ดวงตะวันลาลับ รัตติกาลคลี่ครองน่านฟ้า บดบังภาพภูเขาไฟฟูจิด้านนอกกระจกใสกรุต่างผนังหลังโต๊ะทำงานที่มีชายหนุ่มร่างสันทัดในชุดสูทสีดำจับจองอยู่พร้อมกับแฟ้มเอกสารเล่มหนาหลายสิบเล่มจัดวางเป็นกองอย่างเรียบร้อย นัยน์ตาสีน้ำผึ้งหลังแว่นไร้กรอบจดจ้องยังแพตัวอักษรบนกระดาษแผ่นแล้วแผ่นเล่าสลับกับมือเรียวขาวจับปากกาตวัดไม่หยุดพัก แล้วคงทำเช่นนั้นต่อเนื่องจนกว่าเจ้าตัวจะพอใจหากประตูไม่เปิดผางออกพร้อมกับชายหนุ่มร่างเล็กผิวคล้ำคนหนึ่งพุ่งเข้ามาด้านใน
“ซาโตชิซัง ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เคาะประตูก่อน” เจ้าของห้องติงเสียงเรียบทั้งไม่ละสายตาจากแฟ้มเบื้องหน้า
“ที่ป่าเกิดเรื่องอีกแล้วครับมัตสึโมโตะซัง ต่อหน้าต่อตาพวกเขาเลย” โอโนะ ซาโตชิรายงานรัวเร็วไม่เว้นจังหวะหายใจ สบตากับผู้เป็นนายที่ถอดแว่นออกขณะลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพียงกะพริบตาก็ก้าวจากโต๊ะทำงานมาหยุดยืนตรงหน้าเขาซึ่งอยู่ห่างราวสิบเมตร
“คุณทราบเรื่องได้ยังไง”
“คุณคาวิลล์โทรบอกผมครับ”
ผู้นำพงศ์พันธุ์รัตติกาลฝั่งเอเชียถอนหายใจยาว เปรยอย่างเหนื่อยหน่ายขณะก้าวออกจากห้องทำงานไปยังลานจอดรถพร้อมคนสนิท
“ผมคิดว่าผมให้เบอร์โทรของผมไปแล้วนะ บอกชัดเจนแล้วด้วยว่ามีเรื่องด่วนอะไรเกี่ยวกับคดีนี้ให้โทรหาได้ตลอด แต่เขาก็เลือกจะโทรหาคุณ”
“คุณคาวิลล์อาจจะคิดว่ารบกวนคุณหรือเปล่าครับ” ซาโตชิแย้งพร้อมแยกยิ้มจืดเจื่อน ซึ่งเรียกมุมปากคนฟังยกขึ้นน้อยๆ แบมือรับกุญแจรถที่ลูกน้องอีกคนยื่นส่งให้อย่างนอบน้อม
“ขอบคุณมากนะครับซาโตชิซัง...แต่ผมดูออกว่าเขาไม่ชอบผม” ริมฝีปากอิ่มเปิดยิ้มบางขณะกดเปิดประตูรถด้วยรีโมทคอนโทรล ก้าวขาขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย ติดเครื่องควบอาชาเหล็กทะยานออกไปในยามราตรี
โอโนะ ซาโตชิยืนมองส่งรถสีดำปลอดจนลับตา พึมพำกับความเงียบงันโรยตัวหลังเสียงเครื่องยนต์จางหาย
“เขาไม่ชอบ เพราะเขายังไม่รู้จักมัตสึโมโตะซังของพวกเราไงละครับ”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in