เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกนักอยากเขียนSooth Suwansakornkul
ผู้ชี้ทาง
  • ฉันกำลังหลงทางอยู่ในถ้ำวงกตอันมืดมิด

    เมื่อฉันเห็นแสงสว่างเบื้องหน้าจึงเดินเข้าไปหา
    .

    ผู้ถือเทียนยิ้มต้อนรับการมาของฉัน

    เขาบอกว่าการมาของฉันทำให้เขารู้สึกไม่โดดเดี่ยวชั่วขณะหนึ่ง

    "มาเถิด ตามมา"เขาเชื้อเชิญ
    .

    "ผู้ถือเทียนคุณเป็นใครกันแน่" ฉันถาม

    เขาตอบว่า เขาเป็นเจ้าของเทียนเล่มนี้และเป็นผู้ชี้ทางสำหรับผู้หลงเข้ามาในถ้ำวงกต

    .

    เมื่อพวกเรามาถึงทางแยกหนึ่ง เขาก็พูดขึ้นว่า

    หนทางจากนี้ไป คือทางแยกที่อาจไม่มีวันบรรจบ

    ทางหนึ่งมีแต่ความมืดมนคนที่เดินไปในทางนั้นไม่เคยกลับออกมาอีกเลย

    อีกทางหนึ่งคือเส้นทางไปสู่คลังเก็บเทียนของที่นี่

    .

    "เธอเลือกได้นะที่จะแยกทางออกไปตอนนี้" คนชี้ทางบอก

    .

    "ขอเทียนของคุณให้ฉันได้ไหม"ฉันถาม

    .

    เขาตอบว่า "ยังไม่ได้ถ้าเธออยากได้เทียนนำทางจงไปสำรวจดูที่คลังเก็บเทียนเสียก่อน"

    .

    "แล้วหลังจากนั้นเล่า"ฉันถามต่อ

    .

    เขาตอบว่า"จากนั้นเธอจะไปที่ใดก็ได้ในถ้ำวงกตแห่งนี้"

    .

    "แล้วไยคุณจึงไม่เดินทางไปสำรวจทางที่มืดมนกับฉันตอนนี้เล่า"ฉันถามอีก

    .

    "ทางที่แยกออกไปนั้นยาวไกลนักฉันเกรงว่าเทียนนำทางของฉันจะหมดลงเสียก่อนและชีวิตของฉันก็จะจบสิ้นลงเช่นกัน"

    .

    'จะยากตรงไหน ในเมื่อเทียนดับลงก็แค่มุ่งหน้าต่อไป'ฉันคิด

    ว่าแล้วฉันก็ชักอาวุธออกมาขู่บังคับเอาเทียนจากเขา

    .

    "เธอจะไม่ยินดีหรอก หากรับเอาเทียนนี้ไปฉันขอร้องให้เธอไปสำรวจที่คลังเก็บเทียนเสียก่อน" เขาบอก

    .

    "ส่งเทียนมาเดี๋ยวนี้" ฉันร้องขู่

    .

    "แล้วเธอจะยัดเยียดเทียนอาถรรพ์เล่มนี้ให้ใครไม่ได้อีกหากเขาไม่ร้องขอ" ผู้นำทางกล่าวเสริม

    .

    ฉันส่งเสียง เฮอะ แล้วแสยะยิ้ม

    .

    "เหลวไหล" ฉันตวาดใส่

    .

    "แต่เทียนเล่มนั้นจะกลายเป็นชีวิตของเธอฉันขอเตือนด้วยความหวังดี" เขาพูด

    .

    "หากคุณหวังดีก็จงมอบเทียนมาให้ฉัน" ฉันขึ้นเสียง

    แล้วเขาก็ยื่นเทียนให้กับฉัน

    .

    และเมื่อฉันรับเทียนมาแล้ว เขาก็พูดขึ้นว่า "จงรีบไปที่คลังเก็บเทียนเถิดก่อนที่เทียนนำทางจะหมดแล้วชีวิตของเธอจะสิ้นลง"

    .

    "เหลวไหล"

    .

    เขาชี้ไปที่โครงกระดูกที่กองอยู่กับพื้น"พวกเขาทุกคนล้วน พูดเช่นเธอ"

    .

    "ถ้าเช่นนั้นฉันจะไปที่คลัง แล้วเอาเทียนทั้งหมดออกมา แล้วค่อยกลับออกมาที่นี่อีกครา"

    .

    "เมื่อเธอมั่นใจเช่นนั้นฉันก็ขออวยชัย ขอให้เธอได้พบผู้หลงทางคนใหม่โดยเร็วตอนนี้เธอมีเทียนนำทางของเธอแล้ว เธอจะไปไหนก็ได้เพราะฉันจะไม่ใช่คนชี้ทางอีกต่อไปแล้ว"

    .

    "แล้วทำไมคุณถึงยังมีชีวิตอยู่ได้เมื่อไม่มีเทียนแล้ว"

    .

    "นั่นเพราะเธอร้องขอมันไปในวงกตอาถรรพ์แห่งนี้ ผู้ถือเทียนมีหน้าที่ชี้ทางเท่านั้นเปลวเทียนและเทียนนี้จะกลายเป็นชีวิตของเธอ จงอย่าให้มันดับหรือหมดลง"

    .

    "เหลวไหล รีบเอาเทียนของคุณคืนไปเดี๋ยวนี้เลย"

    .

    "ขอโทษด้วยนะ ฉันเองก็ยังเห็นแก่ตัวอยู่"อดีตคนชี้ทางกล่าว

    .

    ฉันตกใจมาก ที่ฉันไม่อาจละมือออกจากเทียนนำทางได้มันติดอยู่กับมือฉันแกะอย่างไรก็ไม่ออก พอฉันทำท่าจะขว้างมันออกไปเสีย ก็มีเสียงเตือนขึ้นว่า

    "หากเทียนนำทางดับชีวิตเธอก็จะดับ เธอจะกลายเป็นโครงกระดูกเหมือนพวกนั้น"

    .

    "แล้ว...แล้วคุณจะไปไหนต่อ"ฉันถาม

    .

    "ฉันจะลองเสี่ยงเดินออกไปยังเส้นทางที่มืดมิดนั่นโดยไร้แสงเทียนนำทาง"

    .

    "แล้วฉันเล่าได้โปรดกรุณาชี้ทางให้ฉันอีกครั้งเถิด"

    .

    เขาชี้มือไปยังเส้นทางอีกทางหนึ่ง

    "ไปที่คลังเก็บเทียนและต่อเทียนของเธอก่อนที่มันจะหมดลง"

    .

    "ลาก่อนและขอให้เธอจงโชคดี" เขากล่าวทิ้งท้ายก่อนเดินจากไปที่ทางแยก

    .

    ฉันวิ่งอย่างกระหืดกระหอบมายังคลังเก็บเทียนที่นั่นสว่างจ้าด้วยแสงเทียนนับร้อยเล่ม มีผู้ชี้ทางหลายร้อยคนอยู่ที่นั่นในมือข้างหนึ่งของทุกคนล้วนถือเทียนและอีกข้างหนึ่งก็ล้วนถืออาวุธ

    .

    "ดับเทียนของพวกเขาเสียและเมื่อพวกเขาตายลง จงเอาเทียนที่เหลือของเขามาต่อเป็นเทียนของเธอก่อนที่แสงเทียนของเธอจะดับลง และจงอยู่รอดให้ได้ แม้ต้องสู้ตายกับฉัน จงรอดจนกว่าจะได้พบผู้หลงทางของเธอ"เสียงของผู้ชี้ทางคนหนึ่งในนั้นพูดขึ้น

    .

    "แล้วคนชี้ทางผู้เดินออกไปที่ทางแยกนั้นเล่าเขาจะได้รับสิ่งใด" ฉันร้องถาม

    .

    "บางทีเขาอาจจะได้เห็นรุ่งอรุณของวันใหม่"ผู้ชี้ทางอีกคนหนึ่งส่งเสียงตอบ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in