เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ต้นไม้ย้ายกระถางK4M0L
ทุกคนเคยเป็นเด็ก
  • สัปดาห์ที่2 ของการฝึกงาน

    เรา(คิดว่า)เริ่มชินกับการเรียนการสอนของโรงเรียนในระดับหนึ่งแล้ว สำหรับเราทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง ทำทุก ๆ อย่างเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา แต่เรื่องที่ยากและไม่สามารถคาดเดาได้คือการรับมือกับเด็ก ๆ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าในแต่ละวันเขาจะทำอะไรและเราต้องรับมือยังไง เพราะฉะนั้นสมองจะทำงานอยู่ตลอดเวลา



    ครั้งก่อนเราเคยเล่าว่าได้ช่วยสอนเด็ก ๆ ทำแพ โดยเริ่มจากการแบกและตัดไม้ไผ่ไว้บางส่วน พอสัปดาห์นี้ เราเลยได้เริ่มลงมือกันอย่างจริงจัง ช่วงแรก ๆ ของการมัดเชือกต่อแพค่อนข้างยากสำหรับเด็กบางคน(เราด้วย) แต่ทุกคนก็สามารถเรียนรู้และทำมันได้สำเร็จ อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เราเริ่มต่อแพทีละฝั่ง พอเริ่มทำจนชินอีกฝั่งเลยกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมานิดนึง เราตัดไม้ไผ่เพิ่มอีกนิดหน่อย เพื่อใช้ดามแพแต่ละด้านให้แข็งแรงมากขึ้น เด็ก ๆ เริ่มพลังหมด ต้องคอยเรียกบ่อยกว่าทุกครั้งให้ช่วยกันทำ ส่วนเราช่วยมัดไปมัดมาจนเจ็บมือเลย เพราะอยากให้มันแน่นมาก ๆ ตอนที่ทำแพรอบสุดท้าย มีเด็กคนนึงที่ชอบทำมาก ๆ เสนอตัวช่วยแทบจะทุกอย่าง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเริ่มมาจากตอนแรกที่เขาสนใจทำ จนถึงตอนสุดท้ายก็ยังมีพลังทำต่อ(เก่งจัง) และในที่สุดเรือของเด็ก ๆ ก็ต่อสำเร็จ!!! วันนั้นเรากลับมานอนสลบเลย เพราะเหนื่อยมากจริง ๆ แต่เด็ก ๆ คงจะเหนื่อยมากกว่า เพราะช่วยกันทำแทบจะทุกอย่าง(ครูจะสอนเขาแค่ตอนเริ่ม ต่อมาเด็ก ๆ จะช่วยกันซะมากกว่า) 

    ช่วงแรก ๆ เราทำไปเพราะต้องสอนเด็ก ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ตอนเราเห็นว่ามันเสร็จและวางไว้เตรียมเอาไปทดลอง เรากลับมองมันแทบทุกครั้งที่เดินผ่านด้วยซ้ำ(นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าภูมิใจ)


    ทุกคนกำลังช่วยกันต่อแพ


    ส่วนใหญ่รูปแบบการทำกิจกรรมที่โรงเรียนจะคล้าย ๆ เดิม เพียงแต่หมุนเวียนความรู้ให้หลากหลาย ช่วงที่ผ่านมามีครูและนักเรียนมาเพิ่ม 2 คน คนที่โรงเรียนจึงเยอะขึ้นนิดหน่อย ดังนั้นมีวันหนึ่งในสัปดาห์ที่เรากับเพื่อนได้รับมอบหมายให้ทำสื่อสำหรับเด็ก โดยที่ครูแตงโมจะคิดและแนะนำสิ่งที่จะทำ ส่วนเรากับเพื่อนก็กลับมาทำที่หอ โดยไม่ต้องไปทำงานในช่วงเช้า หน้าที่วาดส่วนใหญ่ คือของเพื่อน เพราะเราไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ถนัดวาดได้แค่บางอย่าง และช่วยระบายสีซะมากกว่า(งานนี้ได้ตัดกระดาษ ชอบมากเลย) ซึ่งเป็นภาพจิ๊กซอและการ์ดคำศัพท์ และเราได้เข้าโรงเรียนอีกทีคือช่วงตอนเที่ยง ได้เจอเด็กใหม่ 2 คน คนแรกชวนคุยเก่งมาก ๆ ตามแทบไม่ทันเลย ส่วนคนที่สองเราได้สอนคณิตเขาครั้งแรก ตอนแรกน้องไม่คุยด้วยเลย อาจจะยังไม่ชินกัน แต่พอสอนไปสักพัก เหมือนน้องเริ่มสนุกกับการนับเลข(หรือเราคิดไปเอง) เริ่มกล้าถาม กล้าคุยกับเรามากขึ้น



    สัปดาห์นี้ทำไข่ยัดไส้เป็นอาหารกลางวัน ทุกคนต้องทำจานของตัวเอง ตั้งแต่ช่วยกันเตรียมส่วนผสม ตีไข่ ทอดไข่ ใส่ไส้ ม้วน ๆ พับ ๆ ตักข้าวเอง จนออกมาเป็นอาหารที่มีรูปแบบเฉพาะตัว เพราะไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ แต่สิ่งที่ยากและต้องอดทนมากที่สุดน่าจะเป็นคนที่ทำเสร็จก่อนและต้องนั่งมองอาหาร เพื่อรอคนอื่น ๆ ทำและรับประทานอาหารพร้อมกัน ขนาดเรายืนรอทำคนท้าย ๆ ยังอดใจกับกลิ่นหอม ๆ ไม่ได้เลย(TT)


    ปอกมันหวานเก่งมาก
    ไข่ยัดไส้


    ช่วงเวลา 4 วันของการสอน เราขอสารภาพเลยว่าค่อนข้างเหนื่อยเป็นพิเศษ เพราะเด็ก ๆ เริ่มไม่ค่อยเชื่อฟังเหมือนสัปดาห์แรกแล้ว เราต้องพูดและสอนมากกว่า 2 ครั้งสำหรับเด็กบางคน แต่เราก็พยายามทำความเข้าใจเด็ก ๆ เสมอ(เพราะเราก็เคยเป็นเด็กมาก่อนนี่เนอะ) แต่สุดท้ายแล้วก็ยังค่อนข้างยากเหมือนเดิม อาจจะเพราะเราไม่ได้ดุหรือใช้น้ำเสียงที่จริงจัง เด็ก ๆ บางคนเลยอาจจะคิดว่าไม่ต้องเชื่อฟังก็ได้มั้ง แต่ถึงอย่างนั้นสุดท้ายแล้วเขาก็ยอมเชื่อฟังและทำตามได้(TT) 


    เราพยายามกลับมาคิดกับตัวเองตลอดว่าต้องทำยังไงให้เด็ก ๆ สนุกกับเพื่อน ๆ และสิ่งที่กำลังเรียนโดยที่ไม่ต้องดุหรือทำในสิ่งที่เด็กอาจจะไม่ชอบใจ แต่แล้วก็ต้องย้อนกลับไปถามว่า จริง ๆ แล้วสิ่งที่สอนนั้นเป็นเรื่องดีนะ และเพื่อน ๆ ทุกคนกำลังช่วยกันทำ ถ้าเราไม่ช่วย งานจะสำเร็จได้ยังไง ในอนาคตเราจะต้องเรียนรู้และทำงานร่วมกับคนอื่นอีกมากมาย เพราะฉะนั้น เราคิดว่าสิ่งที่เรากำลังบอกหรือเตือนเขา คือสิ่งที่จะช่วยให้เขาเรียนรู้และเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น อาจจะต้องบอกว่าเหมือนเตือนเขาให้รู้ในวันนี้ จะได้ไม่ทำในวันข้างหน้า เพราะถ้าเราไม่ช่วยแนะนำ บางครั้งเด็ก ๆ อาจจะต้องเสียใจมากกว่าตอนนี้หรือเปล่านะ(เหมือนตอนเด็ก ๆ ที่เราโดนดุ แล้วเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในเวลาต่อมามันช่วยให้เราเข้าใจอะไรเยอะมากขึ้น)


    ส่วนตัวเราไม่ได้คิดว่าตัวเองดีมากมายที่จะไปสอนหรือแนะนำอะไรใครได้หมดทุกอย่าง ดังนั้นเรายังคงต้องฝึกและเรียนรู้ในส่วนนี้ให้มาก ๆ เหมือนกัน 

















    ______________


    หลัง ๆ มานี้จะบอกตัวเองเสมอว่าให้รู้ตัวเองนะว่ากำลังทำอะไรอยู่ พยายามใช้ชีวิตให้เป็นเส้นตรง(ในแง่ที่ว่ารู้ตัวเองและมีสติ) เพราะถ้าวันไหนปล่อยตัวเองมากเกินไปจะรู้สึกเหนื่อยเป็นพิเศษ และอย่าลืมเรียนรู้เหมือนที่เด็ก ๆ เรียนรู้ เพราะเราก็เป็นคนคนหนึ่งที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ มีผิดและต้องแก้ไขเหมือนกัน อีกอย่างที่สำคัญมาก ๆ อย่าลืมตัวเอง







เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in