เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
องครักษ์หญิงจอมป่วนminimore
เล่ม 1 ตอนที่ 66 ทั้งเจ็บปวดและเหน็บหนาว
  • ต้องซื้อ post นี้ก่อน ถึงจะอ่านหน้านี้และหน้าถัดๆ ไปของ post ได้

  •  

    ตำหนักชิงเฟิง

    หนิงเจิงยกการินน้ำชาทั้งเช็ดถูพื้น เยี่ยเหลียงเซวียนเรียกใช้นางกว่าค่อนคืนจนแทบไม่ได้นอน

    เมื่อนางคิดๆดูแล้วก็ต้องยกนิ้วให้สตรีนางนี้จริงๆ เยี่ยเหลียงเซวียนเองก็ไม่ได้นอนทั้งคืนเพื่อโขกสับนางช่างเป็นรักบริสุทธิ์ลึกซึ้งจริงๆ เลย!

    แต่ถึงกระนั้นหากเซวียนเช่อเฟยทรมานนางเพียงแค่นี้ นางก็อาจโล่งใจไปได้บ้าง

    ถึงอย่างไรแค่เรื่องพวกนี้ก็ดีกว่าที่นางเคยจินตนาการเอาไว้มากโข!

    “หนิงเจิง”

    หญิงสาวที่นั่งเอนกายบนพนักพิงพูดอีกครั้งอย่างเย็นชา “ข้ากระหายน้ำแล้ว อยากดื่มน้ำบ๊วยใส่น้ำแข็งเย็นๆเจ้าไปเอาที่โรงน้ำแข็งมาให้ข้าทีซิ”

    หนิงเจิงมองนางอย่างประหลาดใจ“อากาศหนาวขนาดนี้ และดึกดื่นแล้ว พระองค์ต้องการดื่มของเย็นๆ อีกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

    แน่นอนว่านางไม่ได้อยากดื่มจริงๆสักหน่อย!

    เยี่ยเหลียงเซวียนเยาะเย้ยในใจคิดแผนอย่างไร้ความปรานี นางต้องการส่งเจ้าสุนัขรับใช้คนนี้ไปตายต่างหากเล่า!

    แต่นางก็มิได้เผยความคิดเช่นนี้ออกไปหรอกเพียงแค่เงยหน้ามองนางอย่างเหยียดหยาม “ทำไม ข้าจะดื่มหรือไม่ จะดื่มตอนไหน ต้องให้ขี้ข้าอย่างเจ้ามาเห็นด้วยหรือไง”

    “กระหม่อมมิบังอาจ!

    “ไม่บังอาจก็รีบไสหัวไปเอามาเดี๋ยวนี้!

    เยี่ยเหลียงเซวียนตะคอกอย่างเยือกเย็น“ข้าดื่มแล้วต้องเข้านอน เจ้าอย่ามัวโอ้เอ้แถวนี้นะ”

    ตอนแรกหนิงเจิงคิดว่าสตรีนางนี้ต้องกลั่นแกล้งนางทั้งคืนอย่างบ้าคลั่งจริงๆเสียแล้ว ดังนั้นเมื่อได้ยินคำนี้ นางก็ดีใจน้ำตาแทบไหล และพยักหน้ารัวๆ“พ่ะย่ะค่ะ”

    ...

     

    สิ่งของฟุ่มเฟือยอย่างโรงเก็บน้ำแข็งแต่ไหนแต่ไรมีเพียงตระกูลใหญ่ร่ำรวยเท่านั้นถึงจะมีในครอบครองเพราะส่วนใหญ่เป็นสถานที่ปิดมิดชิด เพื่อรักษาอุณหภูมิให้ต่ำพอถึงรับประกันได้ว่าจะไม่ทำให้น้ำแข็งเหล่านั้นละลาย

    ดังนั้นในค่ำคืนปลายสารทฤดูนี้ทันทีที่หนิงเจิงเข้าใกล้โรงเก็บน้ำแข็ง นางก็รู้สึกหนาวสะท้านอย่างห้ามไม่ได้

    ไม่ได้มีเพียงแค่นางมู่เอ๋อร์ที่มากับนางก็พลอยตัวสั่นงันงกไปด้วยและพ่นไอร้อนออกปากไม่หยุดเพื่อคลายหนาว

    “หนาวจังเลยอ่ะขนาดกั้นด้วยกำแพงและประตูเหล็กหนาทึบแล้วนะเนี่ย ถ้าหากต้องเข้าไปข้างในจริงๆล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะแข็งตายยังไง”

    “นั่นน่ะสิ”หนิงเจิงก็คิดเห็นเหมือนกัน “เดี๋ยวเข้าไปหยิบน้ำแข็งแล้วก็รีบออกมาเลยนะ”

    “...”

    มู่เอ๋อร์มองนางอย่างสังเกตพูดเสียงโรยแรง “องครักษ์หนิง โชคดีที่ท่านเป็นบุรุษมีความอดทนมากกว่าสตรีบอบบางอย่างบ่าวมากโข ให้บ่าวรอท่านข้างนอก...ได้หรือไม่”

    หนงเจิงชะงักฝีเท้าเล็กน้อย

    มิใช่ว่านางจะเป็นคนแร้งน้ำใจถ้าหากเป็นสาวใช้คนอื่นพูดแบบนี้ นางคงตอบตกลงแน่นอน

    ทว่ามู่เอ๋อร์...

    นางเป็นคนของเซวียนเช่อเฟยไม่ระวังไม่ได้

    “เจ้าพูดอะไรน่ะ”นางแสร้งหันไปตกใจ “วัฒนธรรมหนานจ้าวเปิดกว้าง ฝ่าบาทมีพระราชปณิธานยกสถานะสตรีกว่าวันนี้จะมองเห็นความหวังได้นั้น มิง่ายเลยจริงๆเจ้ามายังพูดพร่ำแบ่งแยกชายหญิงอะไรกับข้าอีกทำไมกัน”

    “...”

    มุมปากของมู่เอ๋อร์กระตุกยิกๆ“บ่าวไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย เพียงแต่ท่านมีร่างกายแข็งแกร่งกว่าส่วนบ่าวอ่อนแอกว่าก็แค่นั้น”

    หนิงเจิงครุ่นคิดพยักหน้า “เจ้าก็พูดถูก”

    ดวงตาของมู่เอ๋อร์เปล่งประกาย

    แต่กลับได้ยินนางกล่าวเสริมต่อทันทีว่า“เพราะฉะนั้น เจ้าก็ยิ่งต้องออกกำลัง ร่างกายจะได้แข็งแรงไงเล่า”

    มู่เอ๋อร์ “...”

    ไอ้องครักษ์บ้าสมควรตายนี่!

    แล้วนางก็ถูกหนิงเจิงดันหลังเข้าโรงเก็บน้ำแข็งไปทั้งอย่างนั้นเดินตามหลังหนิงเจิงเข้าไปด้านใน อุณหภูมิรอบทิศทางลดลงต่ำลงเรื่อยๆก่อนที่ก้อนน้ำแข็งเรียงรายกันผืนใหญ่จะปรากฏสู่สายตา!

    ทั้งสองต่างยกมือขึ้นกอดอกตัวเองอากาศหนาวยะเยือกจนสั่นสะท้าน

    หนิงเจิงเดินถือชามไปข้างหน้าในจังหวะที่นางกำลังก้มลงไปหยิบน้ำแข็งนั้น จู่ๆมู่เอ๋อรืก็แสยะยิ้มเยือกเย็นที่มุมปาก

    โชคดีที่เซวียนเช่อเฟยคาดการณ์ล่วงหน้าว่าองครักษ์น่าชังผู้นี้ร้อยเล่ห์มารยาดังนั้นจึงต้องเตรียมแผนสำรอง!

    นางจดต่อไปที่เงาหลังหนิงเจิงค่อยๆ ยกมือขวาขึ้น แล้วกดปุ่มปิดเปิดบนผนัง...

    แกร็กๆ!

    ทันใดนั้นหนิงเจิงก็รู้สึกว่างเปล่าวูบโหวงใต้ฝ่าเท้าและสูญเสียน้ำหนักการทรงตัว ก่อนจะตกลงไปข้างล่าง...

    นางโยนถ้วยลายครามทิ้งไปโดยแทบไม่ต้องคิดแล้วพลิกมือกลับมาคว้าแขนของมู่เอ๋อร์เอาไว้!

    “อ๊ากกก!

    มู่เอ๋อร์กรีดร้องอย่างตกใจกลัวแต่แล้วนางก็ไม่รอดพ้นจากชะตากรรมถูกลากให้ตกลงไปในกับดักด้วยกัน!

    ทั้งสองคนร่วงลงไปอย่างต่อเนื่องในขณะที่ข้างบนเหนือศีรษะปิดสนิทเสียงโครมคราม บรรยากาศรอบตัวมืดสนิทเมื่อยื่นมือออกไปก็มองไม่เห็นแม้แต่นิ้วทั้งห้า!

    จู่ๆ อุณหภูมิจุดเยือกแข็งพร้อมกับความเจ็บปวดจากการหกล้มก็ร้าวรานไปทั่วสรรพางค์กาย...

    ช่างเจ็บปวดและหนาวเหน็บเหลือเกิน

    ...

     

    เช้าวันต่อมาณ บริเวณลานของตำหนักใหญ่

    จ้าวซู่เปลี่ยนอาภรณ์ให้เซียวหนานสวินพร้อมกับลอบมองสีหน้าของเขา เมื่อเห็นเขามีสีหน้าครั่นคร้าม จึงอดพูดไม่ได้“ไท่จื่อ เมื่อคืนพระองค์ทรงนอนไม่หลับหรือพ่ะย่ะค่ะ”

    เซียวหนานสวินเหลือบมองเขา

    จ้าวซู่สะดุ้งเฮือกมือที่ช่วยเขาสวมอาภรณ์สั่นเทาขึ้นมา

    ขณะกำลังจะพูดอะไรสักคำเพื่อชดเชยความผิดเขากลับเห็นว่าจี้หลิวเฟิงเดินเข้ามาจากข้างนอกด้วยความรีบร้อน “ไท่จื่อ!

    “ว่ามา”

    ...

     

    จี้หลิวเฟิงขมวดคิ้วทูลรายงานเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เมื่อครู่กระหม่อมไปตามหนิงเจิงแต่กลับหาไม่เจอ จึงสอบถามผู้ใต้บังคับบัญชากระหม่อมแล้วได้ยินพวกเขาพูดกันว่า...หลังจากหนิงเจิงออกไปกลางดึกเมื่อคืนวานแล้วก็ไม่กลับมาที่ตำหนักชิงเฟิงอีกพ่ะย่ะค่ะ”

    จ้าวซู่สังเกตว่าร่างกายของชายหนุ่มนิ่งค้างไปอย่างเห็นได้ชัด

    แล้วในวินาทีต่อมาเขาก็ถูกผลักออกไปอย่างแรง!

    ชายหนุ่มผู้ที่ให้ความสนใจกับภาพลักษณ์ตนเองตลอดเวลายังไม่ได้คาดเข็มขัดเลยด้วยซ้ำแต่กลับกระโจนออกไปราวกับผีพุ่งไต้!

    ...

     

    ภายใต้หลุมกับดักในโรงเก็บน้ำแข็ง

    เวลาหนึ่งราตรีอุณหภูมิหนาวยะเยือกค่อยๆ ซึมลึกเข้ากระดูก ในขณะที่มู่เอ๋อร์หนาวจนหมดสติไปตั้งนานแล้ว

    หนิงเจิงฝึกวรยุทธ์นานหลายปีแต่ก็ยังคงฝืนลืมตาได้อยู่ และรักษาสติสัมปชัญญะที่อ่อนแรงเฮือกสุดท้ายเอาไว้

    หลังจากนางและมู่เอ๋อร์ตกลงมาในนี้เมื่อคืนมิใช่ว่าจะไม่เคยลองหากลไกของมัน ทว่ามันก็สามารถยืนยันได้จริงๆแล้วว่าข้างใต้นี้ไม่มีที่เปิดปิดใดๆทั้งนั้น...วิธีเปิดหลุมกับดักนี้มีเพียงทางเดียวเท่านั้น ก็คือเปิดออกจากข้างบน

    สิ่งเดียวที่โชคดีคือด้านล่างไม่มีน้ำแข็งและอุณหภูมิน่าจะสูงกว่าด้านบนเล็กน้อย...

    แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้นล่ะนะ

    ร่างกายของหนิงเจิงเย็นเฉียบสติของนางยิ่งเลือนรางไปทุกทีๆ...

    นางคิดอย่างเจ็บแค้นถ้าหากนางออกไปจากที่นี่ได้ล่ะก็นางจะออกจากจวนไท่จื่อชนิดที่ว่าไม่หันหลังกลับมาเลยเชียวล่ะ

    มิฉะนั้นหากสมมติมีวันใดเอาชีวิตมาสังเวยที่นี่ขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร

    ทันทีที่ความคิดนี้ผดขึ้นมาจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังโครมครามเหนือศีรษะ!

    หนิงเจิงขยับเปลือกตาและเห็นว่ากลไกเหล็กสีดำที่สร้างปัญหาให้นางมาตลอดทั้งคืนก็เปิดออกในที่สุด...

    นางเบิกตาโตเล็กน้อย

    ใบหน้าที่ทำให้นางรู้สึกทั้งเคารพทั้งหวาดกลัว และหงุดหงิดในเวลาเดียวก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับแสงที่สาดส่องลงมา...

    ไท่จื่อเองหรือ

    หรือว่าเป็น...ภาพลวงตา

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in