เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
OVER THE WALLgiftmeme
The wall
  • ผมค้นพบความลับของกำแพงเข้าโดยบังเอิญ หนึ่งสัปดาห์หลังจากผมตาย ร่างกายก็เริ่มเบาหวิวเหมือนอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก (ผมรู้ว่านั่นเป็นยังไง ไม่ได้จะโอ้อวด เพราะพ่อเคยลองให้ผมเข้าไปในห้องทดลองดูจริงๆ) เพียงแต่ว่าเท้าของผมยังอยู่ติดพื้นดี ผมรู้สึกพะอืดพะอมคล้ายว่าอวัยวะภายในตีลังกาและหัวหมุนคว้างอย่างกับมีใครจับตัวหมุนเป็นสิบๆ รอบ รู้ตัวอีกทีผมก็เซไปพิงกำแพงห้องนอนแล้ว แต่แทนที่อิฐและปูนจะรับร่างของผมเอาไว้ได้อย่างที่ควรจะเป็น ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองเสียหลักล้มถลาไปวูบหนึ่ง อะไรกันวะ ผมสบถ ก่อนจะตระหนักได้ในวินาทีถัดมาว่าผมมายืนอยู่กลางห้องนั่งเล่นเฉยเลย

    สามัญสำนึกบวกกับจินตนาการเริ่มแสดงภาพความเป็นไปได้ ผมหันซ้ายหันขวาเผื่อว่าจะมีใครสักคนโผล่มาให้คำตอบ ในเมื่อไม่มี ผมจึงตัดสินใจทำการทดลองด้วยการวิ่งชนกำแพงอีกครั้ง ในหัวนึกภาพมิสซิสวีสลีย์บอกเด็กๆ ที่เพิ่งเคยไปฮอกวอตส์ครั้งแรกก่อนจะเข็นรถเข็นพุ่งผ่านกำแพงที่กั้นระหว่างชานชาลาที่เก้ากับสิบ วูบเดียวเท่านั้น ผมกลับมาอยู่ในห้องนอนที่เคยยืนอยู่เมื่อห้านาทีก่อน โอ้โห นี่มันเจ๋งชะมัด (แต่มาคิดดูอีกที การเดินทะลุวัตถุได้ไม่ค่อยจะมีประโยชน์อะไรนักและไม่ได้เร็วไปกว่าการเดินไปประตูเองเลย)

    ผมลองทดสอบดูอีกหลายครั้งให้เคยชิน มันเหมือนกับการเดินทะลุเยลลี่เหลวๆ (อันนี้ผมจินตนาการเอา) และเมื่อเลิกวิ่งหลับตาชน ผมก็เริ่มสังเกตเห็นความแตกต่าง ห้องนั่งเล่นที่ผมเลือกเดินผ่านประตูไปอย่างปกติธรรมดากับห้องนั่งเล่นที่ผมทะลุผ่านกำแพงดูเหมือนคนละสถานที่กัน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะหรือองศาของเก้าอี้นวม ไม่นานนัก ข้อคิดเห็นได้กลายเป็นข้อเท็จจริง เมื่อผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์ย้ายข้าวของในห้องออกไปจนหมด แต่เมื่อผมเดินทะลุผ่านกำแพงทุกครั้ง ห้องเช่ายังดูเหมือนเดิม เหมือนในวันที่ผมตายไม่มีผิด กำแพงนั่นไม่ใช่แค่ทางผ่าน แต่เป็นโลกอีกใบที่ถูกแช่แข็งอยู่ในนั้น โอเค ถือว่าผมได้เรียนรู้บทเรียนใหม่อีกข้อ นั่นคือชีวิตหลังความตายได้เอื้อเฟื้อที่พักเดิมให้อีกด้วย ถึงผมจะออกไปไหนไม่ได้ — แน่นอน ผมลองดูตั้งแต่วันแรกที่ตายแล้ว  — แต่ที่นี่ก็ไม่เลวนัก อย่างน้อยก็ไม่ได้ตกนรกหมกไหม้ ส่วนสวรรค์อย่างที่ใครๆ เชื่อกันคงเป็นสถานที่ที่ผมรับไม่ได้อยู่ดี

    เพราะอย่างนั้น กำแพงจึงเป็นโลกทั้งใบที่ทับซ้อนอยู่บนอีกมิติ ผมก้าวทะลุกำแพงเพื่อกลับบ้านที่ซึ่งเวลาไม่ไหลเลื่อนอีกต่อไปแล้ว หรือบางครั้งก็ก้าวออกมาเพื่อพบกับห้องที่ว่างเปล่า ซึ่งนานๆ ทีจะเจอคนหาห้องเช่ารายใหม่ๆ มาเยี่ยมชม พวกเขาไม่เห็นผมหรอก เพียงแต่บางครั้งก็ทำท่าหนาวสั่นเวลาผมเคลื่อนผ่านไปก็เท่านั้นเอง แต่ละวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนน่าขัดใจ โชคดีเหลือเกินที่อย่างน้อยผมตัดสินใจถูกต้องด้วยการสมัครเน็ตฟลิกซ์เอาไว้ รวมทั้งยังมีหนังสือที่คลาร่าทิ้งไว้เป็นตั้ง ผมจึงมีอะไรทำไปพลางๆ ระหว่างที่ — ไม่รู้สิ รอให้บางอย่างเกิดขึ้นมั้ง


    เดือนแรกหลังจากตาย ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้หรอกว่าบางอย่างที่ว่านั่นจะหมายถึงบางคน
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in