ฮัดช่า! มาแล้ววววววว จริงๆตั้งใจเขียนเรื่องนี้มานานและ แต่ไม่มีเวลาจริงๆจังเสียที จนไปเที่ยวกับมาจะบรรจบครบ1ปีแล้ว ช่วงนี้ว่างๆเลยมาเขียนเพื่อบันทึกความทรงจำไว้ดีกว่า
เริ่มแรกของการไปเที่ยวครั้งนี้ ขอบอกก่อนว่าเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต ซึ่งชีวิตนี้เฉียดๆจะได้ไปอยู่หลายครั้งละ แต่ก็ติดอะไรหลายๆอย่าง จน28ปีผ่านไปก็ได้เวลาโกอินเตอร์สักที
ซึ่งประจวบเหมาะคุยกับเพื่อนสนิทว่า แก...ไปเที่ยวเกาหลีกันมะ เพราะเพื่อนคนนี้เป็นคนจุดประกายความติ่ง(เกาหลี) มาตั้งแต่ปี1 ซึ่งย้อนไปเมื่อน พศ.2549....
1ทศวรรษผ่านไป ก็ได้ตกลงปลงใจทุบกระปุกหมู เอาวะเรามาลุยจองตั๋วโปรกันดีกว่า! ใช่ค่ะรุ่นนี้ต้องตั๋วโปรเท่านั้น ฮ่าๆๆๆๆ เพื่อนก็เล็งเห็นสายการบินโลวคอสสายหนึ่งว่ามีการโปรลด 20% ก็รีบจองทันที พร้อมเพื่อนอีก2คนรวมทั้งทริปนี้เป็น4สาว ซึ่งตอนกดจองนั้นลนลานมากและแล้วก็จองได้ไฟล์ทตีหนึ่งกว่าๆ วันที่ 1 ตุลาคม 2559 จ้า
วันเดินทางไปสนามบินนั้นตรงกับวันศุกร์ที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นวันนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง เพราะมีการเตือนว่าสภาพอากาศวันนั้นฝนจะตกนะมนุษย์ แถมเป็นศุกร์สิ้นเดือนไปอีกกกก คิดว่าแค่ฝนตกตอนเลิกงานก็ถือว่าเลวร้ายแล้ว นี่ยังเป็นศุกร์สิ้นเดือนอีก โอยยยยยเปลี่ยนเป็นหวยไหม ป่านนี้รวยเละไปแล้ว ซึ่งถ้าใครจำได้วันนั้นจะมีรูปรถติดที่ติดแบบกิน นอน เติบโต แล้วจากไปบนรถนั้นได้เลยทีเดียว ไอ้เราด้วยความกังวลเลยขอลาหยุดแล้วรีบเดินทางมาตอน4โมงกว่ามาถึงสนามบินตอน 5โมงกว่าซึ่งระหว่างทางที่มานั้นท้องฟ้าก็มืดมิดเป็นระยะ มาถึงสนามบินก็รู้สึกเฟ้งฟ้างนะ ซึ่งไอ้เวลาห้าหกชั่วโมงระหว่างนี่ทำไรดีวะ คิดสิ คิดสิ
และแล้วก็ลงเอยด้วยการนั่งดูพิษสวาท คุณอุบลตอนที่ยังไม่ได้ดูไปจนจบ ฮ่าๆๆๆๆๆ เป็นการฆ่าเวลาที่ดีที่สุด ณ ตอนนั้นแล้วล่ะ นั่งไปจนทุ่มกว่าเพื่อนคนแรกก็มาถึง และสักพักเพื่อนคนที่สองก็มาถึง และรอเพื่อนคนสุดท้ายที่ต้องนั่งรถมาจากชลบุรี ซึ่งชะนีสามคนยืนลุ้นกระสับกระส่ายเหมือนจะไปชิงมงที่เวทีมิสยูนิเวิร์ส เพราะตอนนั้นห้าทุ่มกว่าแล้ว ต้องไปเช็คอินแล้ว โอ๊ยยยยยยยยยย เครียด จิกเพื่อนเป็นระยะ แกร๊!!!! อยู่ไหนโอยเครียด โอยไม่นะการไปต่างประเทศครั้งแรก ไม่นะ อินชอนเห็นอยู่รำไรแล้วววว มาเร็ววววววววว
สุดท้ายเพื่อนก็กระหืดกระหอบ เหมือนแข่งวิ่งวิบาก(ซึ่งก็วิบากจริงๆ) มันบอกว่าแทบจะขอแว๊นมอไซค์มาแล้ว แต่ฝนก็ตกไม่ขาดสาย แถมมันบอกว่าเออเราหลับด้วยแหละ เลยไปประตูสุดท้ายนู่น โอ๊ยยยย ยังมีหน้ามาหลับอีกนะมึง...
และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง ซึ่งหลังจากที่แอร์ฯ เสิร์ฟอาหาร(และไม่เข้าใจแทบทุกครั้งจะต้องมีคนกินมาม่าต้มยำกุ้งน้ำข้นบนเครื่อง หืออออจิตใจทำด้วยอะไรนี่มันตี1นะ เห็นใจเพื่อนร่วมเครื่องหน่อยจิ) ปิดไฟเรียบร้อยแล้วก็สู่ห้วงนิทราไปสักพัก อยู่ๆเครื่องก็เริ่มสั่น สั่นเป็นระยะ และเริ่มหนักขึ้นๆ บางทีก็ตกหลุมอากาศบ้าง และช็อตสุดท้ายเหมือนเล่นเครื่องเล่นที่หล่นวูบซึ่งคนทั้งลำตื่น(อย่างรู้สึกได้) เรากับเพื่อนหันหน้ามามองกันในความมืดรับรู้ได้จากแสงลางๆว่าเพื่อนตกใจมาก ในใจตอนนั้นคิดแล้วว่า เอาวะอย่างน้อยพ่อแม่ก็อาจจะสบายละ เพราะเราทำประกันเดินทางไว้.... (สมควรทำจริงๆนะทุกคนไม่เท่าไหร่เอง) และเป็นอันว่าทั้งคืนนั้นหลับๆตื่นๆทั้งคืนจนถึงสนามบินอินชอน
เมื่อลงจากเครื่องสิ่งแรกที่กลุ่มเราทำคือเดินเหมือนซอมบี้ไปห้องน้ำเพื่อแปรงฟัน จากนั้นเดินไปเข้าแถวที่ ตม.และนานมากกว่าจะถึงคิว ซึ่งก่อนไป(อีกและ) ก็ได้ข่าวว่ามีเหตุเกิดคนไทยมีปัญหาตม.เกาหลี ซึ่งจริงๆก็ได้ยินมาระหนึ่งแล้วล่ะ แต่ก่อนไปก็มีเหตุการณ์จัดไปสักดอกให้วิตกเล่นว่าๆจะผ่านไหมว๊าาาาา เพราะเราเป็นคนเดียวที่พาสปอร์ตหน้าขาว และ ง่อยภาษาที่สุดในกลุ่ม... แถมยังถูกแยกจากเพื่อนยืนคอยอีกฝั่งคนเดียว เอาสิ!!
แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เราพยายามมอง โอปป้าตม.ด้วยใบหน้าอมยิ้ม(แต่ขอบตานี่ดำมาก น่าจะหลอนมากกว่าน่ารัก) และพยายามตั้งใจฟังสุดฤทธิ์เหมือนสอบสนทนาภาษาอังกฤษ ระหว่างโอปป้าพลิกพาสปอร์ตเราไปมา เคาน์เตอร์ข้างๆ ก็โดนสอยเข้าห้องเย็นไป....
บทสนทนาระหว่าง ตม.สอบถาม(อันนี้เว่าเป็นภาษาอังกฤษเด้อ)
โอปป้า ตม. : มาเกาหลีครั้งแรกเหรอ?
เรา :ค่ะ
โอปป้า ตม. : มากี่วัน?
เรา : 4วันจ้าาาาาา
ตึ้ง!ผ่าน O_____O
อืมมมมมมมมมมมมมม เอ้าเห้ยไม่เหมือนที่อ่านไว้นี่หว่า ที่นั่งเครียดมาก็มลายหายไป และเอกสารรับรองจากที่ทำงานก็ง่อยไปเลยจ้า หลังจากนั้นเดินออกมาพร้อมแสงออร่ารอบๆตัว(คิดเอง) โซลจ๋าพี่มาแล้วววววววววววววว
จบตอน1จ้า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in