เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
DELTA09 | NINMOthisisnotjune
SF | DELTA09
  •  

    Part 01

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

    JENO x JAEMIN



     

     

    มันน่าหงุดหงิดเป็นบ้าที่ต้องมาผูกติดอยู่กับคนที่เขาเกลียดขี้หน้าที่สุดอย่างลีเจโน่.. 

    “ คิดว่าฉันอยากโดนผูกติดกับนายแบบนี้นักหรือไง? ”

      

    และ มันน่าหงุดหงิดยิ่งกว่าที่คนที่เขาแสนจะเกลียดขี้หน้าคนนี้

    ดันเป็นคนๆเดียวกับคนที่รู้ดียิ่งกว่าใครว่าคนอย่างผมกำลังคิดอะไร

     

    “ หุบปาก 

    “ นายก็หยุดคิดว่านายเป็นคนเดียวที่ไม่พอใจในสถานการณ์ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้สักทีสิ”

     “ มองหน้านายแล้วมันอึดอัด 

    นั่นแหละ.. หมอนั่นเองก็คงไม่ได้ดีใจหรอกที่เราถูกผูกติดกันอยู่แบบนี้

     

     

    จะว่าไปแล้ว เรื่องบ้าๆนี่มันเกิดขึ้นได้ยังไงกันนะ..

     

     

     

    _ _ _

     

     

     

    15 Hours ago

      

     

    เพล้ง!!

     

     

                           “ Get down!! หุบปากซะ! ”  เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นจากประตูหน้าร้านขายเครื่องประดับเล็กๆตรงมุมถนนใจกลางเมือง  บานกระจกแตกกระจาย สัญญานเตือนภัยดังก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ความเงียบหลังจากเสียงปืนที่ดังขึ้นหนึ่งนัด


     

    “ ถ้าฉันเห็นใครขยับแม้แต่คนเดียว พวกแกทุกคนได้ขึ้นสวรรค์ก่อนเวลาอันควรแน่! ”  เสียงห้าวๆประกาศกร้าวพร้อมตวัดปลายกระบอกปืนสีดำมะเมื่อมไปทั่วร้าน ใบหน้านั้นถูกบดบังด้วยหมวกไหมพรมสีคราม ร่างผอมในส่วนสูงที่ไม่จัดว่าสูงมาก สวมรองเท้าคอนเวิร์สสภาพเก่าโทรม กับเสื้อสเว็ตเตอร์สีน้ำเงินเข้มกับกางเกงยีนส์เก่าๆปอนๆที่ จากเสื้อผ้าสภาพเยินที่เขาสวมใส่ทำให้สาระรูปโดยรวมก็ไม่ต่างอะไรจากโจรกระจอกธรรมดาๆคนหนึ่ง


     

    “ มองอะไรไอ้แก่หรือแกอยากจะขึ้นไปหาพระเจ้าเป็นคนแรก? ” โจรกระจอกในหมวกไหมพรมจ้องเขม็งไปยังชายแก่หัวล้านที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงมุมเคาท์เตอร์ ตะโกนข่มขู่สำทับก่อนจะสาวเท้าเดินไปยังทิศทางของตู้กระจกพร้อมกับวางนิ้วที่ไกปืนเป็นการขู่

     

    “ ก้มหัวลงให้หมดถ้าฉันเห็นใครเงยหน้าขึ้นมา ฉันไม่เอาไว้แน่

    ตะโกนเสียงดังอีกครั้งเพื่อควบคุมสถานการณ์ขณะใช้ด้ามปืนทุบแรงๆลงไปบนเคาท์เตอร์กระจก แล้วกวาดเอาสร้อยคอประดับอัญมณีที่อยู่ภายในออกมาใส่ถุงที่ตนถือรออยู่

     



     

    ทว่าลงมือกวาดเอาเครื่องเพชรไปได้ไม่เท่าไหร่เสียงหวีดแหลมแสบหูก็ดังขึ้นเสียก่อน..

     



     Shit! ” เขาสถบออกมาพร้อมๆกับที่เสียงไซเรนรถตำรวจจะดังขึ้นจากด้านนอกของร้าน คิ้วขมวดมุ่นฉายชัดถึงความหงุดหงิด เหลือบมองนาฬิกาแล้วก็ยิ่งหงุดหงิดเป็นเท่าตัว นี่มันเร็วกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้เกือบห้านาที นั่นเท่ากับว่าทางหนีทีไล่ที่เขาเตรียมเอาไว้ได้หายวับไปในอากาศทั้งหมดแล้ว


     

    “ เอาไงเอากันวะ! ” ไม่แม้แต่จะสนใจด้วยซ้ำว่าเสียงจากโทรโข่งที่ตะโกนเข้ามานั้นพูดว่าอย่างไรบ้าง หัวขโมยหนุ่มกระชากเอาหญิงวัยกลางคนที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดขึ้นมายืนข้างหน้าตน กดปลายกระบอกปืนคู่เข้าที่กระหม่อมของตัวประกัน พลางออกแรงดันให้หญิงโชคร้ายคนนั้นเดินไปด้านหน้า


     

    “ ถอยไปให้หมดไม่งั้นยัยป้านี่ตาย! ” ก้าวเท้าออกจากบานประตูได้ไม่เท่าไหร่ก็พบเข้ากับตำรวจและรถตำรวจที่กระจายกำลังล้อมหน้าร้านเอาไว้ หรี่ตาลงเพื่อรับแสง จดจ้องไปยังกลุ่มผู้คนในเครื่องแบบตรงหน้า กระชับอาวุธสีดำมะเมื่อมในมือแน่น  ก่อนจะอ้าปากตะโกนเพื่อเรียกร้องโอกาศเอาตัวรอดโอกาสสุดท้าย





     

     

    “ ทิ้งอาวุธซะเดี๋ย.. 

     

    แล้วทุกอย่างก็ดับลงโดยไม่ทันที่เขาจะตั้งตัว..

    สิ่งสุดท้ายที่จำได้.. คงจะเป็นสัมผัสหนักๆที่ท้ายทอยล่ะมั้ง

     

     

    อา..

     




     

    ให้ตายเถอะ

    ใครมันทุบหัวผมกันวะ?

     

     





    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .



     

    พอลืมตาขึ้นมาอีกที.. ก็นั่นล่ะ

    โดนล็อคกุญแจมือติดกับไอ้บ้าตรงหน้านี้ซะแล้ว

     




    “ มองอะไร? ” คนถูกจ้องถามห้วนๆ  ผมเผ้ายุ่งเหยิงหน้าตาไม่สบอารมณ์นักขอโทษทีนะ คิดว่าตัวเองไม่พอใจแค่ฝ่ายเดียวหรือไง ผมเองก็เซ็งเหมือนกันนะที่ต้องมาตัวติดกับหมอนั่น มองไปรอบๆในพื้นที่แคบๆ แล้วก็พบว่าเรานั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถตำรวจ ตะแกรงลูกกรงกั้นส่วนของเราเอาไว้จากตำแหน่งคนขับ และแน่นอนประตูที่ไม่สามารถเปิดออกจากภายในได้ ไม่มีทางที่จะไปไหนได้…..  คิดแล้วก็เซ็งเป็นบ้า 

     


    “ ห่วยบรม ” บ่นพึมพำกับเพลงภาษาแปลกๆที่เปิดอยู่ในรถ ถึงผมจะมองไม่เห็นหน้าคนขับแต่บอกได้เลยว่ารสนิยมของเขาห่วยชะมัด


     

    “ คิดแบบนั้นเหมือนกัน ” อยู่ดี ๆ ก็มีคนเข้าร่วมวงสนทนา พอหันไปมองใบหน้าง่วง ๆ ของคนที่เสนอหน้าพูดขึ้นมาหน้าตาเฉยแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด

     


    “ ไม่ได้ถาม ” เชื่อเถอะ ถึงจะเหงาปากมากแค่ไหน ผมก็ไม่ได้มีความคิดอยากจะคุยกับหมอนี้เลยสักนิด ให้หันไปมองวิวนอกหน้าต่างของแวนคูเวอร์ในช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน ยังจะดีกว่าต้องทนมองหน้ากัน 





     

    อะไรบนโลกนี้มันดลใจให้ผมต้องมาโดนจับพร้อมแฟนเก่าของตัวเองด้วยวะ….  ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

     

    .

    .

    .








     

     

     ห่วยชะมัด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    _ _

     

     

     

     

     

    TBC.

    THISISNOTJUNE.

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
ddddd/ (@sgusx)
เป็นแฟนเก่ากันด้วยนะ แล้วอีกคนโดนคดีอะไรเนี่ย