไปทำงาน  หรือเวลาที่ปัญหารุ่มเร้ามากๆจนคิดไม่ตก ช่วงท้ายของหนังสือได้นำเสนอมุมมองดีๆให้เรา ความคิดดีๆบางทีก็ช่วยเราได้เหมือนกันนะ

    บทบรรยายในหนังสือต้องอาศัยตีความนิดหน่อย แต่ภาพประกอบที่เป็นเอกลักษณ์อ่านแล้วเพลินดี อ่านแล้วจะพบว่าในชีวิตเรามีหลายอย่างที่ตรงกับในหนังสือ แสดงว่าไม่จำเป็นต้องเป็นโรคซึมเศร้าก็พบเจอเหตุการณ์อย่างในหนังสือได้ ใครพบเจอเหตุการณ์แย่ๆก็ลองเอามุมมองดีๆที่นักเขียนนำเสนอไปปรับใช้ดูนะ เล่มนิยมก็จะนำไปลองใช้เหมือนกันจ้า


    ผู้แต่ง/ภาพประกอบ : Dancing Snail
    ผู้แปล : ตรองสิริ ทองคำใส
    สำนักพิมพ์ :Springbooks


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in