ฟิลเลอร์ Belotero (เบโลเทโร่) หรือที่รู้จักในชื่อ Colorful Filler เป็นฟิลเลอร์มาตรฐานระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ที่มีหลายรุ่น รุ่นไหนมีคุณสมบัติอย่างไร ? เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? ราคาเท่าไหร่ ? บทความนี้มีคำตอบ! ใครที่สนใจหรือกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Belotero ต้องอ่าน!

สารบัญ Belotero

- ฟิลเลอร์ Belotero ดีอย่างไร ? ทำไมถึงเป็นที่รู้จัก

- แนะนำฟิลเลอร์ Belotero ยอดนิยม 4 รุ่น

ㅤㅤ- 1. Belotero Intense

ㅤㅤ- 2. Belotero Volume

ㅤㅤ- 3. Belotero Soft

ㅤㅤ- 4. Belotero Revive

- ฟิลเลอร์ Belotero ราคาประมาณเท่าไหร่ ?

ฟิลเลอร์ Belotero ดีอย่างไร ? ทำไมถึงเป็นที่รู้จัก

ฟิลเลอร์ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์ มีส่วนประกอบหลักคือ ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียน พร้อมเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าให้ตื้นขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

โดย Belotero ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง และกลืนไปกับชั้นผิวได้ดี ทำให้ไม่เกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนหลังฉีด

และอีกจุดเด่นที่ทำให้ Belotero เป็นที่รู้จัก คือ สีสันของกล่องในแต่ละรุ่น ซึ่งทำให้ฟิลเลอร์นี้ได้รับฉายาว่า "Colorful Filler" โดยแต่ละสีแต่ละรุ่นจะถูกออกแบบให้เหมาะสมกับปัญหาผิวและตำแหน่งที่ฉีดแตกต่างกัน

แนะนำฟิลเลอร์ Belotero ยอดนิยม 4 รุ่น

Filler Belotero มี 4 รุ่นที่ได้รับความนิยม มาดูกันว่ารุ่นไหนมีจุดเด่นอย่างไร ? และเหมาะกับการฉีดบริเวณใดบ้าง ?

1. Belotero Intense

Belotero รุ่น Intense เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับแก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ ที่เกิดจากการยุบตัวของเนื้อเยื่อและการเสื่อมสภาพของผิวตามวัย เช่น ร่องแก้มลึก หรือแก้มตอบ ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและอิ่มฟูขึ้น

- จุดเด่น : ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดบริเวณที่มีร่องลึกจากการยุบตัวของผิวหนัง

- ตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีด : ร่องแก้ม แก้มตอบ คาง

- อยู่ได้นาน : ประมาณ 18 เดือน

2. Belotero Volume

Belotero รุ่น Volume เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะสำหรับแก้ปัญหาใต้ตาลึกและใบหน้าตอบที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูก นอกจากนี้ยังนิยมนำมาใช้ปรับรูปหน้า เพื่อช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้าดูสมส่วนและอ่อนเยาว์ขึ้น

- จุดเด่น : ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่น คงตัวสูง ใช้ฉีดเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวบริเวณที่กระดูกทรุดตัว

- ตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีด : ฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก คาง โหนกแก้ม แก้มส้ม

- อยู่ได้นาน : ประมาณ 18 เดือน

3. Belotero Soft

Belotero รุ่น Soft เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก จึงเหมาะสำหรับการเก็บรายละเอียดริ้วรอยบนผิวชั้นตื้น จุดเด่นของรุ่นนี้คือความละเอียดเนียน ซึ่งทำให้สามารถแก้ไขริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้าและบริเวณใต้ตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

- จุดเด่น : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีโมเลกุลเล็ก เก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ดี

- ตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีด : ใต้ตาชั้นตื้น

- อยู่ได้นาน : ประมาณ 6-12 เดือน

4. Belotero Revive

Belotero รุ่น Revive มีจุดเด่นพิเศษที่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ คือ มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) และกลีเซอรอล (Glycerol) ซึ่งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก ตั้งแต่ชั้นผิวหนังด้านในจนถึงผิวด้านนอก ทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะล็อกความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูฉ่ำโกลว์และมีชีวิตชีวา นิยมใช้ฉีดเป็น Skin Booster สำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวดูสุขภาพดีและเนียนนุ่ม

- จุดเด่น : ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ มีส่วนประกอบของกลีเซอรอล บำรุงผิวอิ่มน้ำ ลดริ้วรอยเล็ก ๆ

- ตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีด : ปรับสภาพผิวหน้า ใต้ตา ปาก ลำคอ หลังมือ

- อยู่ได้นาน : ประมาณ 6-9 เดือน

ฟิลเลอร์ Belotero ราคาประมาณเท่าไหร่ ?

ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์คุณภาพพรีเมียมจากยุโรป แต่มีราคาที่ย่อมเยา โดยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 9,000-14,000 บาทต่อ 1 CC ทั้งนี้ ราคาจะขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือก ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ และตำแหน่งที่ฉีด รวมถึงราคาในแต่ละคลินิกอาจแตกต่างกันไปตามโปรโมชัน

แนะนำให้สอบถามราคากับทางคลินิกโดยตรง และควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อนการฉีด เพื่อรับคำแนะนำและประเมินปัญหา สภาพผิว เพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด

สรุป Belotero

ฟิลเลอร์ Belotero มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ โดยแต่ละรุ่นเหมาะกับการแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีด ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหาผิวอย่างตรงจุด และเลือกรุ่นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละคน