ตาใสมองตามคนสองคนที่เดินอยู่เบื้องหน้าเขา
ท่าทางที่คนรักทั่วไปมักจะทำให้กันดูน่ารักและน่าอิจฉาในเวลาเดียวกัน เสียงหัวเราะที่ดังแทรกขึ้นมาเป็นระยะจนอยากจะรู้หัวข้อในบทสนทนาที่น่าสนใจนี้เหลือเกิน
“โยซอบทำไมเดินช้าจังอ่า” คนเดินหน้าหันมามองเขาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขาเดินห่างจากพวเเขาสองคนเกินความจำเป็น อีกคนก็หันมามองเช่นเดียวกันก่อนจะเดินมาจับมือเขาให้ไปเดินข้างๆกัน
อีกีกวังกับยุนดูจุน
ใครก็บอกว่าเหมาะสมกันเช่นเดียวกับเขาเองที่คิดแบบนั้น ความสดใสของอีกีกวังไม่แปลกที่จะทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักได้ ความเพียบพร้อมของยุนดูจุนที่ดูเข้ากันได้ดีจนใครที่คิดจะแยกพวกเขาออกจากกันคงจะเป็นคนที่เลวมาก
ใช่
ยังโยซอบเป็นคนที่เลวมาก
“คิดไรเนี่ย” เสียงทุ้มดังใกล้จนเขาเผลอตกใจ ดูจุนมองยิ้มๆเมื่อเขาสะดุ้งจนอีกคนสังเกตได้
“พูดใกล้ทำไมเล่าไอบ้า” เขาโวยวาย อีกคนทำแค่ยักไหล่ให้ก่อนจะหัวเราะกับท่าทางเขาที่หงุดหงิดใส่อีกคน
“เดินดีๆอย่าเหม่อดิ เดี๋ยวก็ชนไรอีกหรอก” มือใหญ่ที่กระชับมือเขาเล็กน้อย เพราะไม่อยากให้เขาเซ่อซ่าเดินชนเสา
.
.
.
คนไม่ได้อยากเป็นคนเลวแบบนี้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนที่เขาไม่อยากทนเห็นสองคนนี้อยู่ในสายตา การดูพวกเขาทำแบบคู่รักกันกลายเป็นขัดหูขัดตาเขา
อิจฉาอีกคนที่ได้อยู่ใกล้ๆตรงนั้นแทน
แทนที่จะเป็นเขา
“ทะเลาะกันอีกแล้วว่ะ” ยังโยซอบนั่งอยู่ข้างคนที่เหมือนจะเมานิดๆแล้ว เพราะโดนโทรเรียกมากลางดึกจากคนที่ไม่คิดว่าจะโทรมาหาได้ก็เลยต้องออกมาอยู่เป็นเพื่อนแบบนี้
“คราวนี้เรื่องอะไรอีกแล้ว”
“ก็เดิมๆ” ไม่บ่อยครั้งแต่แทบทุกครั้งที่สองคนนี้ทะเลาะกันเขาจะต้องเป็นคนที่รับฟังพวกเขาเสมอ ความหึงหวงของยุนดูจุนที่เป็นเพราะความอัธยาศัยดีของกีกวังมีให้เห็นบ่อยๆ จนแทบเป็นเรื่องชินสำหรับเขาไปแล้ว คนอย่าเขาที่เป็นเพื่อนก็มานั่งเป็นเพื่อนแบบนี้
และปรับความเข้าใจให้พวกเขา
ใจดีจังวะ
ยุนดูจุนฟุบกับโต๊ะไปแล้วเรียบร้อย โยซอบเรียกเช็คบิลก่อนจะต้องแบกร่างของอีกคนกลับไปด้วย
“โยซอบ” เสียงคนที่นั่งข้างๆที่เขาคิดว่าเมาแล้วพูดขึ้น
“อะไร”
“ถ้าวันนั้น” เสียงทุ้มพูดเกริ่นก่อนจะเงียบไปพักใหญ่
“ถ้าวันนั้นไม่ได้ขอกีกวังเป็นแฟน เราจะเป็นยังไงกันบ้างวะ” โยซอบเงียบเช่นเดียวกับอีกคนที่เงียบเช่นกันเพราะหลับไปแล้ว ประโยคเดิมยังคงวนเวียนกับมาว่าถ้าวันนั้นที่สองคนนี้ยังเป็นเพื่อนเหมือนเดิม
เขาจะทำยังไงนะ
.
.
.
“ขอบคุณนะ”
“อื้ม อย่าโมโหมันเลยนะ” กีกวังเดินมาส่งโยซอบที่ประตูเมื่อเขาพาไอคนเมามาส่งที่ห้องอีกคนได้สำเร็จ
“กีกวัง”
“หืม?” ไม่รู้ว่าเหล้าที่ดื่มไปมันเพิ่งจะออกฤทธิ์ตอนนี้หรือเพราะสิ่งที่คิดมาตลอดทางทำให้เขาเผลอกอดอีกคนไว้ คนโดนกอดตกใจจนทำไรไม่ถูกสุดท้ายก็กอดกลับเช่นเดียวกัน
“ขอได้มั้ย”
“ขอจูบหน่อยได้มั้ย” บอกแล้วว่าเขามันเลว
เขาต้องทำใจเย็นแค่ไหนเวลาเห็นสองคนนี้ทะเลาะกันแล้วต้องมาตามเคลียร์ทั้งที่ใจเขาอยากกระชากอีกคนให้ออกมา ต้องทำตัวนิ่งอีกกี่ครั้งกับการที่เห็นพวกเขายิ้มให้กัน
ห้ามใจหลายครั้ง
จนครั้งนี้
เหล้าขวดนี้มันแรงขนาดไหนกันนะเขาถึงได้กล้าจูบปากอิ่มที่เคยแค่เพียงจินตนาการ กล้าที่จะทำลายความเป็นเพื่อนให้จบลงตรงนี้
“ขอโทษนะ”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in