เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Anew แปลไทยเก็บไว้อ่านเองnickkle891
แปลAnew. ch.5

  • "คุณสตาร์คคะ ช่างเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจจริงๆค่ะ ฉันรู้สึกดีใจที่ได้เจอคุณอีกครั้ง มันคงน่าเบื่อมากหากไม่มีคุณ" สุภาพสตรีทายาทบริษัทเหมืองแร่ยิ้ม ขณะที่โทนี่ทักทายเธอด้วยการจูบแก้ม เครื่องเพชรบนคอของเธอพราวระยับภายใต้แสงแชนเดอเลียร์

    "คุณคนสวย นั่นถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง" โทนี่เผยรอยยิ้มการค้าประจำตัว "มันดีมากที่ได้กลับมา ผมคิดถึงการได้เป็นจุดสนใจแบบนี้" คู่สนทนาหัวเราะอย่างสุภาพ
    ในงานกาล่า สุภาพบุรุษและสตรีทั้งหลายอยู่ปะปนกันในชุดเสื้อผ้าที่ตัดเย็บอย่างดีพร้อมเครื่องประดับเพชรพลอย โทนี่เพิ่งได้กล่าวสุนทราพจน์
    พูดซ้ำซากนับร้อยครั้งเกี่ยวกับเรื่องราว ที่เขาทุกข์ทรมานในอัฟกานิสถาน หนีการคุมขังด้วยมาร์ค1 ตามมาด้วยการถูกพิษของพาลาเดียม สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จในการสังเคราะห์ธาตุใหม่ขึ้นมา เกือบทั้งหมดเป็นข่าวเก่า แต่ชาวโลกรักเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตานี้

    โทนี่อยู่และพูดคุยกับบรรดาแขกในงานจนกระทั่งเขาหาข้ออ้างโดดไปที่บาร์ได้ ถ้าเป็นเขาตอนยังหนุ่มๆคงโดดขึ้นรถไปแล้ว แต่ด้วยมุมมองของเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วนั้น ตัวตนที่สองของเขาซึ่งถือกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านนี้ควรดูน่าเชื่อถือพอจะฝากความหวังไว้ได้ จนถึงตอนนี้
    ทุกๆอย่างดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ หากการสร้างเครื่องปฏิกรณ์อาร์คในถ้ำจากซากมิสไซด์มันยังไม่พอ การสังเคราะห์ธาตุใหม่ตอนกำลังใกล้จะตายคงเหมาะกว่าที่จะปิดฉากความอัจฉริยะของเขา
    ทั้งหมดที่คิดไว้คือเขาได้ใช้ช่วงเวลาตอนเย็นที่เหลือไปกับการพูดคุยจนถึงช่วงประมูลภาพวาดการกุศล
    โทนี่มีความสนใจเป็นศูนย์กับพวกเส้นสียึกยือจับต้องไม่ได้พวกนี้ แต่เหมือนเปปเปอร์จะชอบอะไรแบบนี้ เขาจึงต้องสนใจมันมากกว่าแต่ก่อนเสียหน่อย

    ตามความเข้าใจของโทนี่ พวกเขาทั้งสองคนกลับไปในท่วงทำนองเดิมๆ โทนี่วางโครงสร้างของสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และเปเปอร์ก็ทำให้พวกมันเกิดขึ้น มันช่างสะดวกสบาย รู้สึกคุ้นเคย เธอทำผลงานที่โดดเด่นในฐานะCEO สตาร์คอินดัสทรีหุ้นตกลงเนื่องด้วยการขาดงานของโทนี่ มีเพียงตอนเขากลับมาเท่านั้นที่มันพุ่งสูงขึ้น เธอใช้เวลากับโทนี่น้อยและน้อยลงมากขึ้น ในทางกลับกัน โทนี่ก็ตระหนักได้ว่าเขาต้องการมันน้อยลงและน้อยลงเหมือนกัน
    ไม่ว่าเปเปอร์จะรับรู้หรือไม่ พวกเขาเคยผ่านช่วงเวลาลำบากมาด้วยกัน การเลิกกันของพวกเขาในชีวิตครั้งก่อน ช่วยทำให้โทนี่เห็นว่า พวกเขาไม่เคยคิดในทางโรแมนติกต่อกันและกันเลย มีลักษณะที่คล้ายการชื่นชอบในตัวเพื่อน แต่ไม่ใช่กับคนรัก เปปเปอร์ต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคง ใครสักคนที่จะอยู่ที่นั่นเพื่อเธอ เมื่อเธอต้องการ โทนี่เป็นไออ้อนแมน เขาที่โยนตัวเองเข้าสู่อันตรายในวันหนึ่งมากกว่าอันตรายที่ผู้ชายบางคนเจอมาทั้งชีวิต ในทางกลับกัน โทนี่ต้องการความซื่อสัตย์ เพื่อนคู่คิด และความตื่นเต้น โทนี่ตั้งเป้ากับสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ กระทั่งยอมทุ่มสุดตัวจนกว่าจะสำเร็จ บางคนอาจจะหันหลังกลับเมื่อเจอกับทางตันแต่ไม่ใช่กับโทนี่ เขาจะโถมตัวใส่มัน อีกครั้งและอีกครั้ง จนกว่าจะบรรลุสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นหรือจนกว่าจะแตกสลายเป็นล้านชิ้น เมื่อโทนี่เชื่อในบางสิ่ง เขาจะใช้กำลังผ่านมันไป ไม่ว่าจะฝนหรือแสงสว่างก็ตาม

    ในขณะที่เปเปอร์กำลังมาในรูปแบบใหม่ที่ไร้พันธะกับโทนี่ โทนี่ก็มาในรูปแบบของการยอมรับความจริงที่ว่าเขาชอบเปเปอร์มากกว่าเพื่อน สิ่งที่พวกเขาเข้าใจคือความรักซึ่งกันและกันที่ร่วมกันสร้างมากว่า10ปีจากสายสัมพันธ์อันมีค่ามากเกินกว่าจะเอามาเสี่ยง บางทีโทนี่อาจซื้อคืนคอลเล็กชั่นศิลปะสมัยใหม่ที่เขาบริจาคให้กับลูกเสือแห่งอเมริกา เพื่อชดเชยที่กำจัดมันไปในตอนแรก

    ความคิดของโทนี่แล่นไปเรื่อยขณะรอเครื่องดื่ม
    เขาเอนหลังพิงบาร์และมองสำรวจฝูงชนด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย ร่างในชุดทักซิโดของใครคนนึง ดึงดูดความสนใจของเขา นั้นมัน? โทนี่ไม่สนใจออเดอร์ตัวเองและไปฉกคอกเทลสองแก้วจากบาเทนเดอร์อีกคนที่วางแก้วลงพอดี เขาเมินสายตาไม่พอใจจากด้านหลังและเดินฝ่าฟลอร์เต้นรําไป"ดอกเตอร์สเตรนจ์?"

    ชายผู้ถูกถามหันมาเผชิญหน้ากับเขา"โอ้ นี่คงจะเป็นใครเสียไม่ได้นอกจาก ดอกเตอร์สตาร์ค ชายแห่งศตวรรษ" สเตรนจ์ เลิกคิ้วขึ้น เขาไม่คาดคิดว่าถูกเข้ามาทักทาย

    "ขอร้องล่ะ อย่าบอกว่าคุณเชื่อพวกกข่าวแท็บลอยด์*นั่นน่ะ เพื่อนๆเรียกผมว่าโทนี่" โทนี่ยื่นเครื่องดื่มแก้วหนึ่งให้สเตรนจ์ โทนี่ไม่เคยถูกแนะนำกับสเตรนจ์มาก่อน แม้แต่เส้นทางของพวกเขาก็ไม่เคยมีโอกาศได้มาบรรจบกัน สเตรนจ์มีลูกค้าจากแวดวงของโทนี่ แต่ส่วนน้อยในกลุ่มนั้นที่จะมาร่วมงาน พวกเขาพลัดกันพูดเรื่องตลก โทนี่รู้สึกละความสนใจจากความเฉลียดฉลาดและไหวพริบของชายคนนี้ไม่ได้

    "ผมแปลกใจจริงๆที่อีโก้ของพวกเราสองคนยัดลงในห้องนี้ได้พอดี" โทนี่ยิ้มเปราะ เขาจิบเครื่องดื่มในมือและต้องสะดุ้งด้วยความขยะแขยง เขาน่าจะรอเครื่องดื่มของตัวเอง "เอกสารของคุณเรื่องการกระตุ้นระบบประสาทมันน่าทึ่งมาก ผมได้ยินมาว่าคุณมีประสบการณ์อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลังพร้อมบันทึกเสียงไว้สมบูรณ์แบบ คุณคิดว่าไง สนใจทำงานเสริมเป็นที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของสตาร์คอินดัสทรีไหม ไม่มีการผูกมัด ใช้เวลาไม่เยอะหรอก แค่ต้องไปเยี่ยมแลปของฉันตั้งแต่วันนี้และต่อๆไป พวกเราจะได้กินคานาเป้ จิบแชมเปนและนั่งขีดๆเขียนๆเท่านั้นเอง"

    สเตรนจ์หันไปมองรอบตัวเขาอย่างละเอียด คนกว่าครึ่งฮอล กำลังแอบฟังบทสนทนาของพวกเขา "คุณต้องการไปคุยที่ส่วนตัวกว่านี้ไหม?" สเตรนจ์ลดเสียงของเขาลง "ถ้ามันเกี่ยวกับ..." เขาชี้ไปทางแสงเลือนๆภายใต้เสื้อของโทนี่

    "ของเก่านี่น่ะเหรอ? ไม่หรอก มันถูกซ่อมแล้วผมอยากได้ความเห็นอื่นๆจากคุณ สตาร์คอินดัสทรี มีแพลนที่จะเปิดตัวเทคโนโลยีล้ำสมัยเรื่อง อวัยวะเทียม แต่มีราคาไม่แพง" มันเป็นโปรเจ็คเก่า โทนี่มีปัญหามากเกินไป เขาต้องอัพเกรดเกราะวอร์แมชชีนให้มีร่มชูชีพ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง เทคโนโลยีดูดซับแรงกระแทกและรองรับกระดูกสันหลัง โทนี่ต้องมั่นใจว่าโรดี้จะได้รับการป้องกันที่ดีในคราวนี้ แต่เขามีแผนการอยู่แล้ว ที่ต้องการคือแรงผลักดันพิเศษสักหน่อย

    "ผมคิดว่าในขณะที่ตัวผมยังทำได้ ผมก็ควรทำสิ่งดีๆให้กับโลกใบนี้ ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ครั้งนั้นผมเคยพูดว่าผมจะปิดแผนกอาวุธลงเพื่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่า" โทนี่แตะมือบนปฏิกรณ์อาร์ค เขายังคงรู้สึกไม่สบายด้วยการเอาตัวเขาออกมาจากที่นั่น ส่วนหนึ่งในตัวเขายังกรีดร้องว่าเขาไม่ควรค่าแก่การได้เป็นคนที่ดีกว่าเดิม แต่เขาก็เก่งกว่าในการปิดกั้นมันไว้ เขาปฏิเสธเสียงพึมพำที่จะมาครอบงำชีวิตของเขา
    "มันน่า... ชื่นชมมาก"สเตรนจ์พูดอย่างช้าๆ โทนี่รู้สึกว่าเขากลายเป็นบางสิ่งในแบบที่สเตรนจ์คาดหวังเอาไว้ "ผมว่ามันเป็นไอเดียที่ผมพอช่วยได้ ผมจะหาเวลาว่างไปคุยรายละเอียดกับคุณ" ตามข่าวลือ สเตรนจ์ไม่ได้สนใจอะไรที่เกี่ยวกับ 'สิ่งที่ดี' มากนัก แต่มันคงจะไม่ดีถ้าพลาดโอกาศร่วมงานสตาร์คอินดัสทรี ปฏิวัติวงการแพทย์เป็นคำที่ดูดีไม่ว่าจะอยู่ในโปรไฟล์ของใคร

    "อย่างที่ผมบอก มันใช้เวลาไม่นานหรอก ว่างเมื่อไรโทรหาผมนะ" โทนี่ยื่นนามบัตรของเขาให้สเตรนจ์ ที่มุมหางตาของเขาเห็นอีกร่างเดินเข้ามา

    "สตีเว่น คุณหายไปอีกแล้วนะ ฉันต้องมา.. ดอกเตอร์สตาร์ค!" หญิงสาวอ้าปากค้างเมื่อตระหนักได้ว่าคู่เดทของเธอกำลังคุยอยู่กับใคร
    "คริสทีน ผมอยากให้คุณได้รู้จักกับโทนี่ โทนี่ นี่คือดอกเตอร์คริสทีน ไพล์มเมอร์ เพื่อนร่วมงานของผมที่โรงพยาบาลเนโทรเจเนรอล "สเตรนจ์วางมือลงบนเอวของเธอ 'ประเภทแสดงความเป็นเจ้าของเหรอห่วยแตกที่สุด' โทนี่กรอกตาในใจ

    "ดอกเตอร์ ไพล์มเมอร์" เมื่อรู้ตัวโทนี่จูบลงบนมือของเธออย่างไม่อ้อยอิง "ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ตอนเขายังหนุ่มๆ โทนี่คงไม่คิดเยอะในการเริ่มเรื่องดราม่า แต่เขาจำเป็นต้องให้สเตรนจ์เห็นด้านดีๆของเขา ผู้ชายที่ทำให้บทสนาน่าสนใจ แต่ที่สำคัญกว่านั้น โทนี่ใช้ความคิดเห็นของสเตรนจ์เพื่อพัฒนาแนวทางใหม่ๆของอวัยวะเทียมได้ ถ้าพวกเขาสามารถลดราคาต้นทุนลงอย่างเหมาะสม พวกเขาจะช่วยได้อีกเป็นพันชีวิต "โทษที ผมต้องไปแล้ว ขอให้พวกคุณสนุกนะครับ" โทนี่ลดเครื่องดื่มลงและวางแก้วเปล่าบนถาดของบริกรที่เดินผ่านมา

    "คุณจะไม่อยู่คอยช่วงประมูลเหรอคะ?"คริสทีนถาม
    "ผมคุยกับภัณฑารักษ์ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วล่ะ เธอจะเก็บไว้สักชิ้น สองชิ้นให้ผมน่ะ" โทนี่ขยิบตา "โทรหาผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับ" โทนี่พูดกับสเตรนจ์ เขาโทรหาแฮปปี้เพื่อจะกลับบ้าน นี่เพิ่งจะ5ทุ่มและเขากำลังหาว? ผีเข้ารึเปล่าเนี่ย
    "ฉันไม่เห็นรู้เลยว่าคุณรู้จักกับโทนี่ สตาร์ค?" คริสทีนพูดออกมาอย่างประหลาดใจ หลังจากที่โทนี่เดินห่างไปเกินกว่าจะได้ยิน
    "ผมเปล่า" สเตรนจ์สำรวจนามบัตร มันมีน้ำหนักเบาทำจากโลหะ ไม่มีชื่อเขียน มีเพียงเบอร์โทรศัพท์ที่สลักลงบนพื้นผิว "เขามั่นใจว่าฉันจะยอมทำตามอย่างเต็มใจ"
    "พวกคุณสองคนคุยอะไรกัน?"
    "ความลับของแพทย์กับคนไข้น่ะ คริสทีน" สเตรนต์ถอนหายใจและเลื่อนการ์ดเก็บเข้าไปในกระเป๋าทักซิโด เขาพาคริสทีนไปทางแกลอรี่ งานประมูลกำลังจะเริ่มขึ้น "แม้ว่ามันจะไม่เกี่ยวกับสุภาพของเขาก็ตาม"
    "ว่าแล้วเชียว ก็คุณมันหายใจเข้าออกเป็นกฎนี่"
    คริสทีนกรอกตา "กี่ครั้งแล้วนะที่คุณถามเกี่ยวกับคนไข้ของนิค พวกคุณ2คนดูเข้ากันได้ดีนะ"

    "เหมือนใจสื่อถึงกันเลยล่ะ" สเตรนจ์ยิ้มยียวน

    "โอ้ พอทีเถอะ"

    "กลับบ้านแฮป ฉันโคตรเหนื่อยเลย-- "โทนี่พูดขณะเข้าไปนั่งในรถ
    "ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง คุณสตาร์ค"
    เสียงผู้ชายฮึดฮัดไม่พอใจ โทนี่หวังว่ามันจะถูกแทนที่ด้วยการล้อเล่นแรงๆ ประตูล็อคโทนี่ถูกขังอยู่ข้างใน โทนี่หน้าดึงขึ้นมาในไม่กี่วิ เขาจำเสียงนี้ได้ดี เขารู้จักเธอมาเป็น10ปี คนที่เขาเคยคิดว่ารู้จักดี โทนี่ปรับความคิด พวกเขาทั้งสองคนนั้นต่างกัน

    "เธอทำอะไรแฮปปี้?"โทนี่ถาม
    "ใจเย็น เขาอยู่ในกระโปรงหลังรถ"
    ตัวรถเคลื่อนออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่นาตาชา โรมานอฟของหน่วยชิล มุ่งสายตาดูถนน "คิดถึงฉันไหม" หล่อนปัดปอยผมสีแดงของหล่อนไปอีกด้าน เผยให้เห็นลำคอระหงอย่างไม่ได้ตั้งใจ โทนี่มองสำรวจเจ้าหล่อนอย่างเย็นชา นาตาชากล่อมตัวเองว่านี่คือชายคนเดียวกับที่เธอใช้เวลาไปครึ่งเดือนในการสอดแนม ตั้งแต่งานวันเกิดของเขาไม่มีอะไรที่ตรงกับพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้ในรายงานของเธอเลย
    แม้ว่าประสบการณ์เสี่ยงตายรอบสองจะถูกนำมาพิจารณาด้วย การเปลี่ยนแปลงนี้ก็รุนแรงเกินไปอยู่ดี
    เมื่อครั้งแรกที่ชิล ตระหนักได้ว่าสตาร์คหลุดลอดสายตาไปแล้ว พวกเขาเตรียมใจจะสูญเสียโทนี่ไป
    โดยไม่คำนึงถึงมูลค่าของเขาในฐานะทรัพย์สินอันส่งคุณค่า พวกเขาไม่สามารถเสี่ยงให้สมุดบันทึกของโฮเวิร์ดตกถึงมือผิดคนได้ มันเสี่ยงเกินไปที่จะติดต่อกับสตาร์คในเมื่อแมนชั่นของเขาถูกล้อมรอบไปด้วยกองทัพ อย่างไรก็ตาม แทนที่จะพ่ายแพ้ต่ออาการเจ็บป่วย สตาร์คกลับรอดพ้นอันตรายมาได้ แก้ไขภาพลักษณ์ต่อสาธารณชน เสริมสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาล สังเคราะห์ธาตุใหม่โดยปราศจากสมุดบันทึกของพ่อเขา มันดูราวกับว่ามีใครบางคนคอยเขาบอกว่าควรต้องทำอะไร

    "ไม่ ฉันไล่เธอออกแล้ว ที่นี้ก็ลงไปจากรถฉันซะ" ไม่มีความอบอุ่นในคำตอบกลับของเขา
    ไม่มีอะไรชี้ชัดเลยว่าครั้งหนึ่งเขาเคยสนใจเธอ
    นาตาชาเชี่ยวชาญในศิลปะการล่อลวง
    ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความกระตือรือร้นในการเล่นอยู่บนฝ่ามือของเธอ แต่ตอนนี้เขาตัดเธอออกไปโดยไม่มีการเตือนใดๆ
    "พวกเราจำเป็นต้องคุยกัน" หล่อนพูดอย่างใจเย็น
    โทนี่รู้สึกถึงปลายแหลมของความรำคาญผุดเพิ่มขึ้นจากภายในตัวของเขา มันก็เป็นอย่างนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ? เขาพูดสิ่งที่เขาต้องการและพวกนั้นก็เมินมันอย่างสมบูรณ์ ทั้งสองกำลังเล่นเกมนี้กันอยู่ "ตารางงานของฉันถูกจองเต็มจนถึง กรกฎาปีหน้า บอกผู้บัญชางานของเธอไปนะให้ไปต่อคิวซะ"
    นาตาชาเลิกคิ้วขึ้นกับข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกันในคำพูดเหล่านั้น "นายรู้ว่าฉันทำงานให้ใครงั้นเหรอ?"
    ท่าทางเมินเฉยของเธอเป็นหนึ่งในสิ่งที่ถูกฝึกมา

    "เธอแฮ็กเทอร์มินัลเพียงยี่สิบอันเท่านั้น แนะนำอย่างนะ ข้อบกพร่องคือมันเป็นระบบสองทาง " โทนี่ลูบนาฬิกาที่ซ่อนในถุงมือเอาไว้ "ฉันไปแล้วว่าฉันไม่อยากไปเป็นส่วนหนึ่งของบอยแบนด์ลับสุดยอดของเขา"
    "สตาร์ค นี่เรื่องจริงจังนะ" เธอส่งแฟ้มเอกสารที่มีโลโก้ของชิลอยู่บนปกให้เขา "รายงานเบื้องต้นการก่อตั้งอเวนเจอร์ "นายไม่ได้ถูกรับเลือกหรอกนะ แต่พิจารณาจากพัฒนาการล่าสุดของนาย ผู้บัญชาการเลยตัดสินใจให้โอกาศที่--"โทนี่เลื่อนกระจกลงช้าๆ เขาโยนเอกสารออกไป เนื้อหาของมันลอยไปตามลม เส้นสายหน้ากระดาษพัดปลิวไปด้านหลังของเขา

    ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว โทนี่เคยโดดลงไปคว้าโอกาสในการพิสูจน์ตัวเอง เขาเคยเสียสละเวลาของเขา

    บ้านของเขา เทคโนโลยีของเขาและเงินในบัญชีเพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ไม่มีอะไรไปกว่าการบอกว่าเขากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่
    ดูจากเหตุการณ์ที่อัฟกานิสถาน เขาคิดว่ามันเล็กน้อยสำหรับตัวเขา เขาดูถูกความพยายามของตัวเขาเอา ไม่ว่าจะภัยพิบัติจะสร้างความหายนะขนาดไหนหลังจากทุกภารกิจของอเวนเจอร์ล้วนต้องเป็นความผิดเขา เพื่อความสบายใจของคนอื่น สิ่งเขาคิดไว้มันช่างโง่เขลา ว่าถ้าเขาให้เพิ่มอีกสักนิด ลงโทษตัวเองอีกสักหน่อย แล้วในสุดทีมก็จะเห็นว่าเขานั้นกลับตัวกลับใจ และยอมรับเขาอย่างเท่าเทียมจริงๆ
    จากความพยามของเขาทั้งหมด เขาตายอย่างโดดเดี่ยวในฐานลับที่ไซบีเรีย ไม่มีใครสักคนกลับมาหาเขา โทนี่จะไม่เอาตัวเองมาเสี่ยงเพื่อคนพวกนี้อีกแล้ว

    "อุ๊ปส์ กลับไปเก็บมันจะดีกว่านะ นั่นความลับสุดยอดทั้งนั้นเลยน้าา"
    "แก" หน้าของแบล็กวิโดแตกกระจาย เธอรายงานตำแหน่งตัวเองลงในหูฟัง คิดว่าอาจจะมีสักนิดโทนี่รู้สึกผิดแต่เขามีเพียงความรู้สึกดูถูกเย็นชา

    นาตาชามองอย่างไม่อยากจะเชื่อ มีบางอย่างผิดปกติ นี่ไม่ใช่วิธีที่พลเรือนตอบสนอง แม้ว่าฮาวเวิร์ด จะมีส่วนร่วมกับชิล แต่ลูกชายของเขาไม่น่าจะมีประสบการณ์กับองค์กรลับสิ แสงสีแดงและทองดึงความสนใจของเธอ ก่อนที่เธอจะคว้าปืนได้ เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับถุงมือที่เปล่งแสงร้อนๆตรงหน้าของเธอแล้ว

    "ฉันจะย้ำอีกครั้งเดียว ลงไปจากรถของฉันซะ"คำไล่ดังขึ้นในพื้นที่แคบๆนี้ นาตาชาประเมินสถานการณ์ เธออยู่ภายใต้คำสั่งที่เคร่งครัดว่าห้ามทำร้ายสตาร์ค "พวกเขายังคงคลุมเครือเกี่ยวกับสุขภาพของโทนี่ มือทั้งสองข้างของเธอถูกเห็นแล้ว ในระยะเท่านี้ ลำแสงโดนเธอแน่แม้ว่าเธอจะควบคุมไม่ให้โดนหัว การจราจรในนิวยอร์กเวลานี้ไม่สว่างเอาซะเลย เธอออกมายืนข้างถนน
    "ฉันจะรายงานผู้บัญชาการฟิวรี่เรื่องพฤติกรรมของนาย"นาตาชาพูด

    พฤติกรรม โทนี่คิด นั่นไม่ใช่คำตัดสิน นาตาชาแค่พยายามหาทางจากไป โทนี่พูด "นี่เป็นคำเตือนเดียวที่เธอจะได้ ฟังให้ดี ในขณะที่เธอมอบทางเข้าสู่ระบบชิลให้กับฉันอย่างใจดี ฉันก็เจอกับข้อมูลน่าสนใจ ลองเข้ามาใกล้ฉันหรือคนรอบตัวฉันโดยไม่พึงประสงค์อีกครั้งสิ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของเธอโดนย่างสดแน่ เริ่มด้วยบาลตันก่อนเลย"
    นาตาชาตัวแข็งทื่อบนทางเท้า "ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะระวังตัวให้ดี"
    แบล็ควิโดจ้องกลับอย่างน่ากลัว เผื่อจะข่มขวัญผู้ชายคนนี้ได้สักนิดโทนี่เผยรอยยิ้มการค้าประจำตัว "จำไว้ไปแนะนำตัวเองเถอะ พูดจากประสบการณ์ตรงเลยนะ พวกปลิ้นปล้อนและพวกชอบสอดน่ะ จบไม่สวยแน่"

    [ติดตามตอนต่อไป]

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in