“Anyone can betray anyone”

“Rise, red as the dawn”

“The truth is what I make it. I could set this world on fire and call it rain.”

นวนิยายแฟนตาซีว่าด้วยการแบ่งแยกชนชั้นจากสีเลือด เลือดสีเงินคือฝั่งขุนนางและราชวงศ์ ผู้ปกครองอาณาจักรและชนชั้นสูง มีสิทธิ เสรีภาพ และอำนาจเหนือฝั่งทาสและชนชั้นต่ำที่มีเลือดสีแดง ที่ต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อมีชีวิตรอดในสังคมที่เต็มไปด้วยการถูกกดขี่ 

ที่พิเศษไปกว่านั้นคือเลือดสีเงินเกิดมาก็จะมีความสามารถพิเศษเหนือธรรมชาติแต่งต่างกันไปตามตระกูล Whisper สามารถอ่านใจและควบคุมฝ่ายตรงข้ามได้ Strongarm มีพลังกายเหนือกว่าคนอื่น Magnetron สามารถสั่งการเหล็กได้ และอีกมากมายหลายสิบความสามารถ 

Mare ตัวเอกเป็นลูกสาวคนโตอายุ 17 (แต่เป็นลูกคนกลางๆในครอบครัว) ที่ไม่ได้มีความสามารถพิเศษใด ๆ เลยทำให้เธอคอยวิ่งราวไปมาตามท้องถนนด้วยความชำนานเพราะทำมาตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งที่บ้านก็ไม่ได้ชื่นชมอะไรนักหรอกเพราะน้องสาวเธอดันเก่งเรื่องการเย็บปักถักร้อย ก็เลยสามารถไปทำงานหาเงินมาจากในเมืองได้ ในขณะนั้นที่โลกกำลังมีสงคราม จึงมีกฎข้อนึงขึ้นมาว่า เมื่อเด็กเลือดสีแดงอายุครบ 18 โดยที่ไม่มีงานทำเป็นกิจลักษณะ จะต้องถูกส่งไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทหารสงครามในแนวหน้า ว่าง่ายๆก็คือส่งไปสู้และตายแทนชนชั้นขุนนางนั่นแหละ ตัว Mare เองก็เตรียมตัวเตรียมใจแล้ว แต่เพื่อนสนัทเธอดั๊นตกงานไม่กี่วันก่อนจะอายุ 18 ได้ไม่กี่วัน ระหว่างที่หาทางหนีก็จับพลัดจับผลู ได้ไปทำงานในวัง ค้นพบความลับเกี่ยวกับตัวเองซะงั้น 

Rate: 4/5

การดำเนินเรื่องเล่มนี้เราจะเห็นความคิดการกระทำผ่านสายตาของ Mare ล้วน ๆ บรรยายชัดเจนจนเหมือนไปนั่งอยู่ในหัวแมร์แล้วมองผ่านตาเลย ส่วนตัวแอบคิดว่าพอตอนใกล้จะจบแล้วเน้นความรู้สึกของแมร์มากไปซักนิด ไม่แน่ว่าอาจจะเป็น hint ไปต่อเล่มสองรึเปล่าด้วย 

-เนื้อหามีการสปอยล์เล็กน้อย-

เนื้อเรื่องสะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำทั้งเล่มเลย ทั้งการโดนกดขี่ โดนกีดกัน รวมไปถึงการแสดงอำนาจโดยการบังคับขู่เข็ญให้แสดงความเคารพ เราชอบประโยค “The truth is what I make it. I could set this world on fire and call it rain.” มาก อ่านแล้วเหมือนโดนตีหน้า รวมถึงประโยคที่ย้ำทั้งเรื่องเลยว่า “Anyone can betray anyone” เวลาเห็นประโยคนี้ละจะรู้สึกเหมือนเห็นแมร์เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ 

แน่นอนค่ะว่าพอได้รับรู้เนื้อหาจากตัวเอกคนเดียวแบบนี้ ก็โดนหลอกเข้าไปเต็มเปาเลยค่า อกหักหนัก ๆ เลยตอนเฉลยปม ซึมจนอ่านต่อไม่ไหว55555555555 

เรื่องนี้เป็นแฟนตาซีเรื่องแรกที่อ่าน เพราะว่าจำได้ว่าเคยเห็นเพื่อนถือเล่มนี้สมัยมอปลาย แล้วจากรีวิวเค้าก็ว่าดีกัน ประจวบเหมาะว่าไปเจอที่ร้านหนังสือพอดี ก็เลยสอยมาเป็นเล่มเปิดให้ genre นี้ซักหน่อย เรียกได้ว่าไม่ผิดหวัง อ่านจบแล้วก็สั่งเรื่องอื่นมาทันทีทันใด แฟนตาซีกลายเป็น genre โปรดไปซะแล้ว

ใครที่กำลังอยากอ่านแนวแฟนตาซีแต่ไม่รู้จะเลือกเล่มไหนดี แนะนำเริ่มที่เล่มนี้ได้เลยนะคะ ภาษาอ่านไม่ยาก เนื้อเรื่องก็ชวนให้ติดตามเรื่อย ๆ อ่านแล้วติดใจแน่นอน!