เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ordinary journey ☁Whocareeee
CHIANG MAI: ครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ
  • สวัสดีทุกคน ツ

    ช่วงนี้เป็นเหมือนกันมั้ย รอบข้างทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาไปเที่ยวเหนือ เที่ยวเชียงใหม่ เราก็ด้วย
    ทั้งที่แม่งก็ไปกันทุ้กกปี ปีที่แล้วก็ไป ปีก่อนหน้าก็ไป 
    เคยไปอยู่ทำงานที่เชียงใหม่เป็นปียังไม่เบื่อ ก็แปลกดี
    บางคนก็ไปด้วยความหวังว่ามันจะหนาว มันจะเย็น ถึงจะโดนหลอกกันทุกปีอะนะ 

    ทริปนี้ไปกะเพื่อนป.โทที่บากบั่นกันมาก กว่าจะเรียนจบ พอเรียนจบก็หายหน้าหายตา เลยต้องนัดมาเจอกันบ้าง แต่คราวนี้นัดไกลหน่อยไปเชียงใหม่แอ่วเหนือกันเจ้าา

    เราวางแผนกันว่าจะขึ้นดอยอ่างขาง เอาร่างกายไปเจออากาศหนาวเย็น รอดูพระอาทิตย์ขึ้น ไปดูไร่ชาสวยๆที่พวกเราชอบเห็นในรีวิวเชียงใหม่ช่วงนี้กัน เรียกว่าตามๆเค้าไปกันนั่นแหล่ะ 

    ถึงเชียงใหม่สิ่งแรกที่ทำคือหาของกิน มื้อแรกตกเป็นหน้าที่ของข้าวซอยเสมอใจฟ้าฮ่าม
    ข้าวซอยอร่อยตามปกติ ฮังเลคือดีย์ เราเพิ่งเคยกินร้านนี้ครั้งแรกก็ถือว่าโอเค

    เสียใจที่ไฟล์ทดีเลย์ วันนี้เลยไม่ค่อยเหลือเวลาเที่ยว 
    บ่ายสอง พี่ใหญ่ บอกขึ้นดอยกันเลยไหมครับเดี๋ยวจะมืด (พี่ใหญ่คือพี่คนขับรถตู้)
    มืด? มืดอะไรวะจะบ้าหรอ ยังไม่ได้ชิวอะไรในเมืองเลย
    แต่พี่เค้าหน้าซีเรียสเบอร์สิบ อะขึ้นก็ขึ้นเชื่อเจ้าถิ่น 
    (แต่ก็อ้อมแอ้มบอกถ้าระหว่างทางมีร้านกาแฟก็แวะหน่อยนะคะ เลยได้แวะ"หลงป่า") 


    ร้านหลงป่าคือร้านกาแฟที่อยู่ในป่า บวกความเป็นสวนสัตว์ย่อมๆ 
    ที่นี่ แกจะเจอฝูงแกะหรือแพะไม่รู้สองสามตัวกินหญ้ากินฟางนอนเล่นให้ดู
    แกจะเจอนกตัวใหญ่ที่ขนสีสวยๆ ขอโทษที่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร 
    แกจะเจอชะนี (ที่เป็นสัตว์จริงๆ) ทำหน้าที่เสแสร้งรับแขกได้ดีมาก เราพิสูจน์มาแล้ว 
    แกจะเจอกาแฟกับเค้กหลายเมนู พร้อมกับมุมน่ารักๆเยอะแยะให้แยกย้ายกันนั่งแบบค่อนข้างสงบ
    ดูทรงแล้วถ้าบ้านอยู่ใกล้ เราก็คงมานั่งอ่านนู่นนี่เล่นที่นี่บ่อยแน่



    นั่งเม้ามอยพอประมาณ พี่ใหญ่มาทวงสัญญา ปะขึ้นดอยต่อ
    เวลานั้นสี่ห้าโมงได้ โอ้โหยิ่งสูงยิ่งหนาวของจริง หมอกมาอย่างแน่น
    ตอนแรกจากที่หลับๆกันอยู่ ก็ตื่นมาช่วยกันลุ้นกับพี่ใหญ่ว่ามึงมองเห็นทางได้ยังไง
    อารมณ์เหมือนหนังผีแบบวัยรุ่นขับรถเที่ยวละหลงไปเมืองผีเมืองหมอกอะไรอย่างงั้น

    พี่ใหญ่ก็ขับต่อไปแบบใช้สมาธิ 
    คงคิดในใจว่า กูบอกแล้วใช่มั้ย ขนาดฟ้ายังไม่มืดเส้นแบ่งเลนส์กูยังมองไม่เห็นเลย 
    ฮือ กลัวรถตกเขา
    ความโปรเฟสชั่นนอลของพี่ใหญ่พาเราไปถึงที่พักบนดอยสำเร็จ บ้านพักจี๊ดจ๊าด ใช่แก ชื่อน่ารักอะดิ
    เรานอนกันสองห้อง ห้องละ 4 คน ราคารวม 7,000 บาทต่อคืน ไม่รู้แพงมั้ยแต่มันก็เต็มเกือบหมด
    ห้องไม่แย่แต่ไม่ดี แอร์ไม่ต้องมีเพราะหนาวชิบหาย ฟาซิลิตี้ทุกอย่างก็ถือว่าชะนีทั้งหลายอยู่ได้ ผ่านค่ะ

    ค่ำนั้นเราก็เดินลุยหมอกไปกินหมูกะทะแถวนั้น จบด้วยเล่นสลาฟ ใบ้คำ กินนมร้อน เบียร์ ไวน์ ผสมปนเป
    จนเค้ามาเตือนให้เบาเสียงหน่อย คือปกติมีแต่คนนอนเร็วไปดูพระอาทิตย์ตอนเช้าไง เออจริงของเค้า

    ตื่นเช้ามาปัดโธ่ววอย่าว่าแต่พระอาทิตย์ ภูเขาลูกนู้นยังมองไม่เห็นเลยจ้า หมอกเพียบ
    ดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าถือว่ามิชชั่นเฟล
    ผิดหวังก็เติมพลังด้วยข้าวต้มของที่พัก ละก็ไปสถานีเกษตรหลวงอ่างขางต่อ เค้าบอกมีซากุระ
    .
    .
    .
    อะ ซากุระ จัดไปคนละสองสามร้อยรูป มิชชั่นคอมพลีทเว่ย 
    .
    .

    เราเอาเรฟเฟอเรนท์ไร่ชาขั้นบันไดในกูเกิ้ลให้พี่ใหญ่ ละซอยเท้าบอกอยากได้รูปแบบนี้ 
    พี่ใหญ่บอกจัดให้อยู่แล้วลูกก เดี๋ยวพาไป
    เอ้อให้มันได้อย่างงี้ ใครอยากได้เบอร์พี่ใหญ่หลังไมค์มานาจา พี่เค้าบริการดีจริง

    ถึงแล้วไร่ชาสองพัน สวยมากกก แฮปปี้มากถึงมากสุดด
    อะ จัดไปอีกสองสามร้อยรูป 
    .
    .
    .
    เจอชาวเขาเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้รุ่นพ่อแม่ปลูกฝิ่น 
    พอในหลวงมาก็ปลูกชา ปลูกเสร็จก็มีคนรับซื้อ มีงาน มีรายได้กันทั้งครอบครัว 
    ถามว่ารักในหลวงมั้ย พูดพร้อมกันว่ารักมาก นี่ซึ้งไปด้วย เออดราม่าซะงั้น


    บ่ายๆเย็นๆ เรากลับลงมาถึงเมืองแล้ว 
    คืนนี้นอนบ้านเพื่อนแถวสันทราย เอาของไปเก็บตกเย็นก็ถึงเวลานิมมานฯ

    นิมมานฯไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แน่นอนเราสนองนีดทุกคนด้วยโรตีทิชชู่ฝอยทองที่กูโรตีชาชัก / ไส้กรอกคุณยาย / ขนมโตเกียว ละก็อะไรก็ตามรายทางไปเรื่อย ทริปกินนี่หว่า 
    (ไม่ทันถ่ายรูปเลยเพราะมัวแต่กิน หิวพอตัว)

    ด้วยความเพลียร่างของทุกคน สี่ห้าทุ่มก็กลับซะแล้ว 
    ถึงเราจะชายตาไปที่วอร์มอัพกับเบียร์แล็บนิดหน่อย แต่ก็ปล่อยไป ตาจะปิด
    กลับบ้านเพื่อนแยกย้ายอาบน้ำ แทนที่จะนอนหลับกลับตาสว่างว่ะเฮ้ย 
    เลยปิดท้ายด้วยบิ๊กซีนีม่านั่งล้อมวงดูหนังดุ้งอย่าง Don't Breath ร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง เออหนุกดี



    ตื่นสายไปกินโอ้กะจู๋ อร่อยดี จานใหญ่ 


    ถ้าไม่ได้เป็นผักเลิฟเวอร์อะไรเบอร์นั้นไม่ต้องสั่งสลัดก็ได้นะแก
    เพราะสั่งอะไรมาก็มีสลัดมาด้วยทุกจาน กินกันทั้งไร่ทั้งสวน 
    แต่ความประทับใจคือคนรับออเดอร์น่ารัก เป็นหนึ่งในเจ้าของร้านแหล่ะแอบเห็นรูปในเมนู (ยิ้มเขิน)
    รอบหน้าโอ้กะจู๋เลยเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่เราจะมาอีกครั้งหน้า อิอิ

    หลังจากนั้นก็ขึ้นไปไหว้หลวงพ่อทันใจ แวะบ้านสวนกาแฟดูเด็กเล่นน้ำ
    .
    .
    แล้วก็แวบไปเดินถนนคนเดินนิโหน่ยย ก่อน มูฟ ทู สนามบินเจ้า


    จบแล้วทริปสามวันเชียงใหม่ของปีนี้ เดี๋ยวปีหน้าก็มาอีกแหล่ะ
    ไว้จะไปเก็บตก ใหม่เอี่ยมมิวเซียมและร้านกาแฟใหม่ๆอีกเพียบเลยว่ะ เก็บไม่เคยหมดซะที

    แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าถ้าเราไม่ขี้เกียจ 
    บุย :)

     PS:  รูปถ่ายด้วย fuji x-a3



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in