เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
องครักษ์หญิงจอมป่วนminimore
เล่ม 1 ตอนที่ 144 จูอวี้แสดงก่อน

  •  

    เซียวหนานสวินเอ่ยเสียงเรียบว่าแน่นอน

    จิ่งตี้สีพระพักตร์ยิ่งขรึมขึ้นกว่าเดิมไท่จื่อ!”

    เซียวหนานสวินสบเข้ากับสายพระเนตรไม่สบอารมณ์ของฮ่องเต้ก่อนเอ่ยปลอบว่า เสด็จพ่อ หนานจ้าวของเราเป็นแคว้นอันยิ่งใหญ่ ผลการเรียนรู้แลกเปลี่ยนความเห็นกันจะไม่สำคัญได้อย่างไรลูกแค่อยากให้ทูตเทียนจู๋ได้สัมผัสถึงความจริงใจของพวกเราพ่ะย่ะค่ะ

    แววตาเขาทั้งมั่นคงและใจเย็นแม้ว่าฮ่องเต้จะยังคงกังวลพระทัยแต่ยามนี้ให้พระองค์กลับคำก็เหมือนจะสายไปเสียแล้ว

    ดีเพคะ!” ทั่วป๋าอวี้กลัวว่าพวกเขาจะกลับคำจึงรีบเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้นะเพคะ

    เมื่อครู่ตอนที่นางเสนอการรำดาบขึ้นมาก็หมายจะทำให้องค์หญิงดื้อด้านนั่นได้รับความอัปยศอยู่แล้วให้ท่านพี่ได้เห็นว่าใครกันแน่ที่คู่ควรกับเขาแต่ยามนี้นั้น...ชาวหนานจ้าวพวกนี้มาขอความเหี้ยมโหดด้วยตัวเองเช่นนั้นนางไม่เลือกสักคนก็คงจะคุยกันต่อไม่ได้กระมัง

    ทั่วป๋าอวี้คิดมาถึงตรงนี้แววตาพลันเป็นประกายรอยยิ้มนักสังคีต!”

    เสียงเครื่องดนตรีเทียนจู๋ที่เตรียมไว้ดังขึ้นตามคำสั่งของนางเสียงดนตรีไพเราะรื่นหูค่อยๆ ดังขึ้นในตำหนักใหญ่

    ทั่วป๋าอวี้พลันหันหลังกลับ ชุดกระโปรงสีครามอมควันดุจระลอกคลื่นราวกับบุปผาดอกหนึ่งที่เบ่งบานขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ในแววตาผู้คนพลันมีความตื่นตะลึงวาบผ่าน

    มองออกเลยว่าฝีมือการร่ายรำของท่านหญิงผู้นี้ช่างเลิศล้ำไม่เป็นรองใครในเทียนจู๋เลยเพียงขยับเบาๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะเห็นทักษะการร่ายรำได้

    ทั่วป๋าอวี้แย้มยิ้มมั่นใจออกมาทางสีหน้านางกระโดดแตะพื้นเป็นระยะคลอเคล้ากับเสียงดนตรีลอยอวล ราวกับผีเสื้อสยายปีกบินงดงามและมีชีวิตชีวายิ่ง

    ดวงหน้างามของนางสุภาพเยือกเย็นท่าทางอ่อนช้อย ทุกๆ การหมุนตัวราวกับนางฟ้ากำลังเหยียบย่ำไปบนปุยเมฆ

    สมกับเป็นการร่ายรำนางฟ้าอันขึ้นชื่อของเทียนจู๋เสียจริงช่างเหมือนนางฟ้ายิ่งนัก!”

    ก็ต้องมีฝีมือการร่ายรำอันวิจิตรรเฉกเช่นท่านหญิงสิดีนี่เป็นระดับที่คนธรรมดาทั่วไปเต้นกันไม่ได้เลย!”

    แต่ว่า...จูอวี้แสดงก่อนเช่นนี้ทางพวกเราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ จะให้ท่านหญิงเลือกๆ มาจริงๆ รึ

    ...

    ประโยคสุดท้ายจบลงเสียงเหล่านั้นพลันสะดุดไป เหล่าขุนนางหนานจ้าวพากันมีสีหน้าทั้งตื่นตะลึงและกังวล

    ทั่วป๋าอวี้เห็นปฏิกิริยาของทุกคนแล้วรอยยิ้มในแววตายิ่งเบ่งบาน สิ่งที่นางต้องการก็คือผลลัพธ์เช่นนี้แหละ!

    องค์หญิงดื้อรั้นนั่นพ่ายแพ้ให้นางหมดท่ามากเพียงใดอย่างมากก็แค่ถูกฮ่องเต้ดุด่าไม่กี่ประโยคเท่านั้น แต่ถ้าหากคนธรรมดาทำเรื่องขายหน้าให้แก่หนานจ้าวต่อหน้าธารกำนัลมากมายอย่างน้อยๆ ก็ต้องโดนโบยเกือบตายกระมัง

    หึ

    ทั่วป๋าอวี้พลันเกิดความเย็นชาวาบผ่านแววตาไปนางมองไปยังทิศทางหนึ่ง

    หนิงเจิงสบเข้ากับสายตานางก่อนจะตัวสั่นขึ้นมาอย่างประหลาด

    ฝ่าบาท...พระองค์คงจะไม่เล่นงานกระหม่อมหรอกกระมัง นางพึมพำขึ้นเบาๆแต่เซียวหนานสวินก็ยังได้ยินเข้าอยู่ดี

    ทว่าไม่รอให้เขาเอ่ยขึ้นสายตาเซียวเหลียนอีก็ปรายมามองนาง หนิงเจิงข้าได้ยินว่าคราก่อนอวิ๋นกุ้ยเฟยจัดงานเลี้ยงน้ำชาขึ้น ทรงให้เจ้าเข้าวังมาแสดงการรำดาบโดยเฉพาะด้วยนี่

    แล้วอย่างไรล่ะ!

    หนิงเจิงตกใจ องค์หญิง ท่านหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ

    เซียวเหลียนอีกะพริบตาปริบๆก่อนยิ้มจางๆ ข้าแค่ถามดูเท่านั้น คนที่เล่นงานเจ้าไม่ใช่ข้าเสียหน่อย

    หนิงเจิง ...

    นางกัดฟัน จู่ๆก็มองไปยังบุรุษข้างกาย ฝ่าบาท รีบบอกองค์หญิงทีว่ามันไม่ใช่อย่างที่นางคิด

    เซียวหนานสวินสังเกตเห็นสายตาของนางคิดอย่างเรียบๆ ก็เป็นเหมือนที่เหลียนอีคิด

    ก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นขันทีน้อยบอกว่าหนิงเจิงเห็นองค์หญิงกับท่านหญิงเทียนจู๋ทะเลากันจึงได้เดินไปหาถ้าอย่างนั้นพวกนางทั้งสองฝ่ายก็คงจะต้องผูกพยาบาทกันแล้วหากท่านหญิงเทียนจู๋จะเลือกคนล่ะก็ ย่อมเลือกคนที่คุ้นตาก่อนเขาปฏิเสธแทนเซียวเหลียนอีอย่างอ้อมๆ ไปแล้วเช่นนั้นก็เหลือเพียงหนิงเจิงคนเดียวแล้วล่ะ

    เซียวหนานสวินเบนสายตามามองนาง เปิ่นกงแค่ให้ท่านหญิงเทียนจู๋เลือกเอาตามใจชอบส่วนเรื่องต่อจากนี้ก็ไม่ใช่เปิ่นคงเป็นคนตัดสนใจแล้ว

    หนิงเจิง “???”

    นางพลันมีปฏิกิริยาขึ้นตนโดนเล่นงานเข้าเสียแล้ว!

    นางหยุดเว้นก่อนจะกัดฟันอย่างตกใจและเดือดดาลกระหม่อมเป็นบุรุษพระองค์จะให้กระหม่อมไปร่ายรำได้อย่างไร

    เซียวหนานสวินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเดิมทีการรำดาบก็เป็นการร่ายรำที่ไม่จำกัดเพศอยู่แล้วเจ้ารู้แก่ใจยังจะถามอีกรึ

    ยิ่งไปกว่านั้นนางเป็นบุรุษหรือไม่นางรู้ดีอยู่แก่ใจ!

    แล้วเหตุใดพระองค์ไม่รำเองเล่า!” หนิงเจิงมองอย่างโมโห

    ... เซียวหนานสวินโมโหขึ้นมา เขาพบว่าสตรีนางนี้ชักจะโอหังขึ้นเรื่อยๆ แล้วนึกไม่ถึงว่าจะกล้าเอ่ยกับเขาเช่นนี้

    พี่รองของข้ารำไม่เป็นนี่ เซียวเหลียนอีโพล่งสอดขึ้น นางยิ้มตาหยีเอ่ยว่า อีกทั้งประเด็นก็คือท่านหญิงเทียนจู๋ก็ไม่มีทางเลือกพี่รองข้าด้วย

    หนิงเจิง ...

    ใครก็ได้มาตัดหัวสองคนพี่น้องนี่ให้นางที!

    ไอ้พวกแซ่เซียวนี่ไม่มีคนดีเลยสักคน!!!

    ความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นเสียงดนตรีในตำหนักใหญ่ก็พลันหยุดลง ทั่วป๋าอวี้ร่ายรำท่าสุดท้ายอย่างการกระโดดค้อมตัวเสร็จสิ้นจากนั้นการร่ายรำนางฟ้าก็สิ้นสุดลง

    ทันใดนั้นเสียงปรบมือก็ดังกระหึ่มตำหนักใหญ่ทันที

    เยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

    ทั่วป๋าอวี้ได้ยินเสียงชื่นชมของทุกคนก็แย้มยิ้มมั่นอกมั่นใจและสง่างามออกมาช่างเหมือนนางฟ้านางสวรรค์เสียจริง

    ฝ่าบาท หม่อมฉันแสดงความไม่เอาไหนให้ทอดพระเนตรเสียแล้ว

    จิ่งตี้ร้องแย้งขึ้น ท่วงท่าร่ายรำของท่านหญิงช่างยอดเยี่ยมวิจิตรไม่เป็นรองใครในเทียนจู๋จริงๆ

    ทั่วป๋าอวี้ยิ่งยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมแต่แววตากลับเป็นประกายทะมึนขึ้น ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงชื่นชมเพคะเช่นนั้น...ยามนี้ข้าก็เลือกคนรำจากหนานจ้าวได้แล้วกระมัง

    เสียงปรบมือของทุกคนพลันชะงักไป

    จิ่งตี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยหยุดเว้นไปครู่หนึ่งจึงพยักหน้าตรัสว่า แน่นอนสิ

    ข้าเลือก... ทั่วป๋าอวี้พลันหันหลังแล้วชี้ไปทางหนึ่ง เขา!”

    ทุกคนต่างมองตามนิ้วนางอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย...

    เซียวหนานสวินกับเซียวเหลียนอีสีหน้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยแต่หนังตาหนิงเจิงกลับกระตุกยิกๆ

    เมื่อเทียบกับนางแล้วคนอื่นอาการหนักกว่าพอเห็นทั่วป๋าอวี้ชี้มาที่นางทั่วทั้งตำหนักใหญ่ก็พลันฮือฮาขึ้นมาทันที!

    สวรรค์ ท่านหญิงผู้นี้ก็ช่างชี้เป็นยิ่งนัก แค่ชี้ๆไปก็ไปโดนเอาบุรุษคนดังของพวกเราเสียได้!”

    องครักษ์หนิงจะไหวรึ

    เห็นเมื่อก่อนเขาเจอปัญหายากๆ เพียงใดก็สามารถคลี่คลายมันมาได้เช่นนั้นกับการรำดาบนี้ก็น่าจะ...

    ฝันอยู่รึคลี่คลายปัญหากับการร่ายรำมันเกี่ยวอะไรกันตรงไหนน่ะ นี่มันต้องฝึกฝนตั้งแต่เด็กๆเชียวนะ

    ก็นั่นน่ะสิ เจ้าดูไท่จื่อของพวกเราสิ ทรงฉลาดปราดเปรื่องเพียงนี้พระองค์ร่ายรำดาบเป็นซะที่ไหน

    ...

    ทุกคนพูดมาถึงประโยคสุดท้ายก็พากันส่ายหน้าทอดถอนใจ

    แม้ว่าจะมีส่วนน้อยที่ยังฝากความหวังไว้กับหนิงเจิงแต่คนส่วนใหญ่ต่างรู้ว่าสถานการณ์ยามนี้มันคิดในแง่ดีได้ยากนัก!

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in