57/2016
The Circle
Dave Egger
.
-------------------------------
.
เม หญิงสาวจากแดนใกลผู้ได้รับโอกาศจากเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกันรับรองให้เข้าทำงานที่ The Circle บริษัท นวัตกรรม ระดับโลก ( Facebook + Google) บริษัทที่รวมเหล่าหัวกะทิของโลกว่าหมื่นชีวิต
.
จากการนำของผู้ทรงปัญญาทั้ง 3 และ 40 ผู้อาวุโส ที่นี่ทุกผลงานคืออนาคตใหม่ของโลก ทิศทางใหม่ ๆ ถูกสร้างมาเพื่อทำให้ชีวิตของประชากรโลกดีขึ้น อุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ ที่ทุกคนคาดไม่ถึงถูกสร้างสรรค์และผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการ และยกระดับการใช้ชีวิตของมนุษยชาติ ที่สำคัญมันฟรี
.
เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง ก็เกิดแนวคิดที่มนุษยชาติจะรวมทุกอย่างมาเป็น 1 เดียวภายใต้บริการของ The Circle ทั้งการแพทย์ การศึกษา ดูแลป้องกันอาชญากรรม รวมไปถึงการเลือกตั้ง ก็กำลังถูกผลักดันให้เกิดขึ้นภายใต้บริการของพวกเขา
.
เมเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลตอบคำถามในแผนกลูกค้าสัมพันธ์ ก่อนเหตุการณ์บางอย่างทำให้เมกลายเป็นผู้ "โปร่งใส" และดำเนินชีวิตภายใต้การถูก เฝ้าดู จ้องมอง เสมือนเป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการตรวจสอบ เพราะ
"การมีความลับคือการเห็นแก่ตัว"
.
--Spoiler Alert--
.
นวนิยายเรื่องนี้ ถูกกล่าวขานว่าเป็น 1984 ยุคใหม่ ที่ฉายให้เห็นภาพของการถูกควบคุมแม้จะด้วยเสรีและความถูกต้องก็ตาม ซึ่งสุดท้ายแล้ว การรวมข้อมูลของทุกคนเป็นหนึ่งเดียว สามารถค้นหา ติดตาม หรือเฝ้ามองไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ไม่ควรทั้งสิ้น
.
ฟังดูแล้วอลังการณ์มาก ๆ แต่เมื่ออ่านจบแล้ว... ผมกลับ "ไม่อิน" อย่างที่คำโปรย หรือคำยกย่อง ใด ๆ กล่าวไว้ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ไม่รู้สึกร่วมมากนักอาจมาจาก
.
1--เรื่องแบบนี้เคยถูกตีแผ่ ชำแหละหรือกล่าวถึงมาแล้ว ไม่มีเหตุผลอันใดใหม่ที่จะสร้างความกลัวหรือจินตนาการใหม่ ๆ ให้รู้สึกระแวงได้ ซึ่งส่วนหนึ่งมากจากงานพึ่งถูกแปลหลังจากดังมานานพอสมควร ซึ่งชี้ให้เห็นว่า อะไรที่เกี่ยวกับเทคโลโลยีนั้น ล้าสมัยเร็วเสมอ ไม่เว้นแม้แต่นิยาย
.
2-- ความไม่สมเหตุสมผลของตัวละคร ทั้งนางเอก พระเอก เพื่อนนางเอก ปมขัดแย้งที่อ่อนนุ่มและเบาหวิว ความไร้สาระของการปลอมตัว (ซึ่งผมมองว่านี่คือหมัดเด็ดสุดของนิยายเรื่องนี้ แต่กลับเฉย ๆ ) ความรุมร้อนของนางเอกที่ค่อนข้างจะใจง่าย ความอ่อนแอของฟรานซิส ที่เอาเข้าจริงไม่มีก็ได้ รวมทั้งการทะเลาะกันของเพื่อนรักที่แทบพรากกันไม่ได้แต่กลับจะทำลายกันเพราะความอิจฉา
.
3-- ความย้วยของเรื่อง มีหลายฉาก หลายตอนหลายตัวละคร (เป็นร้อย) ถูกอัดยัดเข้ามาเพื่อบอกบางประเด็นที่ไม่ได้สำคัญมาก แต่กับประเด็นหลัก ๆ ที่แรง ๆ กับมาแต่บทเดียวตอนเกือบจะจบ เช่นมีการใส่ตัวละครสองตัวที่อาศัยอยู่ในเรือพร้อมแมวน้ำของเขา ใช้เวลาอยู่ ดื่มกินกัน เพื่อจะให้นางเอกมานึกถึงแว่บเดียวตอนจะจบ หรือการใส่ฉากเซ็กมาแบบยัดเยียดและไม่จำเป็น--หรือจำเป็นแต่จังหวะไม่ดี-- ยิ่งการพลางตัวของพระเอก(?) ซึ่งมาส่วนร่วมกับเรื่องน้อยถึงน้อยมาก ๆ ยิ่งทำให้เรื่องเบามาก ๆ ถึงแม้พระเอกจะมีพลังมากแค่ไหน แต่กลับไม่ใช้อำนาจในส่วนที่ตนเองมี ผมคิดว่าถ้ามีการปะทะกันของมหาอำนาจในตอนท้าย น่าจะเพิ่มสีสันได้มาก แต่ก็ไม่(ทำไม!!)
.
4--คำผิด อภิมาหามากมาย ไม่เคยคิดว่าจะมีนิยายเล่มไหนมีคำผิดมากมายขนาดนี้ ไม่ใช้คำผิดที่เขียนยาก แต่เป็นการพิมพ์ผิด พิมพ์ตกอย่างไม่น่าให้อภัย ยิ่งตอนที่ เม รู้สึกไม่ดีต่อคนจำนวน 368 คนที่ไม่ชอบเธอ แต่ในบทต่อกลับกลายเป็น 386 โอ้ว และกลับมาเป็น 368 อีกครั้งอย่างกับนิยาย(เออ..อย่างกับนิยาย55)
.
ความสนุกอย่างเดียวที่ได้รับ คือการอ่านนวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่ถูกสร้างและจินตนาการมาเพื่อให้เราใช้ เหมือนนั่งอ่านโดเรม่อนไม่ผิด คือดี ไม่เวอร์ เป็นไปได้ และล้ำมาก ส่วนเนื้อความ ประเด็นหลักที่ต้องการบอกจริง ๆ ถูกละลายหายไปกับก้อนไขมันที่เอาเข้ามาเยอะเกินไป กลายเป็นก๋วยเตี๋ยวที่ใส่น้ำซุปมาเยอะ จนปรุงยังไงก็ไม่กลมกล่อม จืดชืด และการสรุปความหายนะในช่วงสุดท้ายน่าจะเป็นแก่นที่ดีที่สุดมีเพียว 4-5 หน้าเท่านั้นเอง...
.
ถึง LEGEND BOOK -- ฉบับพิมพ์ใหม่ แก้คำผิด คำตกด้วยนะครับ มันสะดุดมาก ๆ หรืออันที่จริง นี่อาจจะเป็นเกมที่รื่นเริงที่สุดที่สอดแทรกเข้ามา "เกมหาคำผิด" นั่นเอง
.
------------------------
ลิง
10-10-16
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in