cover; (c) shibu
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นจากแอพพลิเคชั่นนกสีฟ้า หลินกดเข้าแอพพลิเคช่ั่นไปเพื่อให้เลขแจ้งเตือนในวงกลมสีแดงหายไป แล้วจึงได้เห็นว่ามีข้อความจากใครคนหนึ่ง คนที่เป็นเพื่อนสนิทของหลิน
"สัปดาห์หน้าว่างมั้ย มาเจอกันหน่อย"
หลินดีใจมาก แต่ก็ต้องเก็บอาการ ทำเป็นเหมือนว่านิ่ง อยากเจอเพื่อนเหมือนกัน อยากเจอมากด้วย แต่ก็ไม่อยากแสดงออกมากไปจนเพื่อนรู้ว่าเขาอยากเจอมาจนหลังจากนี้คงนับวันรอ
"ว่างสักทีนะ กว่าจะได้เจอมึงนี่นะ"
หลินตอบกลับไปเท่านั้น ไม่มีการเติมเลขห้าท้ายประโยค ไม่มีอิโมติค่อนแสดงความรู้สึก หลินคิดว่าม่านหมอกอ่านแล้วคงรู้ว่าหลินอยากเจอจริงๆ
หลังจากคุยกันอีกไม่กี่ข้อความ หลินมั่นใจแล้วว่าสัปดาห์หน้าหลินต้องได้เจอหมอกแน่ๆ มันเป็นการเจอกันในรอบเกือบสองปี เราแทบจะไม่ได้ติดต่อกันเลยตลอดเกือบสองปีมานี้ หลินรู้ว่าหมอกยุ่งกับเรื่องเรียนมาก ก็คณะที่หมอกเรียนมันเรียกหนักและยากที่สุดคณะนึงเลยไง
หลินไม่อยากรบกวนเวลาอ่านหนังสือของหมอก หลินรู้ว่าวิชาที่หมอกเรียนมันเป็นวิชาที่ต้องท่องจำหนังสือเป็นร้อยเป็นพันหน้า หลินรู้ว่ามันยากมาก เพราะตอนเรียนวิชาเหล่านั้นแค่เล็กน้อยในตอนม.ปลาย หลินก็แทบเอาตัวเองไม่รอด
ม่านหมอกมักจะอัพไอจีสตอรี่อยู่เรื่อยๆ วันละไม่กี่สตอรี่ เหมือนพอจะให้เพื่อนๆที่ติดตามอยู่พอได้รู้ความเคลื่อนไหวของหมอกบ้าง วันนี้กินอะไร ไปวิ่งที่ไหน ท้องฟ้าทางนั้นเป็นโทนไหน หรือจินตนาการก้อนเมฆเป็นรูปอะไร อย่างน้อยหลินก็พอจะรู้ว่าหมอกยังใช้มือถืออยู่
มึง :
ทำอะไรอยู่ :
กูโคตรเบื่อเลย :
มึงอ่ะ :
เป็นไงบ้างวะ :
อ่านหนังสืออยู่อ่ะดิ :
อย่าหักโหมนะมึง ดูแลสุขภาพด้วย :
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
: สบายดีเว้ย มึงอ่ะเป็นไงบ้าง
ม่านหมอกมักจะปล่อยให้ข้อความของหลินถูกส่งไปแต่ไม่ถูกกดอ่านนานเป็นสัปดาห์ กว่าม่านหมอกจะตอบ แชทชื่อม่านหมอกในโทรศัพท์ของหลินก็ถูกดันไปอยู่ข้างล่างจนหลินเกือบจะลืมไปแล้วว่าทักไป หมอกคงยุ่งกับการอ่านหนังสือล่ะมั้ง หลินไม่อยากจะทำตัวเป็นเพื่อนที่ทำให้หมอกรำคาญ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมหมอกอัพไอจีสตอรี่ได้ แต่ตอบข้อความหลินไม่ได้
ไม่กี่ครั้งแรกหลินคิดไปเองว่าตัวเองทำตัวเป็นเพื่อนงี่เง่าที่คิดมากและขี้น้อยใจ แต่พอหลายๆครั้ง มันทำให้หลินอดคิดไม่ได้ว่าความสนิทของเรามันถูกความห่างไกลและเวลาทำให้มันค่อยๆหายไปหรือเปล่า
หลินไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าความคิดถึงจากหลินถูกส่งไปหาผู้ถูกคิดถึงแล้ว แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความว่างเปล่า หลินขอเก็บความคิดถึงนั้นไว้คนเดียว รอให้เวลาทำให้มันหายไปจากหลินเองดีกว่า อย่าให้มันหายไปจากหมอกเลย เวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน จนเป็นปี ข้อความของหลินถึงม่านหมอกก็ค่อยๆน้อยลงเรื่อยๆ
จนเวียนมาถึงวันเกิดของหลิน
วันเกิดปีที่สองของหลินหลังจากที่หลินและหมอกไม่ได้เจอกันเลย เพราะวันเกิดหลินและหมอกห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ หลินมั่นใจว่าวันนี้ต้องได้ข้อความสุขสันต์วันเกิดจากหมอกแน่ๆ
หลินไม่โพสท์รูปภาพลงในโซเชี่ยลทุกช่องทางที่หลินมี แต่ในใจคาดหวังและรอข้อความสั้นๆจากเพื่อนก็เท่านั้น
ตอนบ่าย หมอกคงกำลังเรียน
ตอนเย็น คงจะเป็นเวลาพักผ่อนของหมอกล่ะมั้ง
ตอนค่ำ หมอกคงออกไปหาอะไรกินแน่ๆ
ห้าทุ่มแล้ว หรือหมอกรอให้ถึงเที่ยงคืนนะ
จวบจนเข้าวันใหม่แล้ว โทรศัพท์ของหลินไร้เสียงเรียกเข้า แอพพลิเคชั่นแชทสีเขียวก็เงียบ แอพพลิเคชั่นรูปนกสีฟ้าก็เงียบ ไม่มีแจ้งเตือนข้อความหรือโทรศัพท์จากม่านหมอกทุกช่องทาง
ม่านหมอกคงกำลังยุ่งๆล่ะมั้ง หลินเชื่อแบบนั้น
ในไม่กี่วันถัดไป จนเวียนมาถึงวันเกิดของม่านหมอก
สี่โมงแล้ว หลินเลิกเรียนพอดี ระหว่างที่เดินออกมาจากตึกเรียนไปตามทางเท้า หลินกดโทรศัพท์ ไล่หารายชื่อ 'ม่านหมอก' ครั้งล่าสุดที่โทรคุยกันคือเมื่อไหร่กันนะ หลินลองนึกดู
ระหว่างที่รอสาย หลินอดคิดไม่ได้ว่าม่านหมอกจะว่างคุยมั้ยนะ เวลานี้จะเลิกเรียนแล้วเหมือนกันหรือเปล่า หรือกำลังนอนพักหลังจากเรียนมาทั้งวัน หรืออาจจะกำลังออกไปหาอะไรกิน หรืออาจจะเตรียมไปวิ่ง ถ้าม่านหมอกยังปล่อยให้หลินรอสายนานกว่านี้ หลินก็จะคิดว่า หรือม่านหมอกไม่อยากคุย แต่ก็ไม่ ม่านหมอกรับโทรศัพท์แล้ว
"ว่างป่ะมึง คุยได้รึเปล่า"
"ว่างๆ คุยได้"
หลังจากหลินบอกสุขสันต์วันเกิดหมอกไปแล้ว เราคุยกันอีกสักพัก ไม่ใช่แค่เรื่องที่หมอกเล่า แต่น้ำเสียงของหมอกก็ทำให้หลินรู้ว่าหมอกเหนื่อยกับเรื่องเรียนจริงๆ หลินรู้ว่าตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าให้กำลังใจ หลินหวังแค่ให้หมอกรู้สึกถึงมันจริงๆ เพราะหลินเองก็พูดจากใจจริง หลินรู้ว่าถ้าหมอกตั้งใจหมอกจะสอบผ่านแน่ๆ
ระหว่างที่คุยกัน หลินค่อนข้างมั่นใจว่าเสียงสั่นๆของปลายสายคือเสียงสะอื้นของหมอกแน่ๆ หลินตกใจ ความน้อยใจทั้งหมดที่ผ่านมาหายไปหมดสิ้น หลินรู้แล้วว่าหมอกเหนื่อยนะ
"อย่าร้องดิวะ ไม่เป็นไร มึงต้องผ่านมันไปได้แน่ เชื่อกูดิวะ"
หมอกพยายามควบคุมน้ำเสียงให้นิ่งที่สุด เรายังคุยกันต่ออีกนิดหน่อย ก่อนวางสายไป หลินทำเป็นถามติดตลกไป "มึงลืมอะไรไปป่ะวะ" หมอกตอบกลับมาว่า "ไม่ได้ลืม" หลินจำไม่ได้ว่าหลังจากประโยคนั้นแล้วหมอกพูดอะไรต่อ แต่ไม่ว่าหมอกจะจำหรือลืม หลินไม่แน่ใจนัก ว่าตอนนี้หลินรู้สึกยังไงกันแน่ อีกไม่นานก็เป็นหลินที่เป็นฝ่ายตัดบท หลินยังกลัวว่าหลินจะรบกวนเวลาของหมอกหรือเปล่า แล้วโทรศัพท์ก็ถูกตัดไปในเวลาต่อมา
อีกไม่กี่วันจะได้เจอกันแล้ว เจอกันในรอบเกือบสองปี
ระหว่างที่รอให้วันนั้นมาถึง หลินอยากให้การเจอกันครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดี หมอกจะชอบกินแพนเค้กไหมนะ หรือเราจะไปกินเป็นมื้อหลักดี อาหารญี่ปุ่นดีไหม หรือปิ้งย่างดี หรือควรจะเป็นชาบู แต่ที่แน่ๆ หมอกต้องได้กินชานมไข่มุกเจ้านี้แน่ๆ เจ้าที่หลินคิดว่าอร่อยที่สุดตั้งแต่กินมาเลย
หมอกอัพไอจีสตอรี่อีกแล้ว และหมอกอยู่ไม่ไกลจากที่ที่หลินอยู่ตอนนี้เลย โทรศัพท์ถูกกดโทรออกไปยังชื่อม่านหมอก หลินรู้ว่าวันนี้หมอกมีนัดแล้ว แต่ใกล้กันแค่นี้ แค่เจอหน้ากันก่อนคงไม่เป็นไร หลินรอปลายสายไม่นานหมอกก็รับ แต่นัดยังไงก็คือนัด เรายังไม่ได้เจอกันในวันนี้
คืนก่อนวันนัด จะได้เจอกันแล้วนะหมอก
: มึง พนกูไม่ว่างเจอแล้วอ่ะ
: เป็นวันมะรืนแทนได้มั้ย
วันมะรืนกูยังรับปากไม่ได้อ่ะ เรียนแลปทั้งวันเลย :
: ขอโทษนะมึง ติดธุระอ่ะ กูจำวันผิดเอง
เฮ้ยไม่เป็นไรเลยมึง กูโอเค :
มึงมานี่ก็เพราะมีธุระอยู่แล้วป่ะวะ กูเข้าใจเว้ย :
: ก็ใช่ แต่ก็มาเพราะอยากเจอมึงด้วยไง
โหห กูรู้สึกสำคัญขึ้นมาเลย 5555555555 :
.
.
.
จริงๆตอนแรกกูคิดไว้แล้วว่าจะชวนมึงไปกินอะไร :
อดเลย :
กูเนี่ย อดกินเลย555555555 :
.
.
.
: มึง กูเลื่อนธุระได้แล้ว
: แต่กูขอต่อรองเวลาเป็นตอนเย็นได้มั้ย
read
หลินยังคงเป็นคนงี่เง่าคนเดิมที่คิดอะไรแต่ไม่ยอมพูด
ช่วงเที่ยงๆเกือบบ่ายของวันอังคาร ตามเวลานัดเดิม หมอกอัพไอจี่สตอรี่ และธุระของหมอกคือที่สยาม สถานที่ที่เรานัดเจอกัน และเราไม่ได้เจอกัน
____________________________
See you later ม่านหมอก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in