//
: มึง
: อยู่หน้าบ้านอ่ะ ออกมาเปิดประตูให้หน่อยดิ
: ถือของหนักมาก ซื้อเบียร์ซื้อขนมมาเต็มเลย
: หน้าบ้านกู?
: มาทำอะไรวะ ตีสองเนี่ยนะ
: อย่าถามมาก มาเปิดก่อน หนัก
: ไม่เปิดอ่ะ ทะเลาะกับเมียมาอีกละดิ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย
: ไปง้อเขาก่อน ไม่ก็รอสักพัก เดี๋ยวแม่งก็มาร้องห่มร้องไห้ขอคืนดีละ เล่นเกมอยู่ ลุกไปเปิดไม่ได้
: ตอแหลไม่เนียน เล่นเกมแล้วจะพิมพ์ตอบกูได้ไง
: มาเปิดก่อนเร็ว แพจินยอง
: ไม่เอา กูเบื่อจะเป็นหมาละ เดี๋ยวพวกมึงก็ดีกัน
: ยูอีรักมึงจะตาย ขู่ไปงั้นมากี่รอบแล้ว ไม่เลิกจริงหรอก
: เลิกกันแล้วมึง
: รอบนี้เลิกกันแล้วว่ะ ไปต่อไม่ได้ละมั้ง
: กูยังไม่ถึงเลยสัส
: กุญแจสำรองอยู่ในกล่องรองเท้าอันที่สองจากซ้ายสุด แถวสอง
: ไขเข้าไปก่อนเลย
Thousands Kisses, you make me feel.
( BAEJINYOUNG x LAIKUANLIN) / #บตฟfic
"มึงซักรองเท้าบ้างนะ เหม็นฉิบหาย"
"คู่นั้นไม่ได้มีไว้ใส่ มีไว้ซ่อนกุญแจ---ให้เข้าบ้านละยังจะเรื่องมากอีกเหรอ ไลควานลิน"
เจ้าของชื่อยื่นแขนออกมาจากประตูตู้เย็น ชูนิ้วกลางใส่เขาไปทีหนึ่ง "กูก็ซื้อเบียร์มาเซ่นแล้วไง"
"บ้านกูก็มีอยู่แล้วเป็นลัง นั่น" พูดพลางชี้นิ้วส่งๆไปที่กล่องลังบนเครื่องซักผ้า "ไม่ต้องมาอ้างเลยมึงอ่ะ คบกันมากี่ปีแล้วทำไมกูจะไม่รู้ว่ากูมีค่าแค่ตอนมึงเลิกกับเมียแล้วอยากเมาให้ลืมเธอ ตุ๊ดสัด"
"แล้วแต่มึงจะคิดเหอะ แต่ก็เปิดประตูให้กูตลอด กูพอใจละ"
"ไม่ให้เข้าก็มาโวยวายหน้าบ้านกูอีกไง ประสาทแดก"
"นี่กูมาให้มึงด่าเหรอจินยอง เพื่อนโดนทิ้งมานะเว้ย ไอ้ห่านี่!"
"กูก็ด่ามึงทุกครั้งเรื่องยูอีป่ะ---โอ๊ย ฟัค!"
จินยองสบถทีหนึ่งเมื่อถูกไอ้เพื่อนรักฟาดหลังหัวเข้าเต็มรัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ คนโดนทิ้ง ที่หนีบเบียร์แช่เย็นสองกระป๋องกับกล่องไก่ทอด เดินฉับๆมานั่งตรงที่ข้างเขาบนโซฟาหน้าทีวี ควานลินจะบ่นอะไรในลำคอนั่นไม่ใช่สิ่งที่ต้องใส่ใจ ตาสองข้างจ้องตรงไปที่ภาพของละครน้ำเน่าหลังข่าวในจอ---ดาราสาวที่เขาไม่รู้จักชื่อตบหน้าพระเอกชื่อดังฉาดใหญ่ ดูท่าจะเป็นซีนอารมณ์แต่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้นางเอกโกรธจนร้องไห้ขนาดนั้น เพราะเขาไม่ได้สนใจอะไรนัก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาดูละครเรื่องนี้ จินยองแค่เปิดมันทิ้งไว้แล้วเพิ่มวอลลุ่มให้ดังขึ้นกว่าที่ฟังปกติ---เสียงก่นด่ากันของพระนางเรื่องนี้น่าจะโหวกเหวกมากพอที่จะกลบเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ไม่ได้มาจากลำโพง แต่เป็นของผู้ชายที่นั่งคู้ตัวอยู่ข้างกายของเขานี่เอง เขาหวังว่าตัวเองจะไม่ได้ยิน แต่ก็ขยับตัวเข้าไปใกล้อีกนิด
"มึงเถิบไปหน่อยดิ โซฟาตั้งกว้างจะเบียดกูทำไม ละนี่จะก้มหน้าทำไม"
"..."
"นี่บ้านกูนะไลควานลิน โซฟ่าก็โซฟากู ถ้ามึงจะทำตัวเป็นใบ้แล้วไม่ตอบเจ้าบ้าน มึงก็กลับไปเลย"
"...กูไม่เขยิบ มึงแหละถอยมาเบียดกูทำไม ไอ้ขาใหญ่"
"นั่นปากเหรอ" จินยองขมวดคิ้ว "ก็กูอึดอัด ขากูใหญ่ อย่างอื่นก็ใหญ่เลยนั่งหนีบๆไม่ได้เข้าใจปะ ถอย"
"ไม่เอา อย่ายุ่งกับกู"
ปากก็บ่นอุบในขณะที่มือเอื้อมไปหยิบกระป๋องเบียร์มาเปิด "มึงนี่เอาแต่ใจชิบหาย รู้แล้วทำไมยูอีไม่รัก"
"เขาเอาแต่ใจมาก กูยังรักเขาเลยมึง...ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ"
"มึงตามใจเขามากไปป่าว โดยสปอยล์จนชินก็งี้"
: เอะอะก็มาเมาบ้านกู เผชิญหน้าปัญหาสิวะ
: อย่าเอาแต่หนี
: ก็กูอยากอยู่กับมึงอ่ะตอนกูเสียใจ
: คนอื่นแม่งไม่เข้าใจกูเท่ามึง
: ห่า ถามกูบ้างว่ากูชอบมั้ย
: ทำนู่นทำนี่อยู่ดีๆ เปิดประตูมาเจอมึงร้องไห้โฮ ทำอะไรไม่ถูกเลยสัส
: ก็เคยไปหาจีฮุนแล้วโดนด่าอ่ะ ด่าเสร็จก็ไล่กูกลับบ้านไปนอน
: แม่งไม่เข้าใจกู
: มีแต่มึงที่ตามใจกู กูอยากเมาก็ให้เมา จีฮุนกับอูจินบอกรำคาญกูเมาเป็นหมา
"ยูอีขอเลิกจริงๆแล้วมึง เขาบอกเขาเหนื่อยกับคนอย่างกู"
"คนอย่างมึงทำไม" จินยองดีดกระหม่อมอีกคนเบาๆไปสองที "ละพูดไรอู้อี้ฟังไม่รู้เรื่อง เงยหน้ามา"
เจ้าตัวส่ายหน้า ยืนยันจะตอบกลับด้วยเสียงอู้อี้ "เขาบอกสถาปนิกอย่างกูไม่มีเวลาให้เขาเลย"
"เหมือนกูโดนด่าวิชาชีพไปด้วยไงไม่รู้"
"เขาบอกว่ากูเอาแต่อยู่กับงาน งาน งาน แล้วเห็นงานสำคัญกว่าเขาตลอด เขาไม่อยากทนแล้วว่ะ"
ร่างโปร่งกลอกตา ซดน้ำในมืออึกใหญ่ไปทีหนึ่งแล้วจีงตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "อะไรวะ---กูแม่งไม่เข้าใจผู้หญิงแบบยูอีเลย ปากบอกอยากได้ลิป อยากได้รองเท้า อยากได้กระเป๋าอยากให้มึงซื้อให้ มึงก็ซื้อแล้วยังจะอะไรอีก ถ้าไม่ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาให้รูดบัตรเล่นวะ ประสาทแดก กูรับไม่ได้ถ้าจะมีแม่ของลูกแบบนี้ เวร แม่กูก็คงไม่โอเคถ้าเจอลูกสะใภ้แบบนี้อ่ะ"
"สัสจินยอง" ควานลินขำในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา---หน้าไลควานลินแบบที่จินยองไม่ชอบอีกแล้ว ตาแดง ตาบวม หน้าเปียกเป็นคราบ---แต่อย่างน้อยมันก็ยิ้ม "โมโหแทนกูแรงไปป่ะ กูฮา"
"เออ กูก็ทำงานเหมือนมึงไงเลยหัวร้อน เอ้า แดกเบียร์ซะ จะหายเย็นละเนี่ย"
"หัวมึงก็หายเย็นนะ ร้อนเชียว"
"อ่ะ กวนตีนกูได้แสดงว่าหายดีละ"
: กูเหนื่อยกับอะไรแบบนี้ว่ะ
: เออกูก็เหนื่อย
: เหนื่อยกับกูเหรอ
: เปล่า เหนื่อยกับงานนี่แหละ ไอ้สัส
: กับมึงกูไม่เหนื่อยหรอก
: กูชินละ
: ถ้ามึงตอบว่ามึงเหนื่อยกับกูนะ กูจะต่อยมึง
: ต่อยกู? มึงจะเอา?
: บอกว่าไม่เหนื่อยก็ไม่เหนื่อยดิ
: กูชินละ ตายด้าน
: จำ
"สภาพเละสัส อกหักจากหญิงแล้วร้องไห้เหมือนมึงเป็นตุ๊ดอ่ะ เล่นใหญ่นะมึงอ่ะ"
"ไม่ใช่ตุ๊ดเว้ย กูเป็นผู้ชาย ไอ้สัส" เพื่อนตัวขาวโยนกระดูกปีกไก่ลอยหวือเฉียดเขาไปนิดเดียว จินยองเบิ่งตา "แมนๆ ชอบผู้หญิง มีเมีย เข้าใจ๊?"
"เมียเก่ามึง เมียเก่าๆ"
"อย่ามาจี้จุดกูได้มั้ยเนี่ย มึงควรจะปลอบกูมั้ย"
จินยองหัวเราะหึ เบะปากใส่อีกคนไปทีสองทีแล้วหันกลับมาสนใจจอทีวีต่อ---รอบนี้เขาหยิบรีโมตมากดเปลี่ยนเป็นช่องถ่ายทอดสดกีฬา แล้วก็กดปุ่มลดเสียงลำโพงลงสองขีด "ไม่อ่ะ กูปลอบคนไม่เป็นมึงก็รู้ นู่น ให้แอลกอฮอลล์ปลอบมึงเหอะ กูขี้เกียจห้ามละ แดกๆไปให้เมาตายไปเลยสัส เดี๋ยวกูไปหยิบเพิ่มให้"
"กูดูขี้เมามาก"
"วันนี้จะไม่ด่าขี้เมาวันนึง เดี๋ยวกูเก็บศพเอง---รู้ว่าเสียใจ แต่กูไม่รู้จะปลอบยังไง ปกติมึงเมาๆเดี๋ยวก็หาย"
"ก็ไม่คิดจะพยายามหน่อยเนอะคนเรา" ควานลินคว่ำปาก "คืนนี้ได้เช็ดอ้วกสนุกแน่ แพ จิน ยอง"
จินยองไม่ได้ทำอะไรนอกจากโบกมือเป็นเชิงไล่ให้ควานลินไปจมน้ำเมาที่ประจำซึ่งก็คือที่พื้นใกล้ประตูหลังบ้าน ได้ยินเสียงเปิดปิดประตูตู้เย็นและเสียงก๊องแก๊งของกระป๋องเบียร์กระทบกัน---เขาไม่ได้หันไปดู เขาตั้งใจดูบอลลีกส์สเปนตรงหน้าพร้อมเคี้ยวไก่ทอดชิ้นแล้วชิ้นเล่าไปเรื่อยๆอย่างเพลิดเพลิน หูของเขาไม่ได้ยินอะไรอีกนอกจากเสียงพากย์บอลและเสียงเชียร์จากข้างสนาม วันนี้จินยองไม่ได้ดื่มมากไปกว่าหนึ่งกระป๋องเพราะรู้ว่าจะต้องเก็บกวาดเจ้าเพื่อนตัวดีที่อยู่ในบ้านอีกคนหนึ่งหลังจากนี้
เขาพยายามจะทำให้คืนนี้ดูเป็นคืนที่ปกติที่สุด นั่นแหละแผน
ควานลินไม่ชอบที่จะต้องดูอ่อนแอไม่ว่าจะเป็นต่อหน้าใครก็ตาม เขาก็จะทำเป็นไม่เห็นถ้ามันไม่ชอบ
"แพ จิน ยองงงงงง~"
"ทำไมวันนี้มึงเมาเร็วจังวะ ไม่ได้กินกับแกล้มเหรอ?"
"จินนนน ยองงงงงง"
"กลับไปแดกต่อไป๊" จินยองชูนิ้วกลางหันหลังเพราะได้ยินเสียงเดินตุปัดตุเป๋อยู่ด้านหลัง "อย่ากวนเวลาดูบอลกูได้มั้ยเนี่ย รำคาญโว้ย จะเมาก็เอาให้สลบไปเลยสิวะ"
"ม่ายอาว ไม่กินแล้ว ปวดดดด ท้องงงงงงง จินยองงงงงงงง"
"สัส มึงจะอ้วกเหรอ! เหี้ยจริงๆ มึงมานี่เลย ห้ามอ้วกบนโซฟา!"
"ม่ายด้าย จาอ้วก"
"นี่แหละรหัสแดง เพราะมึงอ้วกตลอด! มานี่!"
"ม่ายปาย"
"ไลควานลิน หนักนะเว้ย!"
เขาใช้แขนพยุงควานลินให้ทรงตัวได้เพื่อที่จะพาอีกคนไปอ้วกในชักโครก แต่ดูเหมือนจินยองจะไม่ได้รับความร่วมมือนัก เพราะร่างโปร่งเอาแต่ทำขาแข็งไม่ยอมเดินตามมา แล้วยังจะทิ้งน้ำหนักมาที่เขาทั้งตัวจนแทบเดินไม่ได้ "อย่าทิ้งน้ำหนัก กูหนัก!"
"งือ เดินไม่หวายอ่าจินยอง ขาเปนเหน็บอ่า"
"อะไรวะเนี่ย..."
"ฮือ ปวดฉี่ด้วยอ่าจินยอง"
"นี่กูเป็นแม่มึงเหรอครับ ไม่ทราบว่า?" จินยองต่อยไหล่มันไปทีหนึ่ง "จะเอายังไง"
"อุ้มไปฉี่หน่อย น้า"
เจ้าเพื่อนตัวดีทำเสียงอ้อนไม่ว่าเปล่ายังจะเอาหัวมาถูไหล่อีกด้วยความไม่มีสติ แต่จินยองก็เชื่อว่ามันคงปวดปัสสาวะจริงๆ---ก็เล่นดื่มไปไม่รู้กี่กระป๋อง นอกจากอ้วกแล้วก็คงมีเรื่องนี้ที่ทำให้คนรักสะอาดอย่างเขารับไม่ได้จนถึงขีดสุด ร่างโปร่งเลยทำได้แค่หายใจเข้าแล้วหายใจออกแรงๆด้วยความเหนื่อยใจ แต่ก็ตัดสินใจย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้ควานลินกวาดขาขัดไว้ที่หลังได้ "ท่านี้นะ จับกูดีๆเดี๋ยวร่วง"
"จินยอง น่าร้าก"
"หุบปากเลย ไอ้ตัวดี"
ควานลินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเองแล้วกระชับแขนที่อยู่หลังคอของอีกคนเล็กน้อย "น่าร้าก น่าร้ากเหมือนพ่อกูเลย เมื่อก่อนเขาก็อุ้มกูแบบนี้เวลากูขี้เกียจเดิน น่าร้าก"
"พ่อมึงตามใจขนาดนี้นี่เองเลยโตมาเอาแต่ใจ"
"ม่าย พ่อกูน่าร้าก" พูดลากเสียงยานคาง หยุดเล็กน้อย แล้วจึงพูดต่อ "มึงก็น่าร้ากกกกก"
"เหอะ---น่ารักก็รักกูสักทีสิ บอกรักกูแค่ตอนเมาแบบนี้แหละมึงอ่ะ น่ารำคาญ"
: มึงอยู่ไหนวะ ทำไมถึงยังไม่กลับ
: เลิกงานดึกเบอร์นี้เลย? หรือโอที?
: เปล่า
: เลิกสักพักละ กูแวะกินข้าวอยู่
: อ้าว
: ไม่กลับมากินกับกูเหรอ เสียใจว่ะ
: ไม่น่ารักเลอ
: น่ารักพ่อง
: ก็แวะซื้อให้มึงด้วยไง บ้านมีแต่มาม่า
: ไม่แดก?
: สุดยอด มึงแม่ง เพื่อนรักกูจริงๆ
"อ้วกมีแต่น้ำ---แดกไม่เก่งแต่อ้วกเก่งแบบมึง ได้ผอมตายสักวัน"
"กูม่ายหิว กูเลยม่ายกิน...แหวะ..."
"ยูอีไม่บอกเหรอไงว่ามึงผอมจะตายห่าละ" จินยองเบือนหน้าหนี ส่วนมือก็ลูบหลังไปพลาง "เกิดเป็นคนโครงใหญ่ก็จริง แต่ผอมทีกระดูกขึ้นเป็นข้อเลย ละดูไหปลาร้า ซักผ้าได้ละมั้ย"
ควานลินหันมาเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ทำหน้าพะอืดพะอมแล้วหันไปอ้วกพุ่งลงคอห่านอีกรอบ
"เอ้าๆ อย่าเพิ่งหันมาจนกว่าจะอ้วกหมด กูบอกแล้วไง"
"อึก...หมดแล้ว" ร่างสูงผอมหอบหายใจแฮ่ก คว้าแก้วน้ำที่พื้นไปซดอึกใหญ่ "ฮือ ปวดท้อง"
"ก็ไม่กินข้าวแล้วกินเบียร์เบอร์นี้ ขอให้หมอฉีดยามึง"
"ไม่อาวเด้"
"กูไปละ บอลกูผลออกละมั้ง---"
มือขาวคว้าหมับ ดึงคนข้างๆที่กำลังจะลุกลงกับพื้น "นั่งเปนเพื่อนกูก่อน กูเหนื่อย ลุกม่ายไหว"
ชายหนุ่มมองบนเป็นครั้งที่ร้อย แต่ก็ยอมลงนั่งขัดสมาธิที่พื้นห้องน้ำเป็นเพื่อนควานลินตามคำขอ---นึกโทษตัวเองที่ลืมหยิบโทรศัพท์เข้ามาเล่นคลายความอึดอัดในสถานการณ์นี้ ถึงจะไม่มีอะไรมากไปกว่าไลควานลินที่นอนปิดตาหายใจสม่ำเสมอ โดยศีรษะเอนพิงไหล่กว้างของอีกคนอยู่ก็ตาม---เจ้าคนที่เมาจนหลับนั่นน่ะไม่เป็นอะไรหรอก อย่างมากก็ปวดหัวเพราะแฮงก์ มีแต่เขานี่แหละที่ต้องมานั่งจัดการความรู้สึกของตัวเองเป็นครั้งที่ล้านตลอดหลายปีที่คบควานลินเป็นเพื่อนมา ความรู้สึกที่ยากจะเก็บเอาไว้
เวลาไลควานลินนอนหลับจะหน้าเด็กลง เพราะเป็นหน้าของมันที่เขาจำได้แม่นของเพื่อนรักสมัยเรียน มันมักจะนอนตลอดในห้องเลคเชอร์รวม แต่ถึงอย่างนั้นถ้าเป็นวิชาปฏิบัติ ไลควานลินจะเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดและเร็วที่สุดในรุ่น---นั่นเป็นเรื่องดี ในขณะที่จินยองช่วยควานลินจดสิ่งที่จำเป็นเวลามันหลับในห้อง ควานลินก็จะช่วยทำโมเดลให้เสร็จหลังจากที่ทำของตัวเองเรียบร้อย จึงเรียกได้ว่าเป็นคู่หูที่ช่วยกันเรียนอย่างแท้จริง พอทำงานแล้วได้นอนน้อย เจ้าแพนด้านั่นเกลียดการนอนน้อยที่สุด แต่เพราะหน้าที่การงานมันเลยเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องแหกตาทำงานอดหลับอดนอนเพื่อให้งานสำเร็จ หน้าตาของควานลินจึงซูบกว่าแต่ก่อนมาก คิ้วสองข้างก็ชอบขมวดเข้าหากันโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ด้วยความเครียดสะสมจนกลายเป็นนิสัย แต่นอกนั้นก็เหมือนเดิม เพื่อนของเขาไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอก แค่จินยองชอบควานลินตอนนอนเป็นพิเศษ---เขาจะได้ไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะส่งสายตาแบบไหนออกไป หรือเผลอพูดอะไรออกไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และขอบคุณที่ควานลินเป็นคนหลับลึกมากถึงมากที่สุด มันดีมากเวลาเขาทำพลาด
เช่นครั้งหนึ่งที่ควานลินทะเลาะกับยูอี คืนที่เขาบรรยายกรอกหูให้ควานลินฟังจนเช้าตรู่ว่าแพจินยองคนนี้ชอบไลควานลินมากแค่ไหน---ชอบดวงตาที่เหมือนคนง่วงตลอดเวลานั่น ชอบจมูกโด่งเข้ารูปที่มองไล่ลงมาเห็นริมฝีปากก่ำแดงต่างจากเขาที่คล้ำเพราะบุหรี่ ชอบเวลายิ้มที่ตาสองข้างโค้งขึ้นเป็นจันทร์เสี้ยว ชอบเวลาเจ้าตัวหัวเราะที่ชาตินี้ก็คงไม่รู้ว่านั่นมันน่ารักขนาดไหน ชอบความเอาแต่ใจที่ทำให้เขาได้ทำตัวตามใจได้โดยที่ไม่มีพิรุธ ชอบที่ไลควานลินเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขด้วยที่สุดเวลาอยู่ด้วยกัน
แต่เขาจะชอบมากกว่าถ้าจะมีไลควานลินอยู่ข้างกายตลอดชีวิต
ไม่ต้องรู้อะไรหรอก มันคงไม่ชอบหรอกถ้ารู้ว่าแพจินยองคิดแบบนี้กับเพื่อนซี้ได้ลง---แค่นั้นแหละ
: คืนนี้กูอาจจะนอนบ้านมึงเลยนะ
: เคป่ะ
: เอาดิ
: นอนห้องนอนแขกไป ว่าง
: เอ้า ไหนปกติให้นอนห้องมึงเพราะขี้เกียจซักผ้าปูสองอัน
: วันนี้กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึงแล้วไง
: เหนื่อย อยากนอน
แพจินยองไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั่งมองหน้าควานลินมานานแค่ไหน ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอเอามือขึ้นมาลูบแก้มใสวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นด้วยแววตาโหยหาขนาดไหน แล้วก็ไม่รู้ตัวด้วย ว่าจู่ๆไลควานลินจะเปิดตาขึ้นมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว---เพ่ื่อนของเขามองเขาอยู่แบบนั้น ส่วนเขาก็ชักมือออกแทบไม่ทัน
"ทำรายอ่า"
"จับแก้มมึง กำลังจะหยิกให้เขียวจะได้ตื่น กูปวดไหล่"
"อ้าว ตะกี้รู้สึกเหมือนมีคนลูบแก้ม"
"คิดไปเอง" เขาขำเล็กน้อย "แล้วนี่หายเมาแล้วเหรอ หายแล้วก็ลุก"
"บ้า ครายมาว"
"มึงนั่นแหละเมา หนึ่งบวกหนึ่งเป็นเท่าไหร่?"
"ส...ส...สิบเอ็ดดดดดดดดด"
"นอนต่อมั้ยมึงอ่ะ"
จินยองหันหน้าหนี แล้วพิงศีรษะตัวเองไว้กับผนังด้านหลัง เขาอยากจะชวนคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบเกินไป แต่ไลควานลินที่จู่ๆก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมาก็ดูน่าสงสารเสียจนปล่อยไว้เฉยๆไม่ได้
"คิดอะไรอยู่"
"ปวดหัว"
"ปวดหัวมันคือความรู้สึกมึง ไม่ใช่ความคิด"
"แล้วจะให้กูคิดอะไรล่ะ แม่งไม่มีอย่างอื่นให้คิดละง่า" ควานลินตอบเสียงยาน "แล้วมึงอ่ะ เมื่อกี้คิดอาราย"
"คิดว่าอยากลองจูบมึงดูมั้ง"
"ทำมายอ่ะ"
"ไม่รู้ดิ ก็แค่อยาก พูดไปมึงก็ไม่เข้าใจหรอกไอ้ขี้เมา"
"ไม่มาวว้อย มึงมานี่เลยยยย"
"มึง! "
ไลควานลินที่เมาคือไลควานลินที่เรื้อน ชายหนุ่มรีบยันแขนเพื่อลุกหนีอีกคนที่พยายามจะทำตัวหนวดปลาหมึกเหมือนที่ผ่านมาซึ่งแน่นอนว่าจินยองไม่ได้ชอบเลยที่ควานลินจะมาสกินชิพใส่---อันที่จริงก็คงอยาก แต่ไม่ใช่ตอนที่เมาไม่มีสติและไม่รู้ตัวแบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันเจ้าคนเมาก็โถมน้ำหนักใส่เต็มแรงพร้อมทั้งเอาแขนสองข้างกอดไว้เสียแน่นจนดิ้นไปไหนไม่รอด จินยองนึกเกลียดตัวเองที่ห้ามใจไม่ไหวเลยอยากจะหนีออกไปจากตรงนี้เพราะว่าหน้าไลควานลินใกล้ๆทำให้เขาใจสั่นได้ตลอด แต่อีกใจก็อยากจะทำสิ่งที่อยากทำให้จบๆไปเพราะยังไงหมอนี่ตื่นมาก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอยู่แล้ว เขาหายใจแรง---ใบหน้านั่นห่างกันไม่ถึงเซนเดียว ดวงตาแดงก่ำนั่นดูน่าแกล้งเป็นบ้า แต่เพราะไม่รู้ว่านั่นเป็นเพราะว่ามันเมาหรือเพราะว่าผ่านการร้องไห้อย่างหนัก ความรู้สึกของเขาเลยอยู่ตรงกลางระหว่างห้ามใจกับลงมือทำ "ควานลิน ออกไป"
"ม่ายออก" ดวงตาคู่นั้นโค้งขึ้นเพราะว่ารอยยิ้ม แก้มนั่นก็ด้วย "จาจุ๊บๆไม่ใช่อ่อ เอาเลยยยยย"
"มึงเมาใหญ่แล้ว กูบอกว่ากูล้อเล่น---มึงมียูอีอยู่แล้วนะเว้ย กูไม่ทำแบบนั้นหรอก"
"ยูอีอ่านะ ไม่เอาแล้ว"
จินยองฝืนยิ้ม "เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกมึงก็ดีกันแล้ว"
"ไม่เอาแล้ว เหี้ย---ผู้หญิงแม่งเหี้ย"
"พูดจาระวังหน่อย แม่มึงก็เป็นผู้หญิงป่ะ"
"ฮือ ไม่เอาแล้ว กูเสียใจ เขาทำกูเสียใจ ผู้หญิงแม่งเหี้ยยยยยยยย"
เขากลอกตาครั้งที่ร้อย "เออ เหี้ยก็เหี้ย ดูหนังมากไปป่ะมึงอ่ะ"
"กูน้า" ควานลินสูดน้ำมูก "จาไม่คบใครอีกแล้วชีวิตนี้ เพราะผู้หญิง เหี้ยยย"
"งั้นมึงก็ลองคบผู้ชายดิ" จินยองยักไหล่ พูดขำๆแบบไม่ได้ใส่ใจอะไร
"..."
"ควานลิน?"
"ถ้ากูคบผู้ชาย...กูจะไม่ต้องเสียใจแบบคบกับยูอีใช่ป่ะ"
"นี่มึงจริงจังเหรอ เมาใหญ่ละนะ"
"กูไม่อยากเสียใจอีก"
"เฮ้อ นี่นะมึง" เขาถอนหายใจ แล้วหายใจเข้าอีกครั้ง "ไม่ใช่ว่าผู้ชายจะไม่มีคนเหี้ยป่ะวะ มึงยังเหี้ยเลย เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่คนไม่ได้อยู่ที่เพศ...เอาเข้าจริงเพศก็ไม่ได้กำหนดอะไรมากขนาดนั้นหรอกในโลก"
"..."
"ไปนอนเถอะมึง เดี๋ยวกูพาไป เลิกฟุ้งซ้านโอเค้? พรุ่งนี้เช้ามึงก็จะตื่นมาเจอข้อความง้อจากยู---"
"ถ้าเป็นมึง มึงจะทำให้กูเสียใจมั้ยจินยอง?"
มือที่กำลังจะหิ้วปีกชะงักงัน จินยองขมวดคิ้วกับคำพูดของควานลินก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพบว่าคนตรงหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่น้ำตาเอ่อคลอและคาดหวังคำตอบ---เขาส่ายหน้า แล้วยิ้มให้
"ถ้าเป็นกูนะ---กูไม่ทำให้มึงเสียใจหรอก"
"ถ้าง้าน---"
"กูก็ไม่เคยทำให้มึงเสียใจสักอย่าง แต่ก็ไม่เคยเป็นคนที่มึงชอบเลยไง นั่นล่ะที่สำคัญ" ร่างโปร่งพูดต่อระหว่างที่พยุงคนเมาขึ้นจากพื้น เหล่มองไปพบว่าเจ้าตัวตาปรือเหมือนกำลังจะหลับอีกรอบแล้วถึงจะยิ้มออก---จินยองตัดสินใจพูดต่อให้จบ "ชีวิตมึงไม่ได้ต้องการคนที่ใจดีกับมึงหรอก คนๆนั้นอาจจะใจร้ายก็ได้ แต่มึงก็จะมีความสุขกับความใจดีเล็กๆในความใจร้ายนั้นแหละ---คนที่รักเรามันไม่ได้สำคัญเท่าคนที่เรารักหรอกมึง เหมือนมันจะมีค่าเท่ากัน แต่ให้ตายยังไงมันก็ไม่เท่าหรอก กูรู้"
"มึง อึก" ควานลินพูดตอบแบบขาดห้วงเพราะกำลังจะผล็อยหลับไปอีกรอบ "จาเล่นมุก กูรู้กูเรียนมา ช้ะ"
"เปล่า กูรู้ เพราะมึงทำให้กูรู้ไงเพื่อน"
"ยังงายวะ"
"ช่างมัน---แล้วก็อย่าไปเที่ยวท้าใครจุ๊บๆแบบเมื่อกี้อีกนะ เขาไม่ได้เป็นแบบกูกันทุกคน เข้าใจมั้ย---"
ริมฝีปากของควานลินประทับลงบนริมฝีปากของเขาเบาๆแล้วถอนออกกอย่างรวดเร็วในเสี้ยววินาที---แต่เสี้ยววินาทีที่ยาวนานเหลือเกินในความคิดของจินยอง---รู้ตัวอีกทีก็มีควานลินยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้า
"จุ๊บๆน้าจินยอง อันเน้ จุ๊บๆปลอบใจจากกูเอง...อย่าทำหน้าเศร้าเลยน้า"
"ควานลิน"
"ยูอีชอบห้ายกูจุ๊บๆง้อเวลาเขาโกรธหรือเสียใจ กูไม่อยากให้มึงเสียใจ น้า"
"มึงรู้เหรอกูเสียใจเรื่องอะไร?"
"ม่าย"
จินยองแค่นหัวเราะ "เสียใจเรื่องที่เลิกชอบมึงไม่ได้สักทีนี่แหละ บอกว่าอย่าจุ๊บใครซี้ซั้วไง"
"ไม่เป็นราย มึงเพื่อนกู กูจุ๊บด้าย"
"ชาตินี้ไม่ต้องจุ๊บกูเลยยังจะดีกว่า มึงแม่ง"
บทสนทนาจบลงเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นจินยองก็ลากเพื่อนที่เมาหลับเข้าไปนอนต่อให้ห้องนอนแขก ส่วนในเช้าวันรุ่งขึ้น ควานลินออกไปก่อนที่เขาจะตื่นเลยไม่ทันได้คุยกันว่าโอเคแล้วหรือยัง แต่ดูจากข้อความที่อีกฝ่ายตอบกลับมาก็ไม่มีอะไรต้องห่วง---ไลควานลินไม่ได้ติดใจอะไร เพื่อนของเขาก็คงจะจำอะไรไม่ได้เหมือนเคย แล้วก็กลับไปเป็นคนรักที่ดีของแฟนสาวเหมือนเคย---ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี
Thousands Kisses, you make me feel.
yesterday
: กูถึงบ้านละ
: ถอยรถแปบ
: โอเคมึง แดกเบียร์กัน
: เออ ก็รู้อยู่ละแหละ
: เต็มที่เลยเพื่อน
: อย่าตัดพ้อสิเพื่อน
: กูพร้อมเป็นหมาละ เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงก็ดีกัน
: บ้า ไม่แล้วปะ
: เขาบอกเลิกกูละไง
: มึงเชื่อกู เดี๋ยวกูแม่งหมาแน่นอน
: แต่แม่งก็เป็นงี้ตลอดแหละ กูชินละเพื่อน
today
: มึง ตื่นยังอ่ะ
: กูออกมาก่อนมึงตื่นอ่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอก
: ตื่นละ
: เค
: กลับดีๆมึง
: แต่กูออกไปซื้อโจ๊กมาแล้วนะ อยู่ในไมโครเวฟ อุ่นแดกได้เลย
: แต้งกิ้วๆ
: ตื่นเช้าจังวะ
: เมื่อคืนกูรู้สึกนอนเต็มอิ่มสัสๆ ขอบคุณเหล้าเบียร์
: ออกเช้าก็เท่านั้น รถติดชิบหาย
: เออเค ละนี่ไปไหนวะ
: ไปหายูอี
: เขามาง้อกูที่บ้านเมื่อวาน
: อ่ะกูหมาอีกละ
: หมาเหี้ยไร คิดมาก
: ตามใจมึงเหอะ
: มีไรก็มาหากูละกัน กุญแจสำรองกูก็อยู่ที่เดิม
: ถ้าจะมาหาอ่ะนะ
: ขอบคุณนะมึงที่เข้าใจ
: รักมึงนะ
: ยี๋ เออ ไม่เป็นไรมึง
: เพื่อนกัน
ในหลายพันจูบที่ผมเคยได้รับ, มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้รู้สึก
END.
: อากาศหายหนาวแล้ว เศร้ากว่าฟิคอีก
: คอมเม้นได้ในแฮชแท็ก #บตฟfic นะคะ
: เจอกันเรื่องหน้าเมื่อชาติต้องการ!
: YES GOOD NO BAD.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in