เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My Travel LogDaffodil
หนึ่งวันในพระนคร: หุ่นทหารดินเผาและร้านอาหารรายทาง
  • ช่วงนี้เห็นทีจะไม่มีอะไรฮ็อตเกินนิทรรศการแสดงหุ่นทหารดินเผาจิ๋นซีฮ่องเต้ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครแล้วล่ะค่ะ

    เรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมงานเมื่อวันเสาร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากเราไปโผล่ที่ mrt สนามไชยจึงตัดสินใจเดินโต๋เต๋จากมิวเซียมสยามไปยังพิพิธภัณฑ์ฯ เดินลัดเลาะผ่านวัดโพธิ์ วัดพระแก้ว ท่ามหาราช แวะกินข้าวที่ท่าพระจันทร์แล้วก็เดินผ่าธรรมศาสตร์เพื่อไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติค่ะ

    ถามว่าทำไมต้องบรรยายการเดินทางด้วย?

    ลองนึกภาพตามนะคะ เรากับเพื่อนเดินออกมาจากธรรมศาสตร์ สิ่งแรกที่เห็นคือคนยืนอออยู่หน้าพิพิธภัณฑ์ เราก็แบบ ทำไมคนเยอะจัง? พอเดินเข้าไปใกล้เท่านั้นแหละ โอ้ว มาย บุดด้า! คนที่เราเห็นตรงนั้นคือหางแถวค่ะ! คนมาเข้าคิวรอชมเยอะมากกกกกก เยอะมากจนเราบอกกับเพื่อนว่าไม่เคยเห็นคนมาพิพิธภัณฑ์เยอะขนาดนี้มาก่อนเลย! โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร (อย่างน้อยก็ตลอดสี่ปีที่เราเรียนมธ.ค่ะ)


    ตัวอย่างบรรยากาศการเข้าคิว ขอบคุณรูปภาพจากเพื่อนแป้งมา ณ ที่นี้ด้วย

    จังหวะนั้นท้องฟ้าด้านบนเริ่มมืดครึ้มไปด้วยเมฆแล้วค่ะ แต่เรากับเพื่อนก็บ่ยั่น ค่ะ ต่อคิวมันเลย

    ระหว่างที่แถวค่อยๆ เคลื่อนที่นั่นเอง เทพเจ้าเบื้องบนก็เริ่มพรมน้ำมนต์ลงมา เปาะแปะ เปาะแปะ โชคดีที่เรามีร่มค่ะ ดังนั้นจึงไม่หวั่น ยังคงต่อคิวเรื่อยไปจนกระทั่งฝนเทลงมาห่าใหญ่

    แต่ฝนจะแรงแค่ไหนก็ยังไม่ทิ้งแถวนะคะ คือฉันจะตายก็ได้แต่ฉันต้องได้เข้าไป ฟิลลิ่งมันประมาณนี้เลยค่ะ

    สุดท้ายแล้วเราก็ได้บัตรเข้าชมสมใจอยากค่ะ

    แต่ค่ะแต่! การรอคอยของเรายังไม่จบเท่านั้นค่ะ! แม้จะได้บัตรเข้าชมแล้ว แต่เราก็ยังต้องรับบัตรคิวเข้าชมนิทรรศการค่ะ!

    เมื่อได้บัตรชมแล้วก็ยังเข้าไปไม่ได้นะคะ ต้องรอเข้าตามรอบ และเนื่องจากฝนตก เจ้าหน้าที่จึงให้ไปหลบฝนในห้องประชุมค่ะ รอนานอยู่นะคะ ประมาณครึ่งชั่วโมง แต่เรากับเพื่อนก็ไม่หวั่นค่ะ เปิดอินสตาแกรมดูคลิปแมวรอวนไป ฮ่าาาา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เรียกนั่นแหละค่ะ จึงเก็บมือถือ เตรียมตัวเข้าชมนิทรรศการ (เย้)

    นิทรรศการแห่งนี้จัดที่พระที่นั่งศิวโมกขพิมานนะคะ ด้านในจะแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกคือยุคก่อนรวมชาติ ของที่มาจัดแสดงส่วนใหญ่จะเป็นโบราณวัตถุในช่วงราชวงศ์โจวตะวันออก ยุคชุนชิวและจ้านกว๋อนั่นแหละค่ะ แต่ละชิ้นจะมีป้ายบอกว่ายืมมาจากพิพิธภัณฑ์ใด มีอายุเท่าไหร่ ใช้ประโยชน์อะไรบ้าง ประมาณนี้ค่ะ

    ส่วนที่สองจะเป็นรัชสมัยของจิ๋นซีค่ะ ส่วนนี้จะจัดแสดงโบราณวัตถุสมัยฉินทั่วๆ ไป พวกอาวุธยุทโธปกรณ์ ของใช้ในชีวิตประจำวัน

    ถัดมาก็จะเป็นไฮไลต์ของงานค่ะ ส่วนจัดแสดงโบราณวัตถุจากสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ ในบริเวณนี้จะมีรถม้าจำลอง และหุ่นทหารดินเผาของจริงจัดแสดงให้ได้ชมกัน

    ส่วนที่สี่ซึ่งเป็นส่วนสุดท้าย จัดแสดงโบราณวัตถุในยุคราชวงศ์ฮั่นค่ะ ในส่วนนี้ก็จะมีภาชนะต่างๆ และโบราณวัตถุที่พบในสุสานสมัยฮั่น




    จิ๋นซีฮ่องเต้ หรือที่ภาษาจีนกลางเรียกว่าฉินซือหวงตี้ได้ชื่อว่าเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีน การค้นพบสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ถือเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนก็ว่าได้

    การค้นพบสุสานแห่งนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญค่ะ ชาวนาคนหนึ่งในซีอานขุดพบหุ่นทหารดินเผาเมื่อปี พ.ศ. 2517 ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา อาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น คะเนกันว่าอาณาเขตของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้มีพื้นที่มากกว่า 2,180 ตร.กม.


    หุ่นทหารดินเผา

    รถม้าจำลอง

    สุสานแห่งนี้ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 38 ปี มีอาณาเขตพื้นที่ของสุสานรวมทั้งสิ้น 2,180 ตร.กม. แบ่งออกเป็นพระราชฐานชั้นในและพระราชฐานชั้นนอก ภายในสุสานใช้บรรจุพระบรมศพของจิ๋นซี ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ตลอดจนกองกำลังทหาร นางสนมกำนัล และรถม้าจำนวนมากเพื่อเป็นตัวแทนของข้าราชบริพารในการร่วมเดินทางไปรับใช้จักรพรรดิในปรโลก

    สำหรับห้องบรรจุพระบรมศพอยู่จุดกึ่งกลางของสุสาน รูปและลักษณะของสุสานภายนอกเป็นทรงพีระมิด มีความสูงประมาณ 70 กว่าเมตร ก่อสร้างบนฐานกว้างยาวประมาณ 8 เมตร ปัจจุบันยังไม่เปิดให้เข้าชมค่ะ เนื่องจากเป็นบริเวณขุดค้นของนักโบราณคดี




    ขอปิดท้ายทริปด้วยมหกรรมการถมหลุมดำในท้องนะคะ XD
    เราไปกินมื้อกลางวันที่ร้าน DDM ร้านอาหารเกาหลีและเกสต์เฮาส์ใต้สะพานปิ่นเกล้า ร้านนี้เราแวะเวียนมาตั้งแต่สมัยเรียน จึงคุ้นเคยกับเจ้าของร้านพอสมควร ในร้านจะตกแต่งแนวบาร์ฮิปๆ หน่อยค่ะ นั่งชิลๆ ได้เลย ที่สำคัญเครื่องเคียงเติมได้ไม่อั้นค่ะ ในภาพเราสั่งมาแค่บิบิมบับกับซุปซุนดูบุ


    จากนั้นก็มาต่อกันที่ร้าน Creamery ร้านคุ้กกี้ไอศกรีมที่ท่ามหาราช คุ้กกี้ลาวาร้อนๆ เสิร์ฟกับไอศกรีมเย็นๆ อร่อยอย่าบอกใครค่ะ



    ก่อนจะมาปิดท้ายกันที่ แท่นแท้นนนนน A Pink Rabbit + Bob ค่าาาาาา โดยไฮไลต์ของร้านนี้อยู่ที่บรรดาขนมหวานมากมายที่อวดโฉมยั่วน้ำลายอยู่หน้าร้าน อมก แค่เห็นก็น้ำลายสอแล้วค่ะ ขากินอย่างเราถึงจะผ่านสมรภูมิบิบิมบับและคุ้กกี้มาก็บ่ยั่นค่ะ สองคนกับเพื่อนชวนกันเข้าร้าน สั่ง Lemon Dark Choc Meringue กับชาร้อนมาทานพอหอมปากหอมคอค่ะ

    รสชาติก็ไม่ต้องพูดถึงนะคะ อร่อยมาก อร่อยจนอยากไปซ้ำ อิ๊



    นอกจากนี้ ทางร้านยังมีไฮไลต์อีกอย่าง นั่นคืออออออ


    น้องเสือ นายแบบประจำร้านค่ะ


    น้องเสือค่ะ น้องเป็นลูกผสมพันธุ์เปอร์เซียที่หล่อวมาก และใช้เวลาในการเสริมหล่อนานจนกล้องในมือทาสเริ่มหนักเป็นหิน




    ขอปิดท้ายด้วยภาพเซ็กซี่ๆ จากนายแบบกิติมศักดิ์ค่ะ แล้วพบกันโอกาสหน้าค่า


    ปล. ขอบคุณภาพจากเพื่อนแป้งด้วยนะคะ ขอบคุณที่แบกกล้องไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ><
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in