เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไม่รู้ที่มาศุทธิตินันน์ กุรจักรฤทธิ์
เธอจะมีน้ำตาให้ฉันไหม
  • -ไม่รู้ที่มา-

     รองเท้าแตะช้างดาวสีดำเหยียบขึ้นบันไดเลื่อนของห้างสรรพสินค้าชื่อเซ็นทรัลเวิลด์ผมไม่รู้ว่ามันเป็นโลกของใครแต่ที่ผมรู้ดีผมอยู่ในโลกนี้ โลกที่เป็นของผมเหมือนกัน

     

     ข้างนอกกระจกมองลงไปผมเห็นรถราถนนคล้ายอนุสาวรีย์ชัยฯผู้ชายสวมเสื้อผ้าเก่าๆ เหมือนกับผม ผู้หญิงสวมหมวกมีผ้าคลุมหน้าอากาศร้อนเหมือนทุกปีแม้จะอยู่ในช่วงหน้าหนาว ผมรู้สึกเย็นสบายผมเดินไปทางนั้นทีทางนี้ที มีข้าวของให้ผมเลือกซื้อหามากมายแต่ผมไม่มีเงิน

     

     ผมอยากอ่านหนังสือหลายๆ เล่มเห็นร้านหนังสืออยู่ตรงหน้าผมรี่เข้าไปทันที พนักงานในร้านเป็นสาวสวยเหมือนร้านหนังสือทุกที่ผมเหลือบมองเธอที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์สองคนทั้งสองคนยิ้มให้ทุกคนที่เข้ามาในร้าน เสื้อขอปกสีน้ำเงินของเธอดูหน้าสวมใส่ผมอยากใส่มานานแล้ว ผมเดินเข้าไปที่ล็อคหนังสือหมวดวรรณกรรมนักศึกษาสาว สี่ ห้าคนกำลังพูดคุยกันสนุกสนาน ผมไม่ได้คิดจะฟัง แต่ก็เดาว่าน้องๆกำลังคุยถึงหนังสือนิยายปกสวย ผมเดินผ่านน้องนักศึกษาไปได้สองช่วงก้าวพวกเธอหัวเราะผมที่แต่งตัวปอนๆ ทั้งยังพูดกระซิบว่า

     “หน้าตาแบบนี้อ่านหนังสือด้วยเหรอ” 55555

    ผมผู้อยู่ในสภาพเสื้อยืดท่าน รพินนาถ ฐากูร กางเกงยีนเก่าๆผมยาวไม่เป็นทรง ผมรู้ตัวดีว่า ผมอยากเป็นกวี-นักเขียนถึงผลงานจะไม่มีเลยก็ตาม ผมทำได้แค่เขียนกลอนโพสต์ลงเฟซบุ๊คไปวันๆ

     

     ผมเห็นหนังสือหลายปกเล่มใหม่ๆเงินในกระเป๋าที่มีไม่พอซื้อสักเล่มตัดสินใจวิ่งออกจากร้านหนังสือคงเป็นความฝันที่ถีบผมออกมาจากร้านนั้นผมเห็นบันไดเลื่อนกำลังไหลเลื่อนลงไปข้างล่างแวบนั้นผมเห็นช็อปคอนเวิร์สตระการตาอย่างไม่เคยพบเคยเห็นมาในชีวิต ผมไม่ได้คิดอะไรผมเคยเห็นออลสตาร์ตัวท็อปราคาหลักแสนมาแล้ว ผมลองเดินเข้าไปดู

     ตกใจทันทีคอนเวิร์สตัวใหม่สวยกว่าที่คนยุคนี้เล่นหากันราคาหลักพันเหมือนเดิมแต่สีสันสุดยอดกว่ายุค 90’s มาก ผมก็เดินด้วยรองเท้าช้างดาวออกมาอีกนั่นละผมขึ้นบันไดเลื่อนไปดูร้านนั้นร้านนี้จนสมใจอยาก ถึงเวลากลับเป็นช่วงเย็นผมเดินสะดุดบันไดเลื่อนมีคนหันมามองดูท่าจะเป็นคนมีเงินก็ยังโดนหัวเราะเยาะอีกเช่นเคย ผมก็ยืนนิ่งรอบันไดเลื่อนลงอย่างช้าๆพวกเขาพูดกันเสียงดังว่า

      “ไอ้เสี่ยว!” “แม่งเสี่ยว!” “โคตรเสี่ยว!

     ผมเข้าใจคำนี้ดีเพราะผมไม่ใช่คนต่างจังหวัดผมแค่มาเที่ยวดูเท่านั้น ห้างเซ็นทรัลเวิร์ลที่นี่กว้างใหญ่ดี ผมได้ยินเพลงในหัว“คนไร้ราก” มงคล อุทก ผมนี่อย่างชอบเพลงนี้

    “ไม่มีที่มาไม่มีที่อยู่” วรรคนี้โคตรสะเทือนใจผมคิดต่อไปถึงที่มาของผู้คนที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าเดียวกัน

    เรามาจากไหน? ผมรู้ดีแต่พวกเขารู้หรือเปล่า

     

     ผมนั่งรถกลับไปที่ บขส. ประจำจังหวัด ช่วงหัวค่ำ เดินไปซื้อตั๋วกับมานั่งพักกินน้ำเดินออกไปสูบบุหรี่ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นใครมองมาที่ผมลุงแกเดินเข้ามาหาแล้วคุยด้วยถามนั่นถามนี่ ผมเห็นสายตาของลุงแกมองผมเวลาที่ผมเอาบุหรี่สูบผมพ่นควันแบบที่ผมคิดว่ามันเท่ ผมถามลุงแก

      “บุหรี่มั้ยลุง?

    ลุงพยักหน้าจุดบุหรี่สูบอย่างสบายใจ

     

     ผมกลับไปนั่งรอรถที่เดิมเกือบสี่ทุ่มแล้วรถกำลังจะออกผมขึ้นรถกลับที่ที่จากมาเวลากลางคืนบนรถทัวร์มันมีความสุขมากเหมือนกัน แอร์เย็น กลิ่นหอมผมนั่งคิดตั้งแต่ขึ้นรถว่าวันนี้พบเจออะไรมาบ้าง

     

     ผมเห็นทุกอย่างที่เหมือนกันทุกที่มันคือความเจริญที่สมควรเจริญ เมืองหลวงก็คือเมืองหลวง ผู้คน ถนน รถราสันดานของผมก็เป็นแบบคนทั่วไป ก็นี่มันคือความเจริญแล้วผมจะรออะไร เสียงบ่นเสียงด่า มีค่ากว่าที่เราคิด สำหรับผมมันมีค่าที่ควรตอบแทน

     

     เพื่อนผมคงรอใจจดใจจ่อคงคิดถึงสันดานบาปของเพื่อนแท้ผมก็คิดถึงมันใจจะขาดแล้ว ผมคิดว่าเราจะได้กลับไปเฟี้ยวกันจริงๆเหมือนที่เคยเฟี้ยวมาตั้งแต่ช่วงมัธยม

                                            

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in