ภาพยนตร์ สัญชาติเกาหลี เรื่องฝ่าหมอกพิษภารกิจรักหรือ
ตอนเริ่มเรื่องของหนังนั้นได้แสดงปัญหาแรกของตัวละครยงนัม ที่เรียนจบแล้วทั้งอายุเริ่มมากแล้วแต่ก็ยังไม่มีงานทำหรือแฟนเลย คนรอบข้างคิดว่าเขาไม่เอาไหนส่วนตัวของเขาก็เสียความมั่นใจและคุณค่าของตัวเองในจุดนี้ด้วยในฉากที่มีการพูดคุยกันของยงนัมกับเพื่อนแล้วมีการส่งข้อความเตือนแผ่นดินไหวนั้นเพื่อนของเขาบอกว่า สถานการณ์ตอนนี้ของพวกเราอันตรายยิ่งกว่าแผนดินไหวสะอีก(จุดนี้จำไม่ได้แม่นมากนักขออภัยด้วย)
มันคือการแสดงของวิกฤตทั้งในสังคมปัจุบันและในช่วงอายุของคนที่ต้องเจอความคาดหวังของสังคมและครอบครัวที่ต้องมีครอบครัวและงานทำที่มั่นคง สภาพสังคมที่งานหายากขึ้นทุกวัน
ช่วงต่อมาที่ยงนัมได้พบกับอึยจู ผู้หญิงที่เขาเคยชอบทำงานอยู่เขาได้โกหกเรื่องงานของเขาออกไปเพราะเขาไม่อยากรู้สึกแย่กับตัวเองและกังวนในสายตาที่เธอจะมองเขา
เมื่อหมอกพิษเข้าปกคลุมไปทั่วเมือง
เกิดเหตุการ์ณที่ต้องมีการเสียสละเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยนั้นบรรจุคนไม่พอตัวยงนัมเองเสียสละให้ครอบครัวไปก่อนส่วนตัวอึยจูเสียสละในเหตุผลว่าให้ลูกค้าไปก่อนแต่เมื่อจำนวนคนที่น้อยอันตรายการกลับมาช่วยจึงต่ำลง หมอกพิษเริ่มขึ้นสูงขึ้นเขาและเธอจึงต้องดิ้นรนเพื่อที่จะไปให้สูงขึ้น
ช่วงนี้เป็นช่วงตื่นเต้นของหนังแต่ก็ไม่บีบคั้นผู้ชมจนเกินไปทำให้เกิดความรู้สึกมีความหวังอยู่เสมอมีทริคเกี่ยวกับวิธีเอาตัวรอดเข้ามาเรื่อยๆและใจที่ไม่ยอมแพ้ของทั้งคู่ทำให้เราสนุกและเอาใจช่วยมากกว่าความรู้สึกอึดอัด
ปัญหาที่เพิ่มขึ้นเมื่อหมอกไม่มีท่าทีจะสลายไปง่ายๆรัฐบาลจึงให้ทางแก้ปัญหาชั่วคราวให้พออยู่ได้สักพักแต่ไม่สามารถรอดได้จากความหวังที่ต้องรอคนมาช่วยพวกเขาจึงต้องพิ่งพากันเพื่อไปที่ทางรอดเองเกิดเหตุการ์ณหน้ากากที่มีอายุการใช้งานจำกัดหมดอายุเหลือเพียงแค่อันเดียวแต่กับมีสองคนที่ต้องใช้เมื่อตัวละครผ่านเหตุการ์ณนี้ไปความไว้ใจที่เริ่มสร้างขึ้นมาก็กลายเป็นเชื่อใจกันอย่างสนิทใจ
บททดสอบของพวกเขายังไม่หมดแค่นั้นเมื่อเขาไปตึกที่สูงขึ้นโอกาสรอดจึงมาถึงแล้ว แต่ว่าพวกเขาดันต้องเลือกระหว่างตัวเองรอดหรือว่าให้ผู้อื่นรอดอีกครั้งตัวละครมีความกัดดันมากขึ้นตัวเองก็อยากจะรอดแต่จะให้ทิ้งคนอีกฝั่งไว้พวกนั้นก็จะไม่มีทางรอดแน่นอนซึ่งสุดท้ายเขาก็เลือกให้คนอื่นรอดอีกครั้ง
เราคิดว่าประเด็นความหวังน่าสนใจดีส่วนตัวชอบในความเสียสละของตัวละครการเล่าเรื่องแบบไม่อึดอัดบีบคั้นซึ่งหนังเอาชีวิตรอดส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องเป็นเช่นนั้น ตัวละครทำให้รู้สึกว่าความหวังมันมีอยู่ตลอดแม้ชีวิตพวกเขาในเรื่องก็ไม่ได้ดีมากนักได้พบความลำบากจากสังคมจากสิ่งต่างๆอยู่ด้วยซ้ำสังคมมันแทบไม่เอื้อให้คนที่อยู่ต่ำลงมาเลย มีตอนฉากนึงที่ยงนัมพูดกับอึยจูว่าถ้ารอดไปได้เขาจะไปทำงานที่ตึกนั้นตึกที่สูงที่สุดที่มองเห็นในตอนนั้นถ้าทำงานที่นั้นจะต้องมีคนมาช่วยเขาเร็วแน่นอน พวกเขาต้องพยายาม พยายามอย่างหนักเพื่อความคาดหวังของสังคม แต่เขาเชื่อว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นและพวกเขาก็ช่วยกันทำให้ดีขึ้นพอดูจบแล้วรู้สึกว่าสังคมมันคาดหวังและบังคับเราอยู่ตลอดทั้งๆที่มันก็ทำให้เราสิ้นหวังนะ ทางเลือกมันอาจมีไม่มากแต่ถ้าประคองกันไปโดยไม่ทิ้งใครไว้มันก็คงจะดีมันก็คงสามารถช่วยสร้างสังคมที่ดีขึ้น
*ถ้ามีความผิดพลาดใดขออภัยด้วย นี่เป็นแค่ความเห็นที่มีต่อหนังส่วนหนึ่งเท่านั้น
*ขออภัยหากมีคำผิด ถ้ามีความคิดเห็นใดอยากให้แก้ไขหรือแนะนำสามารถบอกมาได้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in