ดอกกุหลาบหน้ารั้วสีขาวเบ่งบานสวยงามแม้ฝนจะตก ท้องฟ้ามืดมัวไม่น่ามอง ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มคนนึงยืนอยู่ริมรั้ว กางร่มสีดำมีลายหยดน้ำสีขาวยืนมองอยู่ เขาไม่ได้พูดอะไร แค่จับจ้องไม่ละสายตา ไม่มีเสียงอะไรนอกจากความเงียบรอบๆตัว จนกระทั่งเสียงนึงที่เอ่ยทักก็ทำให้เขาหันไปมอง ชายหนุ่มคนนึงยืนอยู่นอกรั้ว ตรงกอกุหลาบ
“ ไม่กลัวเป็นหวัดเหรอ? “ เขาถาม ชายหนุ่มผมแดงที่ถือร่มส่ายหน้า
“ มีร่ม… “
“ อากาศมันเย็น กลับเข้าบ้านเถอะครับ ทา “
“ เดี๋ยวจะกลับแล้วล่ะ แค่อยากมองดอกกุหลาบพวกนี้อีกหน่อย มันสวย “
“ ผมตั้งใจปลูกให้คุณเลยนะครับ “ คนฟังยิ้ม
“ ฉันรู้ สวยมากเลย ขอบใจนะ ฉันจะดูแลมันอย่างดี นายไม่ต้องห่วงนะ บาร์ต “
“ แล้วคุณล่ะ ทา… “ ทารคามองหน้าอดีตคนรัก บาร์ตยิ้มให้
“ คุณทำผมห่วง…ทำให้ผมคิดถึง “
“ ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันไหว ฉันจะไปแล้วล่ะ …. “ ชายหนุ่มผมขาวยิ้มเห็นเขี้ยวเหมือนเดิม ขยับตัวมาใกล้รั้วมากขึ้นแต่ไม่ได้ใกล้กับทารคาเลย ทั้งสองห่างเพียงรั้วกัน
“ เดินทางดีๆนะ “ บาร์ตกระซิบเบาเหมือนฝากสายฝนไปให้
“ อืม...นายก็ด้วย ไม่มีฉันแล้วอย่า...งอแงนะ “
“ ไม่หรอกน่า คุณต่างหาก อย่าร้องไห้บ่อยนะ ผมห่วง “
“ จะพยายามนะ บาร์ต… “
“ คุณเป็นคนเก่ง ผมรู้ คุณเข้มแข็งยิ่งกว่าใคร ...และผมก็รักคุณมากกว่าใคร “ ทารคาพยักหน้ารับ ตามีน้ำตาคลอหน่วยแต่อดกลั้นไม่ยอมให้ไหลออกมา บาร์ตยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะแก้มที่เย็นเยียบอย่างแสนรัก…
“ ฉันรู้….แต่ฉันไม่อยากจากนายไป “ ชายหนุ่มผมแดงสะอื้นบอก มือที่จับร่มสั่น
“ อย่าทำหน้าแบบนั้น ห่างกันแค่ไหนใจผมก็อยู่กับคุณ “
“ ฉันรักนาย...รักที่สุด “ คนน้อยวัยกว่ายิ้มให้อีกครั้ง ยิ้มที่อบอุ่นราวแสงตะวัน เขาค่อยๆดึงให้ทารคาโน้มมาหา จูบนั้นแผ่วเบานุ่มนวล เย็นและชื้นแฉะจากฝาและน้ำตา ร่มหลุดจากมือของทารคา ไร้เสียงใดๆนอกจากเสียงสะอื้นและเสียงฝนตกเท่านั้น
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
“ พี่ครับ….ทำไมออกมาตากฝน “ เสียงทุ้มที่ออกมาากปากน้องชายเพียงคนเดียวของทารคาทำให้เขาหันกลับไปมองทั้งน้ำตา
“ ชาด… “
“ พี่? ร้องไห้อีกแล้ว มานี่เถอะ รีบเข้ามาก่อน “ ชาดตรงเข้าไปพาตัวพี่ชายกลับเข้ามาในบ้าน ผ่านคอนไม้ที่ว่างเปล่า และข้าวของที่ถูกวางแพ็คอย่างดีน้องชายประคองให้พี่นั่งลงกับโซฟา พยายามหาชาหรือเครื่องดื่มร้อนๆให้พี่ที่หนาวสั่นดื่ม แต่ก็ไม่มีเลย โชคดีที่ยังมีกาต้มน้ำอยู่ เขาจึงต้มน้ำอุ่นๆใส่แก้วที่ต้องเอาออกมาล้างน้ำสักรอบก่อนรีบนำมาให้ทารคา
“ พี่ทา ดื่มนี่หน่อย จะได้ไม่หนาว แล้วพี่ออกไปตากฝนทำไม? “
“ ชาด… “
“ ครับ? “
“ ….พี่เจอบาร์ต “ ชื่อของบุคคลที่สามทำให้ชายหนุ่มตัวหนากว่าพี่ถอนใจ ยกมือกุมมือพี่ชายเอาไว้แน่น
“ พี่ทา...พี่บาร์ตเขา... “ ทารคาส่ายหน้าก่อนที่ชาดจะเอ่ยต่อ
“ ฉันรู้ ฉันรู้ว่าบาร์ตตาย ตายในวันนี้ วันวาเลนไทน์ ….เขาไม่อยู่ข้างๆฉันมาสามปีแล้วชาด “ น้ำตาไหลจากดวงตาสีทอง คนเป็นน้องอับจนคำูดที่จะเอ่ยปลอบ แต่ก็พยายามจะปลอบเท่าที่ทำได้
“ พี่ทา ไม่ร้องไห้นะพี่ พี่บาร์ตจะห่วงนะ วันนี้พี่กลับมาก็เพื่อมาดูบ้านนี่ ถ้าไม่มีอะไรก็กลับกันเถอะนะ ผมทำเรื่องให้พี่ไปพักกับญาติเราที่อังกฤษแล้ว อยู่ต่อนานๆจะไม่ดีกับพี่ เชื่อผม “
“ ….พี่เปลี่ยนใจแล้ว พี่อยากอยู่นี่ “
“ พี่ทา? “
“ พี่หนีความจริงว่าบาร์ตตายไปตั้งสามปีแล้ว พี่จะไม่หนีอีก...สามปีมานีพี่เอาแต่ร้องไห้ ไปอยู่บ้านใหญ่เพื่อลืม แต่พี่ทำไม่ได้ชาด “
“ ...บาร์ตมาหาพี่ แกอาจไม่เชื่อ...แต่เขามาหาพี่ “
“ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงห่วงพี่มาก “
“ ...แต่เขากำลังจะไปแล้ว “
“ หา? “
“ พี่รู้...บาร์ตมาเพื่อลาพี่ คงรู้ว่าพี่จะไม่อยู่บ้านนี้แล้ว บ้านของเรา เขาเลยมาลาพี่ มาจูบลาพี่ “ ชาดกอดพี่ชาย อยู่ข้างๆมาตลอดสามปีย่อมรู้ว่าหัวใจของทารคาแตกสลายแค่ไหนที่ต้องมารับรู้ว่าคนรักประสบอุบัติเหตุขณะออกไปซื้อของขวัญมาให้เพื่อเซอร์ไพรส์วันวาเลนไทน์…
ทารคาทำใจรับกับความตายของบาร์ตไม่ได้ ชายหนุ่มเหมือนคนเสียสติ กลายเป็นซึมเศร้าต้องพบแพทย์เป็นประจำ มีอาการปฏิเสธอาหาร บ้านที่เคยอยู่ทำให้เขายิ่งทนรับไม่ไหว ราวกับภาพจำทั้งหลายยังแจ่มชัด ชาดไม่อาจทนเห็นสภาพพี่ชายได้จึงต้องพาตัวกลับไปอยู่บ้านใหญ่ ปล่อยบ้านที่เป็นเรือนหอของทั้งคู่ให้ร้างเอาไว้ จนกระทั่งเข้าปีที่สาม ทารคาที่เหมือนอาการดีขึนก็ขอกลับมาดูบ้าน บ้านที่ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว
“ พี่ อย่าอยู่ที่นี่เลย ผมกลัว “ ชาดกุมมือพี่ชาย บีบเบาๆตรงรอยแผลจากการทำร้ายตัวเองและพยายามฆ่าตัวตาย ทารคาส่ายหน้า
“ พี่อยู่ได้ พี่มีเรื่องต้องทำ “
“ พี่จะทำอะไรครับ? “ ทารคามองออกไปที่สวน ริมรั้วที่เก่าโทรม กอดอกไม้แห้งเหี่ยวยังอยู่เต็มกระบะปูนที่บาร์ตทำเอง มันเคยมีดอกไม้เสมอ และดอกสุดท้ายที่บาร์ตปลูกคือกุหลาบที่สุดท้ายก็แห้งตายไป
“ พี่ต้องดูแลกุหลาบ… “
“ พี่ทา? “
“ พี่ไม่เป็นไร พี่อยู่ได้ “ ชาดไม่ได้เอ่ยคำอะไรเพื่อห้ามปราบอีกฝ่ายอีก ทำได้เพียงมองคนเป็นพี่จ้องตรงไปยังที่ที่เคยเป็นกอดอกกุหลาบสีแดงสดกอโต ยิ้มให้กับความว่างเปล่า คนเป็นน้องไม่รู้เลยว่าในภาพจำของทารคา บาร์ตยังอยู่ตรงนั้นเสมอ ชายหนุ่มผมขาวจะยังคงสนอกสนใจกอดอกไม้สีแดงที่มักจะชอบพูดเสมอว่าแดงเหมือนกับผมของคนรัก
ร่างสูงผุดลุกเดินไปหยุดยืนตรงบานประตูทางออกสวน สภาพสวนตอนนี้รกรุงรังไม่น่ามองนัก แต่ทารคากลับจำได้แม่นว่ามันเคยสวยงามมากเช่นไร สวนน้อยๆของเขาสองคนกับบาร์ต จำได้ดีว่าบาร์ตพูดอะไรเอาไว้ก่อนจะออกไปจากบ้าน แล้วจากไปตลอดกาล…
...
“ วันนี้วันวาเลนไทน์ ผมจะจัดสวนใหม่ จะลงกุหลาบให้เต็มเลย “ บาร์ตกระซิบบอกขณะที่กอดเขาไว้บนเตียง
“ กุหลาบอีกแล้ว? “
“ ทำไมละครับ สวยออก แดงสวยเหมือนผมคุณ “ เขาว่า ก้มลงหอมกลุ่มผมของทารคา
“ พูดมากน่า นายนี่ ไปเลยไป จะจัดสวนใหม่อะไรก็ไปทำเลย ฉันได้หยุดช่วยนายไม่กี่วันหรอกนะ “ ชายหนุ่มผมขาวหัวเราะอารมณ์ดี หยิบเสื้อมาใส่
“ ครับ ผมออกไปเอากุหลาบที่สั่งไว้แล้วจะรีบกลับ เดี๋ยวมาช่วยผมทำสวนใหม่เรากันนะ “
“ รู้แล้วๆ รีบกลับมานะ “
“ ครับ… ผมจะรีบกลับมา “ บาร์ตก้มลงจูบริมฝีปากของคู่ชีวิต ก่อนจะรีบแต่งตัวหยิบกุญแจรถออกไป และไม่ได้กลับมา….
หากจะกลับมา….ก็กลับมาเพียงรูปและเถ้าอัฐิ
กับหัวใจที่แหลกสลายของทารคา
เพียงเท่านั้น...
…
..
.
กุหลาบแดงออกดอกบานสะพรั่งทั้งสวน ชายหนุ่มวัยใกล้หกสิบ เรือนผมสีแดงที่เคยเปนสีสดทั่วทั้งศีรษะกลับมีสีขาวแซม เช่นเดียวกับใบหน้าที่มีริ้วรอยแห่งความชราประดับเอาไว้ เสียงเพลงที่เขาร้องเบาๆขณะรดน้ำเหล่าดอกไม้ ไพเราะเสียจนคนผ่านไปมาต้องสะดุดฟัง แหวนทองคำบนนิ้วนางซ้ายยังส่องแสงแวววาวแม้จะผ่านไปนานนับแต่วันแรกที่มันถูกสวมบนนิ้วมากว่ายี่สิบปีแล้ว
“ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ คุณลุงทารคา “ เด็กสาวคนนึงเอ่ยทัก ทารคาในวัยเกือบจะชรายิ้มให้ด้วยคุ้นเคยกันมาแต่เด็กคนนี้ยังเป็นเด็กน้อยมัดผมจุกเดินเตาะแตะมาจ้องมองกุหลาบในสวนของเขา เธอโบกมือให้ขณะขี่จักรยานกลับบ้าน มีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจแปะตามเสื้อ และมีช่อกุหลาบในตะกร้าหน้ารถ
ทารคาปิดก็อกน้ำ ค่อยๆบรรจงเอาตะกร้าที่มีดอกกุหลาบส่วนนึงที่เขาตัดไว้เข้าไปในบ้านพร้อมกัน จัดแจงจัดช่อให้สวยงามใส่แจกันสีขาว แล้วนำไปวางหน้ารูปของชายหนุ่มผมสีขาวที่ยังคงส่งรอยยิ้มให้มาเสมอไม่ว่าผ่านมานานแค่ไหน เขายิ้มให้พลางเอ่ยเบาๆ ไม่มีน้ำตาแต่ใจก็สุขล้นทุกครั้งที่นึกถึงอีกฝ่าย
“ ฉันรักนาย สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ บาร์ต “
If there were no words
no way to speak
I would still hear you
If there were no tears
no way to feel inside
I'd still feel for you
and even if the sun refused to shine
even if romance ran out of rhyme
you would still have my heart
until the end of time
you're all I need, my love, my valentine
Valentine by Jim Brickman ft. Martina McBride
::: F I N ::
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in