เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
องครักษ์หญิงจอมป่วนminimore
เล่ม1 ตอนที่ 64 เปิ่นกงจะทำให้เจ้าเข็ดไปอีกนาน

  •  

    รอยยิ้มบนใบหน้าหนิงเจิงชะงักเล็กน้อย

    จู่ๆนางก็รู้สึกว่าตัวเองรีบดีใจเกินไปหน่อยหรือไม่

    นางก้มหน้ามองนิ้วตัวเองที่ยังเกี่ยวเข็มขัดของชายหนุ่มเอาไว้นางแลบเลียริมฝีปาก แล้วเตรียมตัวถอยไปเงียบๆ

    ทว่านางยังไม่ทันได้ขยับเขยื้อนก็ได้ยินเสียงดัง “เพี๊ยะ” จากนั้นข้อมือของนางก็ถูกชายหนุ่มจับไว้แน่น!

    หนิงเจิงหายใจเฮือกช้อนสายตาขึ้นมา

    “ไท่จื่อ?”

    “เจ้าไม่ได้ยินที่เปิ่นกงถามหรือไง”

    “...”

    นั่นเรียกว่าถามหรือ

    จะให้นางตอบคำถามแบบนั้นยังไงเล่า!

    หนิงเจิงกัดริมฝีปากนางกะพริบตาปริบๆ อย่างน่าสงสาร “กระหม่อมผิดไปแล้ว กระหม่อมไม่ได้ตั้งใจ...”

    ชายหนุ่มจ้องนางด้วยสีหน้ามืดครึ้มน้ำเสียงข่มขู่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบอย่างเห็นได้ชัด“ถ้าหากเจ้าบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วสามารถแตะเนื้อต้องตัวเปิ่นกงเปิ่นกงก็คงเป็นไท่จื่อผู้ไร้ค่าใช่หรือไม่”

    หนิงเจิง “...”

    นางแตะเนื้อต้องตัวตอนไหนไม่ทราบ

    อย่างมากก็แค่เฉียดนิดๆหน่อยๆ เท่านั้น!

    หนิงเจิงพยายามระงับอารมณ์แต่ก็ยังระงับไม่อยู่ “ไท่จื่อ” นางพูดอย่างโมโห “หากกระหม่อมมองไม่ผิดดูเหมือนพระองค์เอามือมาวางบนบ่าของกระหม่อมก่อน ส่วนกระหม่อม อย่างมากก็แค่...”

    “หมายความว่าเปิ่นกงทำได้เจ้าก็ต้องทำได้งั้นหรือ”

    ชายหนุ่มแสยะยิ้มและตัดบทนาง“นั่นเพราะเปิ่นกงคือไท่จื่อ ทำไมเจ้าไม่เป็นไท่จื่อด้วยเลยเล่า”

    โอ้โห ไอ้...!

    หนิงเจิงเบิกตากว้าง“เรื่องสถานะมีมาตั้งแต่ชาติกำเนิด กระหม่อมอยากเป็นก็เป็นได้ด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

    เซียวหนานสวินหัวเราะเยาะ“เจ้ารู้ก็ดี เพราะฉะนั้น เรื่องที่เปิ่นกงทำได้ ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะทำได้เข้าใจไหม”

    แต่ว่าร่างกายของนางก็เป็นของนางนี่นา!

    เขาสัมผัสนางก่อนแล้วยังไม่อนุญาตให้นางสัมผัสเขากลับงั้นหรือ!

    หนิงเจิงอึ้งไปชั่วขณะ“ตอนนี้พระองค์กำลังปล่อยให้ขุนนางวางเพลิง แต่ไม่ยอมให้ชาวบ้านจุดตะเกียง[1]งั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”

    “แล้วจะทำไม”

    “...???”

    อยู่ยากแล้วตู!!!

    จู่ๆหนิงเจิงก้เถียงไม่ออก ทำไมเมื่อครู่นี้นางถึงคิดว่าไท่จื่อเป็นคนดีไปได้นะนี่เห็นได้ชัดว่าเป็นบุคคลอันตรายเสียยิ่งกว่าเซวียนเช่อเฟยอีก!

    “เช่นนั้น...พระองค์จะเอายังไง”

    จู่ๆนางก็รู้สึกใจสลายเป็นเสี่ยงๆ นางทำแก้มพองลมแล้วจ้องเขาด้วยสายตาขลาดกลัวระคนไม่พอใจ “ในเมื่อกระหม่อมแตะต้องตัวพระองค์ไปแล้วต่อให้นึกเสียใจทีหลังก็คงไม่ทันแล้วพ่ะย่ะค่ะ!

    เซียวหนานสวิน“...”

    เอ่อ...

    ชายหนุ่มทั้งโกรธทั้งขำ

    เจ้าสุนัขรับใช้สมควรตายคนนี้ยังกล้าเถียงเขาคอเป็นเอ็นอีกหรือ

    นี่เขาคิดจริงๆหรือว่าเปิ่นกงไม่กล้าทำอะไรเขา ถึงได้กล้าต่อปากต่อคำอย่างไม่เกรงกลัวเช่นนี้

    ใบหน้ารูปงามของชายหนุ่มปกคลุมไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทันใดนั้นก็รวบกำข้อมือนางแน่นอย่างแรง ก่อนเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “วันนี้เปิ่นกงจะทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรคือที่ต่ำที่สูง...”

    อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยคำสุดท้าย เขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงกรีดร้องของหนิงเจิง“อ๊ะๆๆ...เจ็บ!

    สีหน้าของเซียวหนานสวินเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วเผลอผ่อนแรงโดยไม่รู้ตัว

    แต่เมื่อเขารู้ว่าเขาทำอะไรลงไปเขาก็ยิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที

    เพราะเหตุใดเขาถึงปล่อยมือ

    ทำไมเขาต้องดีกับเจ้าสุนัขรับใช้คนนี้ด้วย!

    ก็เพราะเขาปล่อยให้ได้ใจไปครั้งสองครั้งเจ้าสุนัขรับใช้คนนี้ถึงได้นับวันยิ่งกำเริบเสิบสาน เล่นกับหมาหมาเลียปาก!

    วันนี้เขาจะต้องกำราบเจ้าสุนัขรับใช้คนนี้ให้อยู่หมัดแน่นอน!

    “ไท่จื่อ”ขณะนั้นเอง หนิงเจิงเงยหน้าหน้าขึ้น มองเขาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ“ไม่ว่าพระองค์ทรงลงโทษอย่างไร กระหม่อมมิเคยบ่น!แล้วก็ไม่คิดว่าวันนี้แก้ไขสาถานการณ์ต่อหน้าฝ่าบาทแล้วรอดพ้นจากความตายมาได้อย่างไร”

    เซียวหนานสวิน“...”

    ไม่คิดแล้วตอนนี้จะเอ่ยถึงทำไม

    เจ้าสุนัขรับใช้คนนี้นี่ปากว่าตาขยิบ คำพูดไร้ความจริง!

    แต่ว่า

    เซียวหนานสวินมองนัยน์ตาแดงก่ำราวกับวินาทีต่อมาจะร้องไห้ดวงเนตรของเขาก็ลุ่มลึกไปหลายส่วนโดยไม่รู้ตัว

    แล้วจะลงโทษเช่นไรดีล่ะ

    จะฆ่าให้ตายจริงๆหรือ

    เขาหลุบตาสายตาลุ่มลึก ลูกกระเดือกกลิ้งหลายครา

    วินาทีถัดมาเขาก็ผ่อนแรงที่มืออย่างสมบูรณ์

    “อื้อออ!

    เสียงครวญครางอย่างเจ็บปวดดังขึ้น

    ดวงตาของหนิงเจิงเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว

    ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ริมฝีปากอย่างไม่ทันตั้งตัวและมองความหล่อเหลาอันน่าตกตะลึงที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ!

    เมื่อกี้...เขา...เขา...กัดนางหรือ!

    ใช่ ถูกต้องเขากัดปากนาง!

    ที่สำคัญดูเหมือนตอนนี้เขาไม่มีทีท่าจะปล่อยนางด้วย!

    ลูกตาของหนิงเจิงแทบถลนออกมาร่างกายแน่นิ่งไม่ไหวติง ความคิดสับสนปนเปกันไปหมด

    “หนิงเจิง”

    จนกระทั่งชายหนุ่มถอนตัวแล้วเปล่งเสียงนางจึงได้สติกลับมา

    เซียวหนานสวินมองใบหน้าตกตะลึงของนางขมวดคิ้ว แล้วบีบคางของนาง “หนิงเจิง”

    “อ๊ะ...”

    นางกะพริบตาปริบๆมองเขาด้วยความงุนงง

    เซียวหนานสวินยิ่งขมวดคิ้วมุ่นทำไมเจ้าสุนัขรับใช้คนนี้ถึงได้ดูซื่อบื้อทุกครั้งหลังเขาจุมพิตด้วย

    เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ต่อไปเจ้ายังจะกล้าอีกหรือไม่”

    หนิงเจิง “...”

    ถ้าหากนางยังกล้าอีกเขาก็จะลงโทษนางแบบนี้อย่างนั้นหรือ

    หนิงเจิงอดตัวสั่นไม่ได้และรู้สึกสับสนเป็นอย่างยิ่ง

    ไท่จื่อไม่ธรรมดาเลยจริง...นี่เขาต้องเสียสละตัวเองเพื่อลงโทษนางครั้งสองครั้งแล้ว!

    อาจเป็นเพราะสายตาของนางเปิดเผยเกินไปสันกรามของเซียวหนานสวินเกร็งขึ้นทันใด เขาจึงตำหนิเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าสุนัขรับใช้ใครใช้ให้เจ้ามองเปิ่นกงด้วยสานตาเช่นนี้”

    ดูเหมือนเขาเอาเปรียบนางอย่างไรอย่างนั้น!

    หนิงเจิงถูกสายตาน่ากลัวของเขาจ้องมองจึงเผลอกันริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเจ็บจี๊ดจนหน้านิ่วคิ้วขมวด“ไท่จื่อ พระองค์จะกัดที่อื่นไม่ว่า แต่ปากต้องใช้กินข้าวใช้พูดพระองค์ทรงทำเช่นนี้ กระหม่อมไม่สะดวกนะพ่ะย่ะค่ะ!

    สายตาของเซียวหนานสวินวูบไหวสีหน้าของเขาดูไม่เป็นธรรมชาติ น้ำเสียงยิ่งฟังดูเคร่งขรึม“เปิ่นกงจะทำให้เจ้าเข็ดไปอีกนาน จะได้ไม่ทำผิดซ้ำซากอีก!

    หนิงเจิง “...”

    ทันใดนั้นนางด้วยสีหน้าจริงจัง

    เซียวหนานสวินขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ“จะทำอะไร”

    หนิงเจิงกล่าว“ถ้าหากอนาคตกระหม่อมทำผิดโดยไม่ตั้งใจอีก...พระองค์ก็จะลงโทษกระหม่อมแบบนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ”

    เซียวหนานสวิน“...”

     



    [1]ปล่อยให้ขุนนางวางเพลิงแต่ไม่ยอมให้ชาวบ้านจุดตะเกียง สำนวนจีน หมายถึง พวกขุนนางที่ทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจแม้เป็นเรื่องผิดแต่ชาวบ้านกลับถูกห้ามกระทำทุกอย่างแม้เป็นเรื่องชอบธรรมก็ไม่อาจทำได้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in