ฉันมีพจนานุกรมเล่มไม่หนาไม่บางอยู่ในมือเล่มหนึ่ง พจนานุกรมเล่มนั้นมีชื่อว่า
"พจนานุกรมแห่งความรู้สึกรู้สา"
ในเล่มพจนานุกรมของฉันนั้นอัดแน่นไปด้วยความหมายของคำต่างๆ มันเป็นการให้ความหมายผ่าน ความรู้สึกรู้สา ของฉัน และเมื่อไม่นานมานี้ มันได้มีหน้ากระดาษหนึ่งหน้าเพิ่มขึ้นมา พร้อมกับตัวอักษรหนาสีดำเรียงกัน 5 ตัว ปรากฏอยู่
-ความฝัน-
หลากหลายความหมายถูกหยิบยกขึ้นมาต่อท้ายคำนี้ แต่มีเพียง 2 ความหมายนี้ที่ติดค้างอยู่ในใจฉัน ...
ความฝัน (น.) หมายถึง 1. สิ่งที่อยู่ลึกในความรู้สึกรู้สา เป็นสิ่งที่ฉันเฝ้าฝันว่าจะทำมันให้สำเร็จ
2. สิ่งที่อยู่ลึกในความรู้สึกรู้สา เป็นสิ่งที่ฉันเฝ้าฝันว่าจะทำมันให้สำเร็จ และไม่ ควรลืมที่จะนึกถึงคนรอบข้าง ที่ตั้งความหวังหรือเฝ้ามองในความฝันของฉัน
ตั้งความหวัง?
เฝ้ามองงั้นหรือ?
ฉันไม่สนการตั้งความหวังหรือการเฝ้ามองเหล่านั้นหรอก ฉันจึงมักเชื่อมั่นในความหมายแบบแรกที่พจนานุกรมหยิบยื่นให้ฉันเสียมากกว่า จนกระทั่งเมื่อฉันเริ่มต้นทำตามความฝัน มีหลายครั้งที่ฉันเงยหน้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นรอบกาย ความรู้สึกรู้สามันบอกฉันว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น จนท้ายที่สุด ฉันโอนเอนไปหาความหมายแบบหลังของคำว่า ความฝัน เสียมากกว่า เพราะ ฉันสัมผัสถึง...
"การตั้งความหวัง" และ "การเฝ้ามอง" ที่คนรอบข้างกระทำต่อความฝันของฉัน
หลายคนที่ชื่นชม ให้คำแนะนำ เพื่อช่วยผลักดันให้ฝันของฉันกลายเป็นความจริงขึ้นมา
หลายคนติเตียน ดูถูกว่าคนอย่าง 'ฉัน' ทำควมฝันนี้ให้เป็นจริงไม่ได้หรอก
บางคำที่คนเหล่านั้นชื่นชม มันทำให้ฉันมีแรงสู้ สู้เพื่อความฝันของฉัน แต่คำติเตียนบางคำ มันช่างแหลมคม ราวกับมีดที่ปักลงบน "ความฝัน" จนฉัน...
...หยุดชะงัก
แต่ฉันจะสู้ สู้จนทำความฝันของฉันให้สำเร็จ
เพียงแต่ฉันสับสน...
ฉันสับสนว่าแท้จริงแล้ว ความฝันของ 'ฉัน' ควรจะเป็นของ 'ฉันคนเดียว'
หรือ
ความฝันของ 'ฉัน' ควรนึกถึงและให้ความสำคัญกับ 'คนรอบข้าง' เข้ามาด้วย...
-เรื่องราวของหญิงสาวที่ฝันอยากเป็นนักเขียน-
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in