เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
องครักษ์หญิงจอมป่วนminimore
เล่ม 1 ตอนที่ 35 …ตายแน่
  • เล่ม 1 ตอนที่ 35 …ตายแน่

     

    อารมณ์ชั่ววูบอย่างนั้นหรือ

    ใบหน้าอันหล่อเหลาของเซียวหนานสวินเคร่งขรึม เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเจ้าก็หยิบมีดสั้นชี้เป้าที่ตนเองต่อไปคงชี้เป้ามาที่เปิ่นกงแล้วกระมัง

    ไม่ไม่พ่ะย่ะค่ะ

    ถึงแม้นางจะตายก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาตายอยู่แล้ว!

    นางส่ายศีรษะปฏิเสธแล้วดึงชายเสื้อของเขาพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร ไท่จื่อ กระหม่อมสำนึกผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ

    ปล่อย!”

    ไท่จื่อ…”

    เปิ่นกงบอกให้ปล่อย!”

    พ่ะย่ะค่ะนางเบะปากทำหน้าบูดเบี้ยวแล้วดึงมือกลับ รับทราบพ่ะย่ะค่ะ

    “…”

    สีหน้าของชายหนุ่มยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

    ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้เลยสักนิดโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับหนิงเจิง

    แต่ทว่าเพียงเพราะองครักษ์คนเดียวเนี่ยนะ!

    เขาหลับตาลงแล้วขมวดคิ้วแน่น

    ไม่รอให้เขาคิดได้ เสียงล้อรถม้าก็หยุดลงกะทันหันมาถึงจวนไท่จื่อแล้ว!

    สีหน้าของหนิงเจิงแปรเปลี่ยนอีกครั้ง

    จัดการเรื่องเลือดได้แล้ว แต่เมื่อกลับเข้าไปในจวนหากว่าหมอตรวจชีพจรให้ล่ะก็ เช่นนั้นตัวตนที่นางเป็นสตรีก็ต้องถูกเปิดเผยน่ะสิ

    มองดูประตูรถม้าที่ถูกเปิดออก สมองของนางก็ชาขึ้นมาทันที

    เซียวหนานสวินเองก็ยังจ้องนางเขม็งในเพลานี้ด้วยจากนั้นกล่าวเสียงขรึม เปิ่นกงลงไปก่อนเจ้าอย่าขยับ

    เขาแค่คิดว่านางเจ็บจนขยับตัวไม่ได้แน่นอนจึงจะเรียกให้คนมายกตัวนางไปเพราะเขาไม่มีทางอุ้มอีกครั้งแน่!

    ทว่าวินาทีต่อมาก็เห็นว่าหนิงเจิงกระโดดลงจากรถม้าโดยไม่พูดไม่จาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น

    สีหน้าของเขาเปลี่ยน เจ้าทำอะไร

    จากนั้นบ่าวชั้นต่ำคนนั้นก็ไม่สนใจเขา แล้วกระโดดลงรถม้าวิ่งไปโดยไม่หันกลับมามองเลย?!

    เซียวหนานสวินทั้งตกใจทั้งโกรธ หนิงเจิงหากเจ้ากล้าเดินหน้าไปอีกก้าวเดียว เปิ่นกงจะหักขาเจ้าเสีย!”

    ขาหักกับชะตาขาดอันไหนน่ากลัวกว่ากัน

    ต้องเป็นชะตาขาดอยู่แล้ว!

    ดังนั้นหนิงเจิงจึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินทั้งยังเร่งฝีเท้าหายตัวไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย

    คนขับรถม้าข้างๆ มึนงง องครักษ์กล้าไม่สนใจไท่จื่อหรือ!

    เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าสีหน้าของชายหนุ่มมืดครึ้มราวกับถ่าน!

     

    หนิงเจิงวิ่งอยู่นานก็มาถึงหลังประตูจวน สีหน้าก็ซีดมาก

    นางหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง คาดไม่ถึงว่าตนจะกลับบ้านมาโดยไม่ตั้งใจความเจ็บบนร่างกายทำให้นางรู้สึกแสบร้อนจมูก

    ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน มีหลายครั้งที่นางอยากจะเข้าไปแต่สุดท้ายก็ได้แต่หันตัวกลับไป

    หากถูกคนเห็นเข้าต้องเป็นเรื่องแน่

    อีกอย่างถึงแม้จะเข้าไปได้ นางก็ไม่พบพ่อบุญธรรมอยู่ดีในเพลานี้ท่านต้องอยู่ในพระราชวังแน่นอน

    ทว่าขณะที่นางหันตัวกลับไปอยู่นั้น กลับมีมือหนึ่งวางบนหัวไหล่ของนาง เจิงเอ๋อร์

    หนิงเจิงตัวแข็งทื่อ หันกลับไปพบสีหน้าตกใจของเฮ่อเหวินจง เป็นเจ้าจริงด้วย เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน

    หนิงเจิงตกใจกว่าเขา วันนี้ข้าเกิดเรื่องเล็กน้อยเดินไปเดินมาก็มาถึงที่นี่แล้ว แล้วท่านล่ะ เหตุใดจึงออกมาจากพระราชวังแล้ว

    สองสามวันนี้พ่อไม่สบาย จึงกลับมาพักฟื้นที่จวน เจ้า…”ยังไม่ทันกล่าวจบก็เห็นเลือดเต็มตัวหนิงเจิงสีหน้าของเขาพลันเปลี่ยน เกิดอะไรขึ้น

    หนิงเจิงครุ่นคิด ดูเหมือนว่าข้าจะมา…”

    คำพูดของนางดูลังเลทว่าด้วยการที่เฮ่อเหวินจงตามติดข้างกายฮ่องเต้เป็นเวลาหลายปีจึงมีทักษะการสังเกตที่เยี่ยมนัก ระดูหรือ

    หนิงเจิงพยักหน้าเขินอาย

    เฮ่อเหวินจงโล่งใจ อดไม่ได้ที่จะจ้องนาง ดูเจ้าสิ ยืนอยู่หน้าบ้านก็ไม่รู้จักเข้าไป ตอนนี้ยังพูดจาอ้อมไปอ้อมมากับพ่ออีกเขาโกรธเล็กน้อย แล้วดึงมือลากนางเข้าไปในจวน ไป เข้าบ้าน เดี๋ยวพ่อให้คนไปเชิญหมอมาตรวจดูให้เจ้า”

    ถึงแม้หนิงเจิงจะลังเล แต่ในใจกลับมีความสุข

    ตามเฮ่อเหวินจงกลับไปในห้อง แล้วนอนพักอยู่บนเตียงนอนของตนเองอยู่นานทำให้นางผ่อนคลายไปไม่น้อย

    หมอหลินที่พ่อบุญธรรมเชิญมาเป็นหมอที่มีวิชาแพทย์ชั้นสูงไม่เพียงแต่ฝังเข็มให้นาง เพื่อไม่ให้นางเจ็บปวดไปมากกว่านี้ แต่ยังออกยาให้กับนางเพื่อบรรเทาระดูของนาง

    ดึกดื่น หนิงเจิงก็นอนหลับลึกไปแล้วในที่สุด

    การนอนหลับที่สบายนี้ดำเนินการอยู่นานดังนั้นเมื่อนางตื่นขึ้นมาในอีกวันก็เป็นเพลากลางวันแล้ว

    หนิงเจิงกล่าวไม่ดีอยู่ในใจ

    โดยเฉพาะเมื่อนางกลับถึงจวนรีบไปที่สวนด้านหลัง แล้วพบว่าจ้าวกงกงและหัวหน้าองครักษ์จี้ทั้งสองคนมองนางด้วยสายตาริบหรี่นางจึงรู้สึกว่าตนต้องตายแน่ๆ

    หนิงเจิงชี้ไปด้านในห้อง จ้าวกงกงไท่จื่ออยู่ด้านในหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ

    สายตาจ้าวซู่ซับซ้อน อยู่น่ะอยู่แต่ทว่า…”

    เขาพูดไปเพียงครึ่งหนึ่งก็ถูกจี้หลิวเฟิงขวางไว้ หนิงเจิง เรื่องเมื่อคืนพวกข้าได้ยินมาหมดแล้วหากเจ้าอยากจะขอโทษล่ะก็ ประเดี๋ยวตอนที่พบไท่จื่อก็ขอโทษดีๆ ซะ!”

    จ้าวซู่สายตาแปลกประหลาดกว่าเดิม

    แต่ว่าหนิงเจิงไม่มีเวลาสนใจเขาแล้วจึงพยักหน้าแล้วเปิดประตูเดินเข้าไป

    วินาทีที่ปิดประตู จ้าวซู่ก็อดไม่ได้ที่จะหันศีรษะกลับไปแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงตกใจว่า เจ้าให้เขาเข้าไปตอนนี้หรือเจ้าบ้าไปแล้วหรืออย่างไรกันผู้บัญชาการจี้!”

    จี้หลิวเฟิงเงียบไปชั่วขณะ กล่าวจริงจัง มิเช่นนั้น หากไท่จื่อหักขาเขาขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร

    เช่นนั้นก็ไม่ควร…”

    ท่านและข้ายังสามารถเข้าไปได้ แล้วเหตุใดเขาจึงไม่ได้

    ถามได้ดี!

    สีหน้าจ้าวซู่ครึ่งเขียวครึ่งซีดเหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าหนิงเจิงไม่สามารถเข้าไปได้อย่างนั้นหรือ

    แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in