อิมยองมินรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
มันเริ่มตั้งแต่จังหวะหัวใจที่เต้นระรัวเหมือนกลองรบ ลมหายใจที่รดรินกระชั้นชิด
ร่างบางใต้เขากำลังบิดตัว ครางหวิวใกล้ขาดใจ
ไม่เคยรู้เลยว่าการ "รัก" ใครสักคนอย่างลึกซึ้งเป็นครั้งแรกจะทำให้เขามีอาการสาหัสแบบนี้
ทุกอย่างมันเริ่มมาจากฝ่ามือเล็กๆ ของอีกฝ่ายที่มักจะกรีดพลิ้วไปตามสายกีตาร์นั้นเปลี่ยนมาไล้แผ่วๆบนแผ่นอกหนาแน่นของเจ้าตัว หลังจากนั้นสติสัมปชัญญะทั้งหมดของอิมยองมินก็ถูกคลื่นแห่งความปรารถนาซัดสาดจนทุกอย่างดำมืด ก่อนที่ปลายทางนั้นจะสว่างจนตาพร่าเมื่อตัวตนของเขาสอดแทรกเข้าไปในร่างเล็กๆนั้นจนเต็ม
เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่เคยมีประกายสีแดงพาดผ่านซุกซบอยู่กับหลังคออุ่นๆ กลิ่นหอมหวานของแป้งเด็กที่ไม่เคยคิดว่าจะรสชาติดีขนาดนี้เมื่อยามริมฝีปากและปลายลิ้นอุ่นร้อนลากผ่าน ยั่วเย้า ก่อนจะบดจูบหนักๆ จนเนื้อส่วนนั้นขึ้นเป็นรอยผีเสื้อจางๆ
รอยรักที่เขาประทับตราเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว..
ยอมรับก็ได้ว่าเขาทั้ง "ชิม" อย่างอ่อนโยน และ "กลืนกิน" อย่างตะกละตะกลาม
ทุกตารางนิ้ว ทุกส่วนสัดของเด็กน้อยตรงหน้า ไม่มีตรงไหนที่ส่วนปลายแข็งขืนของเขาไม่ลากผ่าน
เจ้าเด็กคนนี้เข้ากับเขาได้ดีกว่าที่เจ้าตัวคิดเอาไว้
ไม่ใช่แค่การเป็น "คู่กัด" ที่ทั้งคู่มักจะเถียงกันเหมือนลิ้นกับฟัน
แต่ในยามที่ผลัดกันนอนใต้ร่างของกันและกัน ลิ้นกับฟันที่เอาไว้เถียงกันตลอดเวลาก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีจนอิมยองมินแทบคลั่ง
เขายังจำได้ดีถึงวินาทีที่เจอร่างบาง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนๆ ที่สะท้อนภาพของเขาในสายตาของอีกฝ่าย..
ตอนนั้นอิมยองมินยังเป็นแค่เด็กฝึกงานที่หารายได้ตามผับ ใช่ สถานที่ทำงานที่จะมีชีวิตเฉพาะยามค่ำคืน พอรุ่งเช้าทุกอย่างก็จะเงียบงันเหมือนดั่งเวลาต้องมนต์ที่ได้ผ่านพ้นไป..
ในเวลาที่นาฬิกาหมุนไปถึงเลข 12 สถานบันเทิงที่อบอวลไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอลล์ ควันสีเทาจางๆ ของนิโคติน และชายหญิงมากหน้าหลายตาที่จับคู่กันมา แม้จะมีเสียงดนตรีของนักร้องรับจ้างที่ผลัดเปลี่ยนกันมาขับขานทำนองเพลง แต่สิ่งที่ทุกคนก็รู้กันแก่ใจ "สวรรค์อาจจะอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม"
อิมยองมินต้องคอยเก็บกวาดซองฟรอยด์สีเงินที่กระจายเกลื่อนอยู่ในห้องน้ำเป็นประจำ บางครั้งก็หยุดอยู่แค่หน้าห้องน้ำ ไม่ก็ตรงห้องเก็บของข้างหลังนั่นแหละ ยังดีที่ไม่เข้ามาทำในห้องครัวแล้วขโมยเหล้าไปกินให้เขาปวดหัว ถึงบางครั้งจะสาบานได้ว่าเขาได้ยินเสียงกระเส่าของคนสองคนที่ดังแผ่วๆประสานเสียงออกมาจากประตูครัวก็ตามที
ตอนนั้นเป็นเวลาตี 2 กว่าๆ ในคืนที่เขาจะไม่มีวันลืม ข้างในผับที่จัดเป็นลานวงกลมตรงกลางว่างเปล่า ผู้จัดการสบถยาวเหยียดให้ได้ยินว่าวันนี้สงสัยจะโดนนักดนตรีเจ้าประจำเบี้ยวเสียแล้ว ทุกอย่างเลยเงียบกว่าที่มันควรจะเป็นและถูกแทนที่ด้วยเสียงหยดน้ำดังเปาะแปะกระทบกับเสียงกันสาดสังกะสี ใช่... สังกะสีที่ไม่รู้ว่าไอ่ผับนี่มันจะถล่มลงมาเมื่อไหร่
"มึงไปเปิดเพลงเหี้ยอะไรก็ได้หน่อย กูรำคาญเสียงฝนชิบหาย"
ร่างหนาๆของผู้จัดการตะโกนบอกเขา อิมยองมินพยักหน้ารับรัวระหว่างเดินสวนกับเด็กฝึกงานอีกคน
"เชื่อกูเถอะว่าไม่ใช่ฝนที่ทำให้เฮียหงุดหงิด"
คิมซังกยุนว่าอย่างนั้นแล้วก็ยกมุมปากขึ้นมาเพียงนิด ตาเรียวรีเป็นประกายเจ้าเล่ห์ และเขาก็ว่าใช่ แค่ฝนรัวๆทำให้คังดงโฮอารมณ์เสียเหมือนเสือหิวไม่ได้หรอก ก็แค่นักร้องหน้าหวานคนนั้นไม่โผล่มาเท่านั้นแหละ อิมยองมินจำโครงร่างเล็กๆ กับใบหน้าเชิดระหงนั้นได้ เวลาริมฝีปากเล็กๆ ขยับไปตามเสียงเพลง สายตาของเจ้านายเขามองตามราวกับจะกลืนกิน
เสียดายที่เขาจำชื่อคนไม่ค่อยแม่นเลยลืมชื่อ "เด็กเฮีย" คนนั้นไปแล้ว เห็นว่านามสกุลอีอะไรนี่แหละ
กลับมาที่สถานการณ์ตรงหน้า อิมยองมินยังเก้ๆกังๆกับเครื่องเล่นเสียงเก่าๆจวนจะพังมิแหล่ (สภาพเดียวกับผับนี่เลย) ตอนนี้ไม่ใช่แค่เสียงเปาะแปะกระทบกันสาด แต่สาบานว่าพายุลูกใหญ่กำลังก่อตัวอยู่ข้างนอก วินาทีที่เอื้อมมือไปกดปุ่ม play ทำนองแสนเย้ายวนของมันก็ดังกระหึ่ม
ช่างพอเหมาะพอเจาะกับเสียงประตูสังกะสีข้างหลังผับที่มีสภาพไม่ต่างกันกับกันสาดเก่าๆดังกุกกัก ก่อนที่มันจะถูกเปิดผลัวะออก
ฝนเทกระหน่ำ ละอองน้ำเย็นเฉียบสาดกระเซ็นเข้าระใบหน้า กลิ่นไอดิน ใบไม้ และหญ้าที่เปียกชื้นลอยวนอยู่ในบรรยากาศ ร่างของใครบางคนปรากฎขึ้นสู่สายตา.. เรือนผมสีน้ำตาลเข้ม เปียกลู่ แนบไปตามขมับและใบหน้าเรียว คนคนนั้นสะบัดหัวไล่ฝนสองสามทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา นาทีที่สายตาสอดประสาน อิมยองมินเห็นแค่ร่างเล็กกับแผ่นอกบอบบางที่เห็นชัดภายใต้ชุดสีขาวที่เปียกฝนจนชุ่มฉ่ำ
ประกายตาใสสีน้ำตาลอ่อน บริสุทธิ์เหมือนกระจกแก้ว
อิมยองมินแน่ใจว่าเขาเห็นภาพตัวเองที่ยืนนิ่ง ลมหายใจสะดุด สะท้อนออกมาจากกระจกแก้วเล็กๆนั้น
อีกฝ่ายจ้องตอบกลับมา
หยาดน้ำจากฟ้าสองสามเม็ดไหลจากลำคอ ลงไปตามร่องไหปลาร้าขาว ซึมลงไปใต้ชุดบางๆนั้น
... อิมยองมินเห็นชัดว่ายังมีเม็ดฝนอีกนิดกลิ้งลงไปตามกล้ามเนื้อท้องสีขาว หายลับลงต่ำไปตามแนวเข็มขัดของอีกฝ่ายตามแรงโน้มถ่วงโลก สายตาของเขามองไม่เห็น แต่จินตนาการได้ว่ามันลงไปที่ส่วนใดบ้าง
แรงอารมณ์ที่นิยามไม่ได้ก่อตัวบางเบา หมุนวนในช่องท้องคล้ายผีเสื้อกำลังสยายปีก
อิมยองมินกระพริบตาถี่ เลียริมฝีปากหนาของตัวเองสองสามที
อากาศเย็นชื้น แต่ข้างในของเขาร้อนอบอ้าว ตัวคนตรงหน้าเปียกชุ่ม แต่ลำคอของเขาแห้งผาก
ถ้าเป็นคิมซังกยุนมาเห็น มันต้องบอกว่าคนตรงหน้านี่ "เซ็กซี่เป็นบ้า" แน่ๆ
แล้วเขาก็อยากเอาหัวตัวเองโขกโต๊ะที่คิดเหมือนมันเด๊ะ..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in