เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แล้วชีวิตปกติสุขของผมก็หายไปuryd1999
บทนำ
  •                 “เมี๊ยว...”
                    “ขออีกห้านาเท...”
                    “เมี๊ยว...”
                    “ZZzzZZ”
                    “ง๊าว...”
                    แมวสีขาวสะอาดตาตัวอ้วนตุขนพอง เริ่มเปลี่ยนจากการร้องเป็นการขู่มันเดินต้วมเตี้ยมไปรอบเตียงนอนของเจ้าของอย่างองอาจ
                    “ง๊าว!!!”
                    “โอ๊ะๆๆตื่นแล้วๆ โอ๊ย วิคตอเรียเลิกข่วนสักที โอ๊ย...”เจ้าของสะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันทีที่เจ้าเหมียวอ้วนกระโดดตะครุบศรีษะของเขาเจ้าแมวอ้วนวิคตอเรียเลียอุ้งเท้าตัวเองอย่างสงบหลังจากได้ทำภารกิจประจำวันของตัวเองเสร็จสิ้นไปแล้ว
                    “ขอบคุณที่ปลุกนะคุณวิคตอเรีย”ผู้เป็นเจ้าของหาวหวอดพลางพูด ก่อนจะลูบหัวแมวอ้วนสองสามทีและลุกไปจากเตียง


     
                    “อ่า...มื้อเช้าวันนี้เป็นอาหารเม็ดไปก่อนนะคุณวิคตอเรียเดี๋ยวตอนเย็นจะทำสเต็กปลาให้เลย” ชายหนุ่มใบหน้างุ่นง่าน เหมือนคนง่วงนอน ทั้งๆที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับไปโรงเรียนดูเหมือนการอาบน้ำจะไม่ทำให้เขาสดชื่นขึ้นเลย เขาสวมชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนเอกชนซึ่งเป็นสีกรมท่าปนสีดำ ซึ่งเป็นชุดสูทที่ดูดีในระดับหนึ่งเมื่อเข้ากับหุ่นสูงร้อยแปดสิบแปดของชายคนนี้ ก็ถือว่าดูดีแต่คงต้องตัดใบหน้าอันเบื่อโลกของเขาไปเสียก่อน
                    “แล้วก็นี่น้ำนะ คุณวิคตอเรีย ถ้ากินอาหารเสร็จแล้วต้องกินน้ำตามด้วย เข้าใจไหม”
                    “ง๊าว...”แมวอ้วนตุที่กำลังซัดอาหารเม็ดอยู่ เงยหน้าขึ้นมาตอบรับเจ้านายสุดที่รัก
                    “ทำเป็นดุนะคุณถ้าป่วยเพราะร่างกายขาดน้ำจะทำโทษให้เข็ด”ชายหนุ่มดุคุณวิคตอเรียก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าที่ห้องนั่งเล่นไม่วายจะกลับมาบอกลาสัตว์เลี้ยงและออกจากบ้านไป            
                    เด็กหนุ่มหน้าตาหดหู่ ที่ชีวิตดูหดหู่ไปด้วย เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงผอมกระหรอง ผมสีดำสนิท ทำให้ดูจืดชืดและแสนจะธรรมดาแต่นัยน์ตาของเขากลับพิเศษและชวนให้สงสัย นัยน์ตาข้างซ้ายของเขาเป็นสีน้ำตาลเข้มแต่นัยน์ตาข้างขวากลับเป็นสีน้ำเงินเข็ม นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับสเวน ควินน์เพราะเขารู้ดีว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น เขาเคยเห็นรูปถ่ายของแม่ ซึ่งแม่ของเขาก็มีตาสองสีเช่นเดียวกันมันเป็นอาการที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมอย่างหนึ่ง เรียกอาการ Heterochromia iridum ถ้าลักษณะเด่นนี้มันเกิดขึ้นกับใครสักคน คนๆ นั้นก็จะโดดเด่นและดูน่าสนใจขึ้นมาทันทีแต่พอมันเกิดขึ้นกับสเวน ควินน์คนนี้แล้วล่ะก็มันทำให้เขาเป็นไอ้ประหลาดและน่ากลัว



                    โรงเรียนมัธยมชารอน
                    เดินมาสักพักสเวนก็ถึงที่หมายเขามาถึงโรงเรียนที่มาทุกๆ วัน และไม่อยากจะมาเลยสักนิดสเวนสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะก้าวขาเข้าไปในโรงเรียนเขาไม่ได้รีบวิ่งเข้าไปในโรงเรียนเหมือนกับคนอื่นๆ แม้ว่ามันจะสายแล้วแต่สเวนก็ยังไม่รีบ เพราะเขาไม่มีเหตุผลที่ต้องรีบวิ่งนี่นา
                    “นายมาสายอีกแล้วนะชื่ออะไร ห้องไหนนะ” กรรมการนักเรียนที่เจอกันทุกๆ วัน ก็ยังจำชื่อของเขาไม่ได้เลยสเวนคิดขบขันในใจ นี่อาจจะไม่แปลก แต่เพื่อนในห้องก็เช่นกัน พวกเขาจำสเวนไม่ได้
                    “สเวนควินน์ ม.5/3”
                    “ไปวิ่งรอบโรงเรียนสองรอบแล้วก็ขึ้นห้องเรียนได้” กรรมการคนเดิมบอกแค่นั้นก่อนจะโบกมือไล่สเวนรู้จักกรรมการนักเรียนคนนั้นนิดหน่อย เพราะเคยได้ยินเพื่อนของเขาเรียกชื่อสเวนมักจะสังเกตทุกๆ อย่าง ในขณะที่ไม่มีใครสังเกตตัวเขาเลย
                   
                    สเวนเดินขึ้นห้องเรียนโดยไม่วิ่งรอบโรงเรียนแม้แต่รอบเดียวเพราะไม่มีใครรู้หรอก ว่าเขาจะวิ่งหรือไม่วิ่งและต่อให้เขาไม่วิ่งก็ไม่มีใครเดือดร้อนอะไรเลยสักคน ห้องม.5/3 เป็นห้องที่อยู่ชั้นล่างสุดทำให้ไม่ต้องเสียเวลาขึ้นบันได สเวนเดินเข้าไปในห้องขณะที่อาจารย์กำลังสอนอยู่เขาพูดขออนุญาตกว่าสามครั้งแต่ไม่มีครั้งไหนที่อาจารย์ตอบรับเลยอาจารย์คงจะสอนเมามันส์เกินไป เขาเดินไปนั่งโต๊ะหน้าสุด ติดริมหน้าต่างปกติพระเอกมักจะนั่งหลังสุดริมหน้าต่างใช่ไหม แต่สเวนมันก็แค่คนมืดมนไร้ตัวตนไม่ใช่พระเอกซักหน่อย
                    .
                    .              
                    .
                    เวลาผ่านไปช้าๆคาบเรียนแต่ละคาบเหมือนสลอตที่เดินผ่านหน้าเราไป
                    .
                    .
                    .
                    เวลาเลิกเรียนมาถึง สเวนที่ตั้งใจมาตลอดทั้งวันเขาตั้งใจที่จะฟุบหลับอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ตัวเองไปก่อกวนใครโดยไม่ตั้งใจ
                    “หัวหน้าฝากเอานี่ไปให้สเวนหน่อยดิไม่กล้าว่ะ น่ากลัวยังไงไม่รู้ กลัวแม่งจะพานี่วาร์ปไปดาวนาเม็กคนอะไรอย่างกับหลุมดำ”
                    “อะไรอ่ะก็เอาไปให้เองดิ”
                    เสียงบทสนทนาที่แว่วมาเข้าหูนานๆ ทีจะมีคนพูดถึงสเวนก็อดจะดีใจไม่ได้ แม้มันจะไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลยก็เถอะอย่างน้อยมันก็ยืนยันได้ว่าเขายังมีตัวตนอยู่
                    “สเวน...”
                    “เจสสิก้าเองหรอว่าไง มีธุระอะไร จะให้ช่วยอะไรหรือให้ทำอะไรอีก” ความตื่นเต้นหรืออะไรก็ไม่รู้สเวนโพล่งออกไปทันทีที่เจสสิก้าผู้เป็นหัวหน้าห้องเขามาทักนี่เป็นครั้งแรกของวันที่มีคนเข้ามาคุยกับเขา
                    “เอ่อ...ก็ไม่ได้อยากรบกวนอะไรมากนะแต่คือว่า อันนี้เป็นใบสำรวจข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนน่ะ ทุกคนต้องกรอกแล้วก็ตอนนี้เหลือแค่สเวนที่ยังไม่ได้กรอกเพราะเพื่อนที่รับผิดชอบลืมแจกแบบฟอร์มให้นายน่ะ”
                    “อ่ออืม เสร็จพรุ่งนี้” สเวนตอบแค่นั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปทันทีเขารู้สึกไม่ค่อยดีที่มักจะเกิดเรื่องแบบนี้เสมอ เขาจะถูกลืมโดยใครสักคนแม้จะเป็นบ่อย แต่ก็ไม่ชินสักทีอีกอย่างสเวนนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบไปทำสเต็กปลาให้คุณวิคตอเรีย
                    “คนบ้าอะไรวะรังสีอัมหิตโคตรแรง” เจสสิก้าหัวหน้าห้องกุมหน้าอกพลางสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้า


     
                    เมื่อถึงบ้านสเวนเลือกที่จะกรอกใบข้อมูลนักเรียนที่เจสสิก้าให้มาก่อนที่จะทำอย่างอื่นเพราะเขาไม่อยากลืมในสิ่งที่คนอื่นบอกให้ทำ
                    เมื่อกรอกไปสักพักสเวนก็มีปัญหาขึ้นมานิดหน่อย เมื่อเขาไม่รู้ว่าจะกรอกชื่อใครลงไปในช่องเพื่อนสนิทในเมื่อเขาไม่สนิทกับใครเลยสักคนจะเรียกว่าเพื่อนยังไม่ได้ด้วยซ้ำที่เคยคุยกันก็มีแค่เจสสิก้าที่คอยบอกให้ทำนู่นนี่ตามหน้าที่หัวหน้าห้องคนอื่นไม่เคยคุยกันเลย แค่สเวนเดินเฉียดเข้าไป พวกเขาก็ถอยออกแล้วแต่ทว่าจะใส่ชื่อเจสสิก้า ก็กลัวจะทำให้เธอลำบากใจที่ต้องมีเพื่อนสนิทเป็นคนมืดมนเช่นนี้สเวนคิดหนักจนสุดท้ายก็ติดสินใจใส่ชื่อคุณวิคตอเรีย...
                   


                    “คุณวิคคุณวิคตอเรียอยู่ที่ไหนเอ่ย...” สเวนขมวดคิ้วเป็นปม สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่เลี้ยงคุณวิคตอเรียมา ไม่มีครั้งไหนที่คุณวิคหายไปเช่นนี้ทุกครั้งก็เสนอหน้ามาก่อนจะให้เรียกเสียอีก สเวนเดินหาทั่วบ้านบ้านสไตล์โมเดิร์นหลังนี้มีแค่สเวนและคุณวิคตอเรียอาศัยอยู่ ไม่มีใครคนอื่นและเป็นไปไม่ได้ที่คุณวิคตอเรียจะหายไป
                    แต่ถึงกระนั้นไม่ว่าจะหาที่ไหนก็ไม่เจอ
                    ปริ้น~ปริ้น ปริ้น~
                    เสียงแตรรถมอเตอร์ไซด์ทำให้สเวนที่กำลังหูตาเหลือกตั้งสติได้เขาออกไปดูหน้าบ้านว่ามีใครมา ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผิดปกติเพราะบ้านหลังนี้ไม่เคยมีใครมาหรอก ก็สเวนไม่รู้จักใครนี่ เพื่อนยังไม่มีเลย
                    “รับพัสดุคร้าบ~”เสียงชายหนุ่มที่กำลังคร่อมมอเตอร์ไซด์คันสีแดงอยู่เขาพูดขึ้นพลางถอดหมวกกันน้อคสีแดงออก สเวนมองดูบุรุษไปรษณีย์สุดแปลกพลางขมวดคิ้ว
                    เขาเป็นบุรุษไปรษณีย์ที่สวมชุดได้ประหลาดมากเขาสวมเสื้อคลุมสีดำที่กรุยกรายดูเกะกะเหมือนคนจะไปปาร์ตี้แฟนซีมากกว่าจะไปส่งจดหมายแม้เขาจะสวมหมวกกันน็อคสีแดงเหมือนบุรุษไปรษณีย์แต่เขาก็ยังใส่ฮู้ดสีดำดูแล้วเหมือนคอสเพย์ยมทูตเสียมากกว่าอีกทั้งเจ้าบุรุษไปรษณีย์คนนี้ยังไม่สวมรองเท้าด้วย นี่มันบุคคลปริศนาหมายเลข1เป็นผู้ต้องสงสัยสุดๆ
                    “เอ่อ...คุณเป็นใครครับ”
                    “ก็ต้องบุรุษไปรษณีย์สิครับดูยังไงก็บุรุษไปรษณีย์” สเวนแทบจะเบะปากในทันที นี่มันเหมือนตรงไหนไอ้บ้านี่หลุดมาจากโรง’บาลบ้ารึเปล่าก็ไม่รู้
                    “ก็อาจจะใช่”สเวนเออออห่อหมกไปก่อน
                    “ส่วนนี่คือพัสดุของคุณสเวนควินน์นะครับ ทำตามที่กล่องบอกแล้วทุกอย่างจะโอเคครับ เชื่อโพสต์แมนคนนี้ได้เลย”ว่าจบโพสต์แมนคนแปลกก็สตาร์ทมอเตอร์ไซด์แล้วขับออกไปทันทีเหลือทิ้งไว้และแค่ความงงงวยของสเวน
     


                    ‘คนสำคัญของคุณหายสาบสูญไปใช่ไหมมาที่นี่แล้วคุณอาจจะได้พวกเขาคืนไป’
                    เวรละ ไอ้บุรุษไปรษณีย์มันลักพาตัวแมว

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in