ฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นหัตถการที่ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการปรับทรงจมูกให้ดูมีมิติ แต่ไม่สะดวกหรือยังไม่พร้อมกับการผ่าตัดศัลยกรรม บทความนี้จะอธิบายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูกในแง่วิชาการ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นการใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ฉีดเข้าไปที่บริเวณต่าง ๆ ของจมูก เช่น สันจมูก ปลายจมูก หรือรอยต่อระหว่างดั้งและหน้าผาก เพื่อ ปรับรูปทรงของจมูกให้ดูโด่งขึ้น มีมิติมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนหรือมีการผ่าตัดใด ๆ
ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังทำ และสามารถอยู่ได้นานตามชนิดของฟิลเลอร์และพฤติกรรมของผู้รับบริการ
สารฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ คือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่สร้างเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว ฟิลเลอร์ HA ที่ใช้ทางการแพทย์จะผ่านกระบวนการสังเคราะห์และควบคุมความหนาแน่นเพื่อให้เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก หรือใช้งานในตำแหน่งต่าง ๆ
ในกรณีของการฉีดจมูก มักใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง หรือเนื้อแน่นระดับกลางถึงมาก เพื่อให้สามารถขึ้นทรงและคงรูปได้ดี
ฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะกับ
คนที่จมูกแบนเล็กน้อย หรือมีรอยบุ๋มที่อยากเติมให้ดูเรียบขึ้น
คนที่อยากให้จมูกดูโด่งขึ้นนิดหน่อยแบบเป็นธรรมชาติ
คนที่ไม่สะดวกผ่าตัด หรือไม่มีเวลาพักฟื้น
คนที่มีเนื้อจมูกพอสมควร ทำให้ฟิลเลอร์ขึ้นรูปได้ดี
ฉีดฟิลเลอร์จมูก ไม่เหมาะกับ
คนที่อยากให้จมูกเปลี่ยนทรงแบบชัดเจน เช่น อยากได้จมูกพุ่งมาก
คนที่มีเนื้อจมูกบางมาก อาจเสี่ยงต่อการบวมผิดปกติหรือทะลุ
คนที่เคยแพ้ฟิลเลอร์ หรือมีประวัติติดเชื้อหลังฉีดมาก่อน
การฉีดฟิลเลอร์จมูกสามารถทำได้ในหลายจุด โดยขึ้นอยู่กับลักษณะของจมูกและผลลัพธ์ที่ต้องการ ได้แก่
บริเวณสันจมูก : เพื่อให้ดูโด่งขึ้น
ระหว่างหัวคิ้วถึงดั้ง : ปรับให้ทรงจมูกดูสมดุลกับหน้าผาก
ปลายจมูก : บางเคสอาจใช้ฟิลเลอร์ช่วยปรับปลายให้ดูละมุนขึ้น (ต้องประเมินโดยแพทย์ก่อนทุกครั้ง)
ข้อดี
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล
เห็นผลทันทีหลังฉีด
พักฟื้นน้อยหรือแทบไม่ต้องพักฟื้นเลย
หากไม่พอใจสามารถฉีดสลายได้
ข้อจำกัด
ไม่สามารถยืดหรือปรับกระดูกได้เหมือนการศัลยกรรม
ฟิลเลอร์มีอายุการใช้งาน ไม่ถาวร
ความเสี่ยงต่อการอุดตันเส้นเลือด หากฉีดผิดตำแหน่ง
แม้จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ การฉีดฟิลเลอร์จมูกมีความเสี่ยงอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณจมูกซึ่งมีเส้นเลือดเชื่อมโยงกับดวงตา หากฉีดผิดตำแหน่งหรือฉีดเข้าเส้นเลือด อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ เช่น ตาบอดหรือเนื้อตาย
ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่มีความรู้ด้านกายวิภาคจมูก และมีประสบการณ์ในการฉีดจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
โดยเฉลี่ย ฟิลเลอร์จมูกจะอยู่ได้นาน ประมาณ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ ความหนาแน่น ปริมาณที่ฉีด และการดูแลหลังทำ เช่น
หลีกเลี่ยงการสัมผัสร้อนจัด เช่น ซาวน่า
งดนวดหรือกดจมูกแรง
ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัว
งดจับ บีบ กด หรือนวดจมูก 1 สัปดาห์
งดกิจกรรมที่มีความร้อน เช่น อบไอน้ำ 1 สัปดาห์
ดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณ 1.5-2 ลิตร/วัน
หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ หรือนอนตะแคงทับด้านที่ฉีด
หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก ช้ำมาก ควรพบแพทย์ทันที
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in