เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
องครักษ์หญิงจอมป่วนminimore
เล่ม 1 ตอนที่ 44 ท่าทางคิดจะ 'หลบหนี'?

  •  

    นางตกใจจนสะดุ้งตื่น

    ระยะประชิดตรงหน้าเห็นเพียงสีหน้ามืดครึ้มราวกับถ่านของไท่จื่อ!

    ดวงตาของหนิงเจิงเบิกกว้าง มองเขาด้วยความตกใจ พร้อมกับมองรอบๆจากนั้นก็พบว่าตนนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาหรือ!

    ให้ตายเถอะ!

    ดังนั้นที่นางลูบคลำไปเมื่อครู่คือหน้าอกของเขารึ!

    นางตัวสั่นเทา ไท่ไท่จื่อ! ไม่ๆๆไท่จื่อเหตุใดกระหม่อมถึงอยู่บนเตียงของท่านได้พ่ะย่ะค่ะ

    เดิมเซียวหนานสวินคิดว่าจะโยนนางลงเตียงก่อนที่นางจะตื่นแต่คาดไม่ถึงว่านางจะตื่นขึ้นมากะทันหัน ทั้งยังลูบจนเขาตื่นด้วยใช่แล้ว บ่าวชั้นต่ำคนนี้กล้าดีมาลูบมาจับเขา!

    ก่อนนอนเมื่อคืน ทั้งๆ ที่เขาผลักคนออกไปชิดด้านในเพียงนั้นตรงกลางเป็นมีช่องว่างใหญ่ขนาดนั้นอีกแต่ทว่าตอนนี้คนคนนี้กลับปรากฏอยู่ในอ้อมกอดของเขา?!

    เจ้าถามใครกันเขาจ้องนางตาเป็นมันริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง ข้าให้เจ้านอนพื้นแต่เจ้ากลับแอบขึ้นเตียงข้าขณะที่ข้านอนหลับอย่างนั้นรึ

    ข้าไม่ได้ทำพ่ะย่ะค่ะ!” หนิงเจิงจะร้องไห้นางนั่งนอนอยู่บนพื้นชัดๆ จะปีนขึ้นมาบนเตียงได้อย่างไรกัน

    หรือว่านางมีนิสัยเดินละเมอ

    ความคิดนี้ทำเอานางตกใจเช่นกัน

    ไท่จื่อ กระหม่อมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”นางอยากจะรีบออกจากอ้อมกอดของเขา แต่ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในฝันกระหม่อมเองก็ไม่รู้แน่ชัดนัก กระหม่อมอาจจะป่วยเป็นโรคบางอย่างก็ได้ท่านอย่าโกรธเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

    แล้วยังไม่ไสหัวไปอีก!”

    หนิงเจิงเองก็อยากจะไปเหมือนกัน แต่นางกอดเซียวหนานสวินเข้าด้วยกันเมื่อครู่และเพราะว่าตกใจ มือข้างนั้นจึงได้วางอยู่บนตัวของเขา!

    หนิงเจิง!”

    สองคำที่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันราวกับออกมาจากลูกคอของชายหนุ่มสีหน้าของเขาดำมืดราวกับจะมีน้ำหมึกไหลออกมา

    เซียวหนานสวินเสียใจทีหลังมาก เขาไม่ใช่คนใจดีมีเมตตาแล้วเหตุใดเมื่อคืนถึงได้เกิดเป็นคนดีขึ้นแล้วนำตัวบ่าวชั้นต่ำคนนี้ขึ้นมาบนเตียงได้อย่างไรกัน

    สุดท้ายไม่เพียงแต่ถูกชายหนุ่มคนหนึ่งกอดนอนทั้งคืนตอนนี้บ่าวชั้นต่ำคนนี้ยังแตะตัวเขาไม่หยุด!

    ขออภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้ตั้งใจ!” นางกล่าวด้วยแววตาน่าสงสาร “พระองค์อย่าได้ถือสาคนป่วยอย่างกระหม่อมเลยกระหม่อมสาบานว่าหลังจากกลับเมืองหลวงจะรีบไปพบท่านหมอทันทีพ่ะย่ะค่ะ

    กล่าวจบนางจึงออกแรงแล้วพลิกตัวออกจากเขาแทบจะกลิ้งตกเตียงไป

    เซียวหนานสวินเห็นร่างกระวนกระวายของนางแววตาเคร่งขรึมจ้องนางตาเป็นมัน

    เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่พวกเขาก็ออกจากจวนมั่วแล้วเหตุใดเขายังต้องมีความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนกับบ่าวชั้นต่ำผู้เป็นชายคนนี้อีก

    ที่สำคัญคือบ่าวคนนี้ยังแตะเนื้อต้องตัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยังเป็นปฏิกิริยาจะหลบหนีเช่นนี้ทุกครั้งอีกด้วย

     

    ทั้งสองไม่ได้รับมื้อเช้าก็ออกเดินทางทันที

    เซียวหนานสวินสีหน้าบึ้งตึงไม่พูดไม่จากับนางตลอดทาง

    หนิงเจิงอดทนจนกลับถึงจวนไท่จื่อ ในที่สุดก็หลุดพ้นแล้ว

    แต่สีหน้าของเซียวหนานสวินยังไม่ดีขึ้น

    ตามหลักแล้วนำผีเสื้อทองคำกลับมาได้ในครั้งนี้หนิงเจิงเองก็ลงแรงไปไม่น้อยควรต้องตบรางวัลให้กับนางเล็กน้อยด้วย

    แต่ทว่าเขาไม่มีความคิดนั้นเลย!

    เซียวหนานสวินครุ่นคิด เตียงของเขามอบให้กับบ่าวชั้นต่ำนั่นทั้งสองคืนนี่เป็นพรจากสวรรค์ยังต้องการของรางวัลอะไรอีก

    จ้าวซู่ยืนอยู่ข้างๆ มองดูสีหน้าของเจ้านายก็อดไม่ได้ที่จะถาม ไท่จื่อกระหม่อมเตรียมชาที่เข้าคลังมาใหม่มีฤทธิ์แก้ร้อนในมาให้กับพระองค์พ่ะย่ะค่ะ

    ดวงตาของเซียวหนานสวินหยุดชะงัก เหล่มองเขาด้วยสายตาเย็นชา เปิ่นกงออกไปสองวัน เจ้ากล้าขึ้นไม่น้อยเลยนี่

    จ้าวซู่มึนงง เขาเพียงแค่เป็นห่วงในสุขภาพของเจ้านาย ผิดตรงไหนเล่า

    ชาแก้ร้อนในไม่ถูกหรือ!

     

    หนิงเจิงกลับถึงจวนก็ตรงดิ่งไปที่สำนักหมอ

    หมอคนนี้มีนามว่าหลินซิว และยังเป็นคนที่ตรวจระดูให้กับนางที่จวนตระกูลเฮ่อเมื่อสองวันก่อนด้วยคนคนนี้สนิทสนมกับพ่อบุญธรรมดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่าเขาจะเชื่อถือไม่ได้

    เพียงแต่คำพูดของหลินซิวกลับทำให้นางมึนงง

    โรคละเมอหรือเขาขมวดคิ้วตรวจชีพจรให้กับนางดูจากชีพจรของเจ้าแล้วไม่เหมือนเป็นโรคนี้นะ

    แต่ทว่า…” หนิงเจิงกล่าวสงสัย เหตุใดข้าจึงเกิดสถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมได้ในตอนกลางคืนได้กันล่ะ”

    หืม สถานการณ์อะไร

    “…”

    ถึงแม้หมอผู้นี้จะเชื่อถือได้แต่เรื่องระหว่างนางกับไท่จื่อยิ่งรู้น้อยก็ยิ่งปลอดภัยดังนั้นหนิงเจิงจึงไม่พูดตามตรง

    นางครุ่นคิดอยู่นานถึงจะหาคำพูดที่อ้อมออกมาได้ เป็นอย่างนี้ เมื่อคืนข้านอนห้องเดียวกันกับคนคนหนึ่งทว่าตอนที่นอน ข้านอนอยู่บนพื้น เขานอนอยู่บนเตียงแต่ไม่รู้เพราะเหตุใดตอนที่ตื่นมาข้ากลับอยู่บนเตียงไปได้!”

    หลินซิวมึนงง มองนางด้วยท่าทางตกใจ แล้วครุ่นคิด คนที่เจ้านอนด้วยเป็นบุรุษหรือไม่

    ใช่สิ

    “…อย่างนี้นี่เอง

    อะไรกันหนิงเจิงดวงตาเป็นประกายมองเขาด้วยความคาดหวัง หาสาเหตุพบแล้วหรือ

    ถูกต้องหลินซิวพยักหน้ามองนางด้วยสีหน้าซับซ้อน เจ้าเป็นสตรีอยู่แล้วแต่เพราะเหตุผลบางอย่างที่ข้าไม่อาจรู้ได้จึงต้องปลอมตัวเป็นชายแน่นอนว่าเจ้าวางใจได้ เรื่องนี้ข้าจะไม่บอกใครอื่นเพียงแต่ว่าโรคของเจ้าน่าจะมาจากสาเหตุนี้”

    หนิงเจิงได้ยินดังนั้นก็ตะลึงงัน หมายความว่าอย่างไร

    หลินซิวถอนหายใจยาวเหยียด เจ้ามีความรู้สึกที่ไม่อาจบอกผู้อื่นได้ต่อชายคนนี้เพียงแต่ว่าไม่สามารถแสดงออกมาได้ จึงได้เก็บไว้กลายเป็นโรคทางใจ และจะแสดงออกได้หลังจากที่หลับใหลไปแล้ว…”

    ความรู้สึกที่ไม่อาจบอกใครได้อย่างนั้นหรือ

    หนิงเจิงเบิกตากว้าง เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ท่านหมอหลิน ท่านท่านอย่าพูดจาเหลวไหลนะ!”

    หลินซิวส่ายหน้า กล่าวจริงจัง ในฐานะหมอข้าจะพูดจาเหลวไหลได้อย่างไรกัน จากที่ข้าดูแล้วเจ้าไม่ใช่โรคละเมออะไรหรอกแต่เป็นไข้ใจน่ะ

    อะไรนะ!

    ใบหน้าของนางบูดเป็นวงกลม ไม่มีทาง!”

    หลินซิวกล่าวขึ้นอีก หากไม่เชื่อเจ้าลองเปลี่ยนคนดูแล้วนอนกับอีกฝ่ายตอนกลางคืนดูว่าจะเกิดอาการละเมอเช่นนี้อีกหรือไม่!”

    หนิงเจิง “…”

    ลองต้องลอง!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in