เผ่าอะโนนิมัส เป็นคนเลี้ยงแพะมีประเพณีชอบใส่หน้ากาก ชาวเผ่าชอบพาฝูงแพะเข้าไปแทะเล็มหญ้าในไร่ของชาวบ้าน ฝูงแพะไม่แยกแยะหญ้ากับผลผลิตของชาวบ้านมันกินทุกอย่างจนเกิดความเสียหายวันหนึ่ง ชาวบ้านทนไม่ไหวจึงล้อมรั้วขึ้นเพื่อกั้นฝูงแพะ พวกอะโนนิมัสก็ยังแอบบทำลายรั้ว พาฝูงแพะเข้าไปกินหญ้าอีก แพะหลายตัวกินหญ้ากินผลผลิตจนย่ามใจ ก็นึกว่าพวกอะโนนิมัสเป็นราชาของมัน และแล้ววันหนึ่ง แพะของพวกอะโนนิมัสก็หายไป พวกอะโนนิมัสโกรธมากประกาศว่าจะพาแพะไปบุกไร่ของชาวบ้านอีก เพื่อทำลายไร่ของชาวบ้านให้ย่อยยับ แต่แล้วแพะของอะโนนิมัสก็หายไปในไร่ของชาวบ้านทีละตัว ทีละตัว จนพวกแพะเริ่มสงสัยในตัวพวกอะโนนิมัส ว่าพวกอะโนนิมัสคือราชาของพวกมันจริงหรือ ทำไมจึงปล่อยให้พวกพ้องหายไปทีละตัว จนล่าสุด พวกอะโนนิมัสเจาะรั้วให้เหล่าแพะเข้าไปในไร่อีก แต่คราวนีเพวกแพะไม่ยอมเข้า พร้อมกับวิ่งหนีหายไปในทุ่งหญ้า พวกอะโนนิมัสคนเลี้ยงแพะนักเจาะรั้วจึงไปร้องเรียนกับตุลาการยูเอ็น แต่ตุลาการก็ตั้งเงื่อนไขให้อะโนนิมัสเลิกสวมหน้ากาก เพราะโดยธรรมเนียมของโลกศิวิไลซ์ ทุกคนต้องเปิดเผยตัวตนเมื่อขึ้นศาล แต่พวกอะโนนิมัสก็ไม่ยอม และเอาแต่จะทวงถามเอาฝูงแพะคืน ตุลาการยูเอ็นบอกว่า พวกแพะนั้นยีงสบายดีทุกตัวมีอาหารมีน้ำกินบริบูรณ์ แค่ถูกจำกัดบริเวณไว้ในคอกไม่ให้ไปทำพฤติกรรมเกกมะเหรกเกเร แต่พวกอะโนนิมัสคนหนึ่งก็เถียงว่าเป็นการทารุณพวกแพะ แพะจะมีเนื้อนมดีอุดมสมบุรณ์ได้ต้องมีอิสระ หากจับเอาไปขังไว้ เดี๋ยวจะขายให้โรงเชือดไม่ได้ราคา แพะตัวหนึ่งได้ยินคนใส่หน้ากากอะโนนิมัสพูดดังนั้นก็ตกใจ ข่าวนี่แพร่สะพัดไปทั่วในวงการแพะ จนพวกอะโนนิมัสรีบออกมาแก้ตัวว่ามีคนสวมรอยใส่หน้ากากเป็นพวกเขา พวกแพะจึงเรียกร้องให้พวกอะโนนิมัสถอดหน้ากาก เพื่อหาตัวผู้แปลกปลอม แต่พวกอะโนนิมัสก็ไม่ยอม พวก แพะกับอะโนนิมัสจึงแตกคอกัน ท้ายที่สุดพวกอะโนนิมัสก็ต้องเปลี่ยนอาชีพ เลิกเลี้ยงแพะ หันมารับจ้างซ่อมรั้วให้ชาวบ้านในที่สุด