ผู้กำกับควบคนเขียนบท-สก็อตต์ แฟรงค์ค่อย ๆ สร้างผีนักเชสโซเวียตขึ้นในแต่ละอีพี
:: ep. 2 ตำนานกล่าวไว้ว่า ::
:: ep.3 เค้าว่ากันว่า ::
:: ep. 4 เจอตัวเป็นๆ ::
ทั้งนี้ไอ่ความที่แม้คนดูจะโขกหมากรุกไม่เป็น แต่รู้สึกได้ว่าแมตช์ไหนยากง่าย ฟันได้ว่าใครจะเป็นฝ่ายฟุบหมากคิงลงบนกระดานก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ “ฉลาดเล่า” เพราะอุณหภูมิบนกระดานเล่าผ่านนอกกระดานต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นเสียงกดนาฬิกาจับเวลาคู่แข่ง ความกดดันโดยเสียงเข็มวินาทีซึ่งเทคนิคนี้น่าจะคุ้นเคยกันจากหนังเรื่อง Dunkirk
อย่างไรก็ดีสิ่งที่บอกอุณหภูมิบนกระดานอย่างแข็งขันที่สุดคือสีหน้า แววตา ท่าทาง และอารมณ์ของนักแสดง ขอชมว่าผู้กำกับใช้เครื่องมือของนักแสดงคุ้มสุด ๆ แถมละเอียดมั่ก ฉากที่ไม่ได้แข่งหมากรุกก็ใช้เครื่องมือนี้ละเอียดเช่นกัน อาทิตอนที่เบ็ธเมนส์มาครั้งแรก ปากพูดว่าใส่ผ้าอนามัยเป็นแต่นางดันส่ายหัวนะจ๊ะ ซึ่งมันคืออาการของคนโกหก เออยอม
เมื่อมีสิ่งที่ชอบสุด ก็มีไม่ชอบสุด นั่นคือ male gaze เห็นชัดมากใน ep. 6 ที่ชีเบ็ธเมาแล้วใส่ชุดชั้นในลั้ลลาอยู่ในบ้านและกล้องก็ซูมแก้มก้นนางไปเลยจ้า ปี 2020 แล้วเนาะ อะไรแบบนี้เลิกได้ยังอะ
ถัดจาก male gaze ก็มีเรื่องที่ทำให้ขยุกขยิกในหัวใจสองสามประการ ประการแรกคือชื่อซีรีส์ ทำไมต้องเป็น The Queen's Gambit ? แม้แมตช์ที่โค่นบอร์กอฟในอีพีสุดท้ายเบ็ธจะเปิดกระดานด้วยแผน Queen's Gambit แต่มันก็ไม่แข็งแรงพอจะสื่อถึงตัวเบ็ธหรือเนื้อเรื่องทั้งหมดได้ เพราะแผนเปิดกระดานที่เบ็ธสบายใจที่สุดคือ Sicilian นอกจากนี้ชื่อ Queen’s Gambit คือแผนที่หมากขาวต้องสละเบี้ย 1 ตัว หากหมากดำตอบโต้แบบรับคำท้า (Accepted) ทว่าตามเนื้อเรื่องเบ็ธไม่ได้เลือกที่จะเสียสละอะไรเพื่อเปิดทางให้ตัวเองได้เดินต่อสวย ๆ เลย พระเจ้าจิ้มให้สูญเสียซะมากกว่า
ประการที่สอง ซีรีส์วางเงื่อนไขมาเองว่ายาระงับประสาททำให้เบ็ธหัวโล่งจึงเล่นหมากรุกในหัวตัวเองบนเพดานได้ แต่การแข่งกับบอร์นอฟในกระดานกระชับมิตรที่มอสโกเป็นแมตช์ตึงเครียดไม่ใช่เหรอ เบธเล่นหมากรุกบนเพดานได้เฉยเลย ทำได้ในครั้งแรกที่ไม่ใช้ยาเสียด้วย และการหยอดเรื่องยาระงับประสาทเข้ามาหลาย ๆ ฉากนั้นราวกับตั้งใจทำให้คนดูกังขาในความสามารถของเบ็ธ ทั้ง ๆ ที่อีพีแรก ๆ ก็เล่าไว้แล้วว่ายัยเด็กเบ็ธมีหนังสือคณิตศาสตร์ของแม่ไว้อ่านเล่น ตัวละครนี้เป็นผู้หญิงฉลาดพอตัว ซึ่งคนดูงับเมสเสจดังกล่าวเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ต้น
ในประเด็นความฉลาดของเบ็ธซีรีส์พยายามเรื่อง "ความสมเหตุสมผล" เป็นอย่างมาก ทว่าในเฮือกสุดท้ายกลับโยนความสมเหตุสมผลในเงื่อนไขของยาระงับประสาททิ้งลงชักโครกเอาดื้อ ๆ แม้ระหว่างพักการแข่งกับบอร์กอฟ เพื่อน ๆ นักเชสเมกันจะโทรศัพท์มาช่วยวิเคราะห์การเดินหมากข้ามทวีป แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขการเล่นหมากรุกบนเพดานของเบ็ธ และบอร์กอฟก็ขยับหมากต่างออกไปจากที่คาดกันไว้ ในท้ายที่สุดเบ็ธจึงต้องเค้นสมองของตัวเอง การทุบเงื่อนไขการเล่นหมากรุกบนเพดานในฉากโค่นบอร์กอฟนี้ ส่งผลให้เบ็ธมีความ X-man มากเกินไปหน่อย
ประการที่สาม ในกระดานโค่นบอร์กอฟทั้งทีทำไมให้ชีเบ็ธเล่นหมากขาวซึ่งเป็นฝ่ายที่มีโอกาสชนะง่ายกว่า
ในประการสองและสามชวนให้ตั้งคำถามว่า แม้ซีรีส์จะอิงจากนิยายที่วางขายในปี 1989 แต่เมื่อนำมาสร้างเป็นซีรีส์ผู้หญิงเก่งในยุค 2020 นี้ สามารถติดตั้งเพดานความเก่งของเบ็ธ ฮาร์มอนให้สูงกว่านี้ได้หรือไม่
ติดนั่นนิดนี่หน่อย แต่ขอรวบตึงว่าหนุกดี
Fun Fact 1: เบ็ธ ฮาร์มอนโค่นวาซิลี บอร์กอฟได้ตอนอายุยี่สิบเท่าไหร่กันแน่ คำตอบคือ 20 พอดี
Fun Fact 2:
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in