เรื่องราวของ เดสมอนด์ที. ดอสส์ (Desmond T. Doss) รับบทโดย แอนดรูว์การ์ฟิลด์ (Andrew Garfield)ชายหนุ่มชาวอเมริกันที่ได้รับใช้ชาติในสงคราม แต่ปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบและไม่แตะปืนแม้แต่กระบอกเดียวเขาจึงถูกรุมกลั่นแกล้งจากบรรดาเพื่อนทหารด้วยกันอย่างหนัก โดยหาว่าเป็นไอ้ขี้ขลาดกระทั่งวันออกศึก เขาเข้าสู่สนามรบโดยไม่พออาวุธแม้แต่อย่างเดียวช่วงเวลาที่เป็นตายเท่ากันนั้น เขากลับฝ่าดงกระสุนช่วยเพื่อนทหารจากข้าศึกปัดลูกระเบิดด้วยตัวเอง ทำแผลให้สหายร่วมรบอย่างเต็มใจ เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตรอด
จุดเด่นที่ชัดที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้คงอยู่ที่นักแสดงนำอย่างแอนดรูว์ การ์ฟิลด์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของนายทหารตัวจริงในหน้าประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าสนใจลืมมุมหล่อ ๆ และความเท่จากภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง The AmazingSpiderman ไปได้เลยเขาทิ้งชุดสแปนเด็กซ์รัดติ้วและอุปกรณ์ผลิตใยแมงมุมเพื่อรับบทใหม่กลายเป็นทหารรับใช้ชาติได้อย่างหมดจดและเขาคือเสาหลักสำคัญที่แบกทุกอารมณ์ในภาพยนตร์ทั้งเรื่องนี้ไว้ได้อย่างอยู่หมัดจึงไม่แปลกใจที่จะมีรายชื่อของเขาเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในปีนี้
ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์ดราม่าสงครามประวัติศาสตร์ฉากการสู้รบภาคสนามนั้นถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งทันทีที่หน่วยทหารเข้าสู่พื้นที่สงครามนั้น วินาทีแรกที่การโจมตีเริ่มต้นขึ้นทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบจะลืมหายใจห่ากระสุนและฝูงระเบิดโจมตีใส่กันยับ ทหารบางส่วนโดนยิงและตายในพื้นที่ทันทีบางส่วนก่อนหน้านี้กลายเป็นศพที่จัดเต็มมาให้ดูทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแขนขาด ขาขาดหรือลำตัวขาดจากกัน ให้เห็นอวัยวะภายใน สร้างบรรยากาศให้รู้สึกได้ว่ากำลังอยู่ในสนามรบจริงๆ
โดยส่วนตัวแล้วฉากที่ทำให้รู้สึกประทับใจมากที่สุดคือฉากที่ แอนดรูว์การ์ฟิลด์ พึมพัมกับตัวเองประหนึ่งสนทนากับพระเจ้า ในเวลานั้นที่เหล่าทหารคนอื่น ๆถอยทัพลงจากหน้าผากันหมดแล้ว เขาได้สร้างปาฏิหาริย์สำคัญที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีมนุษย์คนไหนในช่วงเวลานาทีเป็นนาทีตายแบบนั้นจะกล้าทำและเมล กิบสัน ได้รังสรรค์ช่วงเวลาสำคัญนี้ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นก็ใส่ทุกอารมณ์มาได้อย่างครบเครื่องทั้งดราม่า ตลก รวมถึงฉากซึ้ง ๆ ให้ดวงตาได้ชุ่มฉ่ำก็มีเช่นกัน นอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้จะถ่ายทอดเรื่องราววีรบุรุษของนายทหารแล้วยังอบอวลไปด้วยความรู้สึกของคำว่าเพื่อนในค่ายทหาร ในวันที่แต่ละคนเริ่มรู้จักกันฝึกซ้อมในค่ายฝึกเดียวกัน และออกสงครามร่วมกันความรู้สึกนี้น่าจะกินใจเหล่าชายชาติทหารที่แม้ว่าจะไม่ได้ออกรบแต่ความรู้สึกที่เคยอยู่ในค่ายทหารร่วมกัน ได้ออกพื้นที่ร่วมกันก็น่าจะหวนกลับมาให้นึกถึงเพื่อนที่ครั้งหนึ่งได้ใช้เวลาในยามยากร่วมกันได้อย่างแน่นอน
โดยสรุปแล้วภาพยนตร์ Hacksaw Ridge วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์คุ้มค่ากับการรอคอยทีเดียว แม้จะเป็นภาพยนตร์สงคราม แต่ดูง่ายเข้าใจง่ายไม่มีความซับซ้อนนอกจากจะได้พระเอกหนุ่มคนดังจาก The AmazingSpiderman แล้ว ยังได้นายทหารหนุ่มจาก Avatar อย่าง แซมวอธิงตัน (Sam Worthington) มาร่วมสมทบรวมไปถึงได้นักแสดงคนดังหลายคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา คาแรกเตอร์แต่ละตัวชัดเจนประกอบกับเนื้อเรื่องที่ครบทุกรสชาติได้หัวเราะในช่วงต้นเรื่อง อินเลิฟเบา ๆตอนกลางเรื่อง และได้น้ำตาซึมกันท้าย ๆเรื่องก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ทำให้ผู้ชมประทับใจได้ไม่ยาก
ใครว่า นายทหาร เดสมอนด์ ที. ดอสส์ไม่ได้พกอาวุธเข้าพื้นที่สงครามในยามออกรบแม้สิ่งที่เขาถืออาจจะไม่ใช่ปืนที่บรรจุกระสุนอยู่เต็มรังเพลิง ทว่าผ้าพันแผลน้ำสะอาด และมอร์ฟีนคืออาวุธชิ้นสำคัญที่พกติดตัวตลอดเวลาขณะที่ทหารทั้งหน่วยมีศัตรูคือทหารญี่ปุ่นหากแต่ศัตรูของเขาคือยมทูตที่พร้อมจะดับลมหายใจของเพื่อนร่วมรบที่บาดเจ็บได้ทุกเมื่อในยามที่ทหารทั้งหมดถอยทัพลงจากหน้าผา เขากลายเป็นที่พึ่งพาสุดท้ายของเหล่าทหารผู้บาดเจ็บที่นอนรอความช่วยเหลือและได้เขาส่งลงจากหน้าผาด้วยตัวเพียงลำพัง พร้อม ๆกับที่ต้องลุ้นทุกนาทีว่าทหารญี่ปุ่นจะเห็นหรือไม่
แม้เขาจะเรียนไม่สูงพอที่จะเป็นหมอหรือพยาบาลแต่จิตวิญญาณที่อยากจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกคนไม่เว้นแม้แต่ทหารญี่ปุ่นที่บาดเจ็บก็ทำให้เห็นถึงจิตใจที่อยากจะช่วยชีวิตผู้อื่นอันเป็นพื้นฐานสำคัญยิ่งของวิชาชีพได้อย่างชัดเจนความรุนแรงหาใช่ความแข็งแกร่งไม่แต่ความมั่นคงในจิตใจและความศรัทธาที่ยึดมั่นอย่างแรงกล้าคือความอาจหาญอันแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้ในวันที่เขาได้ทำเพื่อผู้อื่นจนสุดความสามารถ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in