เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โรงเรียนประถมฯ ผมกับวรรณ และส่วนสูงของเราเปลวเพลิง ปะทัพพิรุณ
ป.3 (1)
  • ขึ้น ป.3 ทางโรงเรียนพยายามนำระบบ “ห้องคิง” มาทดลองใช้ 

    ผมกับวรรณและเพื่อนบางส่วนจากห้อง ป.2/1 จึงถูกนำไปคละเคล้ากับเด็กเก่งๆ จากอีกสามห้องที่เหลือ แล้วรวมกันเป็น ป.3/1 ห้องเรียนของ “เด็กระดับครีม” ประจำรุ่น

    ในวัยประมาณ 9 ขวบ ผมทนแบกรับความกดดันเรื่องการเรียนเอาไว้ไม่ไหว ประกอบกับเมืองไทยกำลังตื่นเต้นกับการแข่งขันฟุตบอลโลกที่อิตาลีพอดี ตลอดเทอมหนึ่งของปีการศึกษานั้น ผมจึงแทบไม่สนใจเรียนเอาเลย 

    ช่วงเดือนแรกๆ ผมยอมอดตาหลับขับตานอน เพื่อจะได้ดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกตอนดึกๆ แล้วผมก็เริ่มบ้าเตะบอล และทำได้ดีทั้งในตำแหน่งศูนย์หน้าและผู้รักษาประตู เนื่องจากมีร่างกายสูงใหญ่กว่าเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน

    พร้อมๆ กันนั้น ผมยังหมกมุ่นอยู่กับการอ่านนิตยสารสตาร์ ซ็อคเกอร์ และการสะสมสติ๊กเกอร์นักฟุตบอลชื่อดังในสมุดภาพฟุตบอลโลก 1990

    ทั้งหมดทั้งมวลนี้ส่งผลให้ผมสอบได้อันดับ “รองบ๊วย” ของห้องคิง! 

    ผลการเรียนของวรรณไม่ตกต่ำย่ำแย่เท่าผม คือ ถึงจะสอบไม่ได้ที่หนึ่งหรือที่สอง แต่เธอก็ยังเป็น “ท็อปไฟว์” ของห้องอยู่ 

    อย่างไรก็ตาม วรรณเริ่มสนใจในกิจกรรมนอกชั้นเรียนมากขึ้น (คล้ายผมที่กำลังคลั่งไคล้เกมลูกหนัง) เช่น เวลามีงานโรงเรียน วรรณจะชอบขึ้นไปร้องเพลงและเต้นบนเวที

    เหมือนกับเรื่องผลการเรียน ผมและวรรณไม่ได้มีฐานะเป็นนักเรียนที่ตัวสูงติดอันดับ “ท็อปทู” หรือ “ท็อปทรี” ของห้องอีกแล้ว

    แม้บิ๊กจะถูกโยกไปอยู่ห้อง ป.3/3 แต่ในห้องคิง 3/1 ก็มีทั้ง “สุ” นักเรียนหญิงที่ตัวสูงที่สุดในระดับชั้น (และเผลอๆ จะเป็นนักเรียนที่ตัวสูงที่สุดในชั้น ป.3 เสียด้วยซ้ำ) ที่สูงกว่าผมและวรรณประมาณ 3-4 เซนติเมตร แถมยังมีแป้งกับ “เพลิน” ที่ตัวสูงกว่าพวกเราอยู่ประมาณ 1-2 เซนติเมตรเห็นจะได้ 

    ตอน ป.3 เทอมแรก ผมกับวรรณยังตัวสูงเท่ากันเช่นเดิม แต่จากที่เคยเป็นอันดับ “สองร่วม” เมื่อปีก่อน ในปีนั้น เราต้องตกลงมาเป็นลำดับที่ “สี่ร่วม” ในการจัดอันดับอันมีสุ แป้ง และเพลิน รวมอยู่ด้วย

    ถึงผมจะรู้สึก “เฟล” นิดๆ ที่อยู่ดีๆ ก็มีเพื่อนผู้หญิงร่วมห้องตัวสูงกว่าตนเองมากมายถึงสามราย ทว่า การขาดหายไปของบิ๊ก ก็ช่วยผลักดันให้ผมได้ยึดครองสถานะพิเศษที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน นั่นคือ การเป็นนักเรียนชายที่ตัวสูงที่สุดในห้อง

    หากพิจารณาเฉพาะบริบทของการยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ ผมจึงโชคดีกว่าวรรณพอสมควร เพราะในขณะที่ผมได้ขยับขึ้นมายืนเป็น “หัวแถว” ของนักเรียนชาย วรรณซึ่งเคยเป็น “หัวแถว” ของนักเรียนหญิงห้อง ป.1/1 และ ป.2/1 กลับต้องไปยืนเป็น “หมายเลขสี่” ของนักเรียนหญิงห้อง ป. 3/1

    ระหว่างเรียนชั้น ป.3 ผมจึงได้ออกไปเป็นตัวแทนเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา นำร้องเพลงชาติ นำสวดมนต์ และนำกล่าวปฏิญาณตนคู่กันกับสุ ในฐานะนักเรียนชาย-หญิงที่ตัวสูงที่สุดของห้อง

    แม้เวลายืนทำกิจกรรมร่วมกัน ผมจะตัวเตี้ยกว่าสุอย่างขาดลอย แต่อย่างน้อย ผมก็ได้ออกไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนห้อง ผิดกับวรรณ ผู้เคยทำหน้าที่นี้มาสองปีติดต่อกัน ซึ่งต้องถอยห่างออกไปเป็นเพียงคนยืนดู 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in