เล่ม 1 ตอนที่ 35 …ตายแน่
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเซียวหนานสวินเคร่งขรึม
ถึงแม้นางจะตายก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาตายอยู่แล้ว
นางส่ายศีรษะปฏิเสธแล้วดึงชายเสื้อของเขาพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร
สีหน้าของชายหนุ่มยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้เลยสักนิดโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับหนิงเจิง
แต่ทว่า…เพียงเพราะองครักษ์คนเดียวเนี่ยนะ!
เขาหลับตาลงแล้วขมวดคิ้วแน่น
ไม่รอให้เขาคิดได้ เสียงล้อรถม้าก็หยุดลงกะทันหัน
สีหน้าของหนิงเจิงแปรเปลี่ยนอีกครั้ง
จัดการเรื่องเลือดได้แล้ว แต่เมื่อกลับเข้าไปในจวนหากว่าหมอตรวจชีพจรให้ล่ะก็ เช่นนั้นตัวตนที่นางเป็นสตรีก็ต้องถูกเปิดเผยน่ะสิ
มองดูประตูรถม้าที่ถูกเปิดออก สมองของนางก็ชาขึ้นมาทันที
เซียวหนานสวินเองก็ยังจ้องนางเขม็งในเพลานี้ด้วยจากนั้นกล่าวเสียงขรึม “เปิ่นกงลงไปก่อนเจ้าอย่าขยับ”
เขาแค่คิดว่านางเจ็บจนขยับตัวไม่ได้แน่นอนจึงจะเรียกให้คนมายกตัวนางไป…เพราะเขาไม่มีทางอุ้มอีกครั้งแน่!
ทว่าวินาทีต่อมาก็เห็นว่าหนิงเจิงกระโดดลงจากรถม้าโดยไม่พูดไม่จาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น
สีหน้าของเขาเปลี่ยน “เจ้าทำอะไร”
จากนั้นบ่าวชั้นต่ำคนนั้นก็ไม่สนใจเขา แล้วกระโดดลงรถม้าวิ่งไปโดยไม่หันกลับมามองเลย…?!
เซียวหนานสวินทั้งตกใจทั้งโกรธ “หนิงเจิงหากเจ้ากล้าเดินหน้าไปอีกก้าวเดียว เปิ่นกงจะหักขาเจ้าเสีย!”
ขาหักกับชะตาขาดอันไหนน่ากลัวกว่ากัน
ต้องเป็นชะตาขาดอยู่แล้ว!
ดังนั้นหนิงเจิงจึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินทั้งยังเร่งฝีเท้าหายตัวไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย
คนขับรถม้าข้างๆ มึนงง องครักษ์กล้าไม่สนใจไท่จื่อหรือ
เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าสีหน้าของชายหนุ่มมืดครึ้มราวกับถ่าน
หนิงเจิงวิ่งอยู่นานก็มาถึงหลังประตูจวน สีหน้าก็ซีดมาก
นางหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง คาดไม่ถึงว่าตนจะกลับบ้านมาโดยไม่ตั้งใจความเจ็บบนร่างกายทำให้นางรู้สึกแสบร้อนจมูก
ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน มีหลายครั้งที่นางอยากจะเข้าไปแต่สุดท้ายก็ได้แต่หันตัวกลับไป
หากถูกคนเห็นเข้าต้องเป็นเรื่องแน่
อีกอย่างถึงแม้จะเข้าไปได้ นางก็ไม่พบพ่อบุญธรรมอยู่ดีในเพลานี้ท่านต้องอยู่ในพระราชวังแน่นอน
ทว่าขณะที่นางหันตัวกลับไปอยู่นั้น กลับมีมือหนึ่งวางบนหัวไหล่ของนาง
หนิงเจิงตัวแข็งทื่อ หันกลับไปพบสีหน้าตกใจของเฮ่อเหวินจง
หนิงเจิงตกใจกว่าเขา “วันนี้ข้าเกิดเรื่องเล็กน้อยเดินไปเดินมาก็มาถึงที่นี่แล้ว แล้วท่านล่ะ เหตุใดจึงออกมาจากพระราชวังแล้ว”
หนิงเจิงครุ่นคิด “ดูเหมือนว่าข้า…
คำพูดของนางดูลังเลทว่าด้วยการที่เฮ่อเหวินจงตามติดข้างกายฮ่องเต้เป็นเวลาหลายปีจึงมีทักษะการสังเกตที่เยี่ยมนัก “ระดูหรือ”
หนิงเจิงพยักหน้าเขินอาย
เฮ่อเหวินจงโล่งใจ อดไม่ได้ที่จะจ้องนาง
ถึงแม้หนิงเจิงจะลังเล แต่ในใจกลับมีความสุข
ตามเฮ่อเหวินจงกลับไปในห้อง แล้วนอนพักอยู่บนเตียงนอนของตนเองอยู่นานทำให้นางผ่อนคลายไปไม่น้อย
หมอหลินที่พ่อบุญธรรมเชิญมาเป็นหมอที่มีวิชาแพทย์ชั้นสูงไม่เพียงแต่ฝังเข็มให้นาง เพื่อไม่ให้นางเจ็บปวดไปมากกว่านี้ แต่ยังออกยาให้กับนางเพื่อบรรเทาระดูของนาง
ดึกดื่น หนิงเจิงก็นอนหลับลึกไปแล้วในที่สุด
การนอนหลับที่สบายนี้ดำเนินการอยู่นานดังนั้นเมื่อนางตื่นขึ้นมาในอีกวันก็เป็นเพลากลางวันแล้ว
หนิงเจิงกล่าวไม่ดีอยู่ในใจ
โดยเฉพาะเมื่อนางกลับถึงจวนรีบไปที่สวนด้านหลัง แล้วพบว่าจ้าวกงกงและหัวหน้าองครักษ์จี้ทั้งสองคนมองนางด้วยสายตาริบหรี่นางจึงรู้สึกว่าตนต้อง…ตายแน่ๆ
หนิงเจิงชี้ไปด้านในห้อง “จ้าวกงกงไท่จื่ออยู่ด้านในหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
สายตาจ้าวซู่ซับซ้อน “อยู่น่ะอยู่แต่ทว่า…”
เขาพูดไปเพียงครึ่งหนึ่งก็ถูกจี้หลิวเฟิงขวางไว้
จ้าวซู่สายตาแปลกประหลาดกว่าเดิม
แต่ว่าหนิงเจิงไม่มีเวลาสนใจเขาแล้วจึงพยักหน้าแล้วเปิดประตูเดินเข้าไป
วินาทีที่ปิดประตู จ้าวซู่ก็อดไม่ได้ที่จะหันศีรษะกลับไปแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงตกใจว่า “เจ้าให้เขาเข้าไปตอนนี้หรือเจ้าบ้าไปแล้วหรืออย่างไรกันผู้บัญชาการจี้!”
จี้หลิวเฟิงเงียบไปชั่วขณะ กล่าวจริงจัง
ถามได้ดี!
สีหน้าจ้าวซู่ครึ่งเขียวครึ่งซีดเหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าหนิงเจิงไม่สามารถเข้าไปได้อย่างนั้นหรือ
แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะ…
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in