ขึ้น ป.6 มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับรูปแบบการจัดแบ่งห้องเรียนอีกครั้งหนึ่งเพราะข้อจำกัดทางด้านสถานที่ ดังนั้น จากที่เคยแยกเด็กออกเป็นสี่ห้องตั้งแต่ ป.1-5 จำนวนห้องก็ถูกยุบรวมเหลือแค่สาม
ผมยังคงปักหลักอยู่ห้อง 1 เหมือนกับวรรณที่ปักหลักอยู่ห้อง 2 แต่ในห้อง 1 ผมต้องย้อนกลับมาเจอเพื่อนผู้หญิงตัวสูงอันดับต้นๆ ของระดับชั้น คือ สุ แป้ง และเพลิน อย่างพร้อมหน้ากันอีกหน
เมื่อทราบรายชื่อเพื่อนร่วมห้องตอนก่อนเปิดเทอม ผมก็แทบไม่อยากไปโรงเรียน เนื่องจากพอคาดเดาได้ว่าสถานะของตนเองคงจะต้องตกลงไปเป็นนักเรียนที่สูงอันดับ “สี่” ของห้อง โดยมี “สามสาวร่างยักษ์” ยืนค้ำหัวอยู่
แต่เอาเข้าจริง ถึงผมถูกโยกไปอยู่ห้อง 6/2 สถานะก็คงไม่ดีขึ้นมากนัก หรืออาจแย่ลงด้วยซ้ำ เพราะห้องนั้น มีทั้งบิ๊ก วรรณ มิ้ง และแจน ที่ตัวสูงกว่าผม
ถ้าผมได้อยู่ห้อง 6/3 ก็คงวิเศษสุด เพราะจะมีเพียงปอรายเดียว ที่ตัวสูงเหนือผม
ครั้นพอถึงวันเปิดเทอม สิ่งที่ช็อกความรู้สึกผมจริงๆ กลับไม่ใช่การต้องตกเป็นเบี้ยล่างของเพื่อนๆ ร่างโย่งหน้าเดิมเหล่านั้น
หากเป็นข้อเท็จจริงประการอื่น
นั่นคือ บรรดาเพื่อนผู้หญิงนับสิบคนที่เคยตัวเตี้ยกว่าผมอยู่ 3-5 เซนติเมตร ต่างเจริญเติบโตขึ้นอย่างผิดหูผิดตา จนมีรูปร่างสูงยาวผิดแผกจากเมื่อปีก่อน (จริงๆ แค่ 2-3 เดือนก่อน) ลิบลับ!
ในห้อง 1 สุตัวสูงกว่าผมอยู่ราว 5 เซนติเมตร แป้งกับเพลินสูงกว่าผม 3 เซนติเมตร ที่น่าแปลกใจคือ เพื่อนผู้หญิงซึ่งเคยตัวเตี้ยกว่าผมมาต่อเนื่องหลายปี อย่างน้ำแข็ง และ “กิ๊บ” กลับสูงแซงหน้าผมไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเกือบสองปีก่อน น้ำแข็งเคยเตี้ยกว่าผมถึง 2 เซนติเมตร แล้วผมก็ไม่ได้ใส่ใจเธออีกเลย กระทั่งมาพบว่าเพื่อนผู้หญิงร่างอ้วนคนนี้ตัวสูงกว่าตนเองอยู่ 2 เซนติเมตร ตอนเปิดเทอมแรกของ ป.6
เช่นเดียวกับกิ๊บ ที่ผมไม่แน่ใจและไม่เข้าใจว่าเธอมาสูงแซงหน้าผมไป 1 เซนติเมตร เอาตอนไหน?
น้ำแข็งถึงกับเข้ามาคุยข่มผมว่า หลังได้รับคำแนะนำจากคุณหมอเรื่องหลักโภชนาการที่ถูกต้องสมัยเรียน ป.4 เธอก็กลับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารและการออกกำลังกายของตัวเอง
แล้วเธอก็พิพากษาผมเสร็จสรรพว่าคงชอบกินแต่ขนมจุบจิบและอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ไร้ประโยชน์ จนต้องตกเป็นฝ่ายเตี้ยกว่าเธอ
คำดูถูกเหยียดหยามของน้ำแข็งทำเอาผมสูญเสียความมั่นใจไปอีกมากโข
ในป. 6/2 วรรณเป็นนักเรียนหญิงที่ตัวสูงที่สุดตามคาด โดยเธอยังสามารถรักษามาตรฐานความสูงของตนเองให้เท่ากับแป้งและเพลินเอาไว้ได้ กล่าวคือ เธอสูงกว่าผมอยู่ 3 เซนติเมตร
ถัดมาเป็น “มิ้ง” กับแจน สองนักกีฬาคนเก่ง ที่เตี้ยกว่าวรรณอยู่ราว 1 เซนติเมตร
หมายความว่าแจนที่ถูกโยกไปอยู่ห้อง 2 เริ่มตัวสูงหนีห่างผมเป็น 2 เซนติเมตรแล้ว จากที่เคยแซงนำผมไปแค่ 1 เซนติเมตร เมื่อภาคการศึกษาก่อน
ที่น่าทึ่ง คือ มีเพื่อนผู้หญิงอีกสองราย ได้แก่ “นุช” และ “เอ้” ซึ่งเร่งสปีดขึ้นมาจนตัวสูงพอๆ กับมิ้งและแจน
คล้ายกับกรณีของกิ๊บ ผมเกิดความงุนงงสงสัยว่านุชและเอ้มีส่วนสูงล้ำหน้าผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
นี่ยังไม่นับรวม “ก้อย” กับ “อร” เพื่อนผู้หญิงซึ่งเคยตัวเล็กกว่าผมราว 3-4 เซนติเมตร ที่ในวันเปิดเทอมแรกของ ป.6 ช่องว่างความสูงระหว่างผมกับพวกเธอทั้งคู่ ได้หดลดลงมาจนเหลือเพียง 1-2 เซนติเมตร
แม้ผมจะยังตัวสูงกว่าก้อยและอรอยู่ แต่อาจรักษาสภาพนำดังกล่าวไว้ได้อีกไม่นานนัก
ในห้อง 3 ปอยังสูงกว่าผม แต่ระยะห่างระหว่างเรากลับหดเหลือแค่ 2 เซนติเมตรเท่านั้น (เย่!)
ส่วนเก๋ เพื่อนเก่าสมัย ป. 4/1 และ 5/1 ซึ่งเคยเตี้ยกว่าผมอยู่ราว 2 เซนติเมตร ก็ขยับมาสูงเท่าผม ตรงตามวี่แววที่เริ่มปรากฏให้เห็นรางๆ ตั้งแต่เมื่อสองเดือนที่แล้ว
ด้าน “ไบรท์” “ดวง” และ “ฝ้าย” บรรดาเพื่อนผู้หญิงที่เคยตัวเล็กกว่าผมหลายเซนติเมตร ต่างก็เร่งเครื่องขึ้นมาจนไล่จี้เกือบทันผมแล้ว
เพื่อนผู้หญิงคนไหนจะเป็นรายต่อไปที่ตัวสูงแซงผม?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in