Preface
ระยะหลังๆ เวลามีใครมาปรึกษาหารือในเรื่องที่ยากจะให้คำตอบได้ ผู้เขียนมักจะจบบทสนทนานั้นด้วยประโยคที่ว่า ‘เวลาเท่านั้นที่จะตอบได้’ ซึ่งก็ไม่แน่ใจนักว่าคนฟังจะพอใจกับคำตอบนี้หรือเปล่า แต่ก็เหมือนอย่างที่เขาว่ากันไว้นั่นแหละ…คำตอบที่ถูกต้อง คือคำตอบที่เราถูกใจ แม้หลายครั้งผลของความถูกใจจะทำให้เราต้องทนอยู่กับคำตอบที่พิกลๆ กับชีวิตก็ตาม
พอให้คำตอบแบบนั้นกับคนอื่นมากๆ เข้า ในที่สุดผู้เขียนก็ยึดเอาคำที่ว่านั้นเป็นคำตอบให้กับชีวิตตัวเองไปด้วยเสียเลย โดยเฉพาะในเวลาที่รู้สึกลังเลกับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเลือก หรือเลือกไปแล้ว ยิ่งกับเรื่องสำคัญๆ ชนิดที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนหรือจุดหักเหของตัวเองด้วยแล้ว จะเริ่มมีอาการคิดแล้วคิดอีก
เปลี่ยนแผนแล้วเปลี่ยนแผนอีก ดูเผินๆ เลยไม่แน่ใจว่าตกลงตัวเองเป็นคนที่มีแผนหรือไม่มีแผนอะไรเลยกันแน่
เรื่องแบบนี้อย่าได้ประมาทเชียวว่า อายุที่มากขึ้นและประสบการณ์หลากหลายในชีวิตจะทำให้เราเลือกในสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป เพราะจริงๆ แล้ว เราก็เลือกเท่าที่เรารู้หรือคิดว่าเรารู้ดีแล้วเท่านั้นแหละ แต่โลกนี้ยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมายที่เราไม่รู้และอาจส่งผลกับสิ่งที่เราเลือกในอนาคตข้างหน้า ซึ่งหากผลของการเลือกนำไปสู่เรื่องที่เราไม่ชอบใจ หรือกระทั่งทำให้เราต้องทุกข์หนัก สิ่งที่เราเคยคิดว่าเลือกถูกแล้วจะยังถูกอยู่อีกไหม? เราจะก่นด่าโชคชะตา หรือจะโยนความผิดของการเลือกให้ใครได้บ้าง?
ผู้เขียนมองไม่เห็นใคร นอกจากตัวเอง
ชีวิตก็เป็นแบบนี้ มันคือการเลือกและการยอมรับผลของสิ่งที่เลือก ผิดถูกอย่างไรไม่รู้ เพราะสุดท้ายทุกคนก็ต้องยอมรับความจริงอยู่ดี แน่นอนว่าถ้าผลมันออกมาเหมือนที่ตั้งใจไว้ทุกประการก็เปิดแชมเปญฉลองได้เลย แต่ชีวิตมักไม่ง่ายขนาดนั้น
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ หากผลลัพธ์ออกมาไม่ได้ดังใจ เราจะแก้ปัญหาด้วยหัวใจแบบไหน หัวใจที่เต็มไปด้วยความหนักอึ้งขึ้งโกรธทุกคน หรือหัวใจที่เชื่อมั่นว่าเราจะผ่านปัญหานั้นไปได้อีกครั้งและอีกครั้ง แต่เราจะเชื่อมั่นในตัวเองได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเคยผ่านการแก้ปัญหามามากน้อยแค่ไหนนั่นเอง
ไม่ได้อยากโลกสวยอะไรหรอก แต่ผู้เขียนเชื่อว่าการเจอปัญหาทำให้เราเติบโต และการแก้ปัญหาได้นั่นแหละที่ทำให้เรา แตกต่าง ในแง่ที่ว่า อย่างน้อยเราก็ไม่ได้จมกับปัญหาเหมือนคนอื่นอีกมากมาย ที่บางคนจมคนเดียวไม่พอ แต่ยังไปลากคนอื่นให้มาจมไปด้วย
สุดท้าย ผู้เขียนก็พอจะบอกได้นิดหนึ่งว่าเราจะมีความสุขหรือทุกข์นั้น น่าจะขึ้นอยู่กับการรับมือกับตัวแปรต่างๆ ที่วันเวลานำพามาให้ รับมือได้มากก็สุขมาก รับมือได้น้อยก็ทุกข์มาก
ความไม่แน่นอนก็คือความไม่แน่นอน ป่วยการที่เราจะถามหาความแน่นอนจากอนาคตที่เต็มไปด้วยตัวแปรมากมายที่อาจทำให้ชีวิตผันแปรได้ทุกเมื่อ
ไม่มีใครให้คำตอบเราได้นอกจากเวลา
และเมื่อเราเติบโตมากพอ คำตอบที่ดีที่สุดก็อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกใจเราอีกต่อไป หากแต่เป็นคำตอบที่ถูกที่ ถูกเวลา และถูกต้องกับชีวิตในขณะนั้น
เลิกเสียเวลาคาดเดาว่าอะไรจะดี อะไรจะแย่ แค่ ‘ตัดสินใจ’ ทำในสิ่งที่ต้องทำและทำอย่างรอบคอบ จากนั้นก็ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น
เพราะท้ายที่สุด ไม่มีใครตอบได้หรอกว่ามันจะดีหรือจะแย่นอกจากตัวเราในอนาคต ตัวเราที่ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้วนับตั้งแต่วันที่ตัดสินใจ
วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม
@khaopan
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in