เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ดูหนังกันเถอะเราSoraya
The Queen's Gambit | ฉลาดแกมแกงควีน

  • [2020, Scott Frank]

    สปอยล์ 
    .
    .
              เอาจริง ๆ สิ่งที่ชอบสุดลิ่มทิ่มประตูสำหรับเรื่องนี้คือการโดนผู้กำกับ propaganda 
    นักเชสเมกันบอกกับเราว่านักเชสโซเวียตนี่ชั้นเซียนเลยนะเว้ย เค ฉันเชื่อ
    เบ็ธ ฮาร์มอนออกปากว่ากลัวบอร์กอฟ เค ฉันกลัวด้วย
    โดยไม่ต้องเสียเวลาเสียฟุตเทจเล่าฝั่งโซเวียตว่ามันเก่งยังไง เจอหน้าปุ๊บสำนึกรู้ทันทีว่าพวกโซเวียตเค้าเวิลด์คลาส 

    “ฉลาดเล่า” คือกระดูกสันหลังของซีรีส์เรื่องนี้ 

    ผู้กำกับควบคนเขียนบท-สก็อตต์ แฟรงค์ค่อย ๆ สร้างผีนักเชสโซเวียตขึ้นในแต่ละอีพี 

    :: ep. 2 ตำนานกล่าวไว้ว่า :: 

    • หนังสือชีวประวัติของโฮเซ คาปาบลังกา แกรนด์มาสเตอร์จากหลังสมุดโรงเรียนมัธยมปลายของเบ็ธ

    • ในแมกกาซีน Chess review วาซิลี บอร์กอฟ เชสมาสเตอร์สากลรับบทนักเขียนคอลัมน์ USSR CHESS Championship ซึ่งโผล่มาแวบ ๆ 

    :: ep.3 เค้าว่ากันว่า ::

    • เปิดตัวเบนนี่แชมป์ยูเอสโอเพ่นคนล่าสุด คนที่เทพที่สุดในเมกาพูดถึงความเก่งกาจอย่างนู้นอย่างนี้ของนักเชสโซเวียตชื่อเรเชฟกี

    • แฝดแมตต์ไมค์กล่าวว่า "พวกโซเวียตมีแต่เทพ ๆ" และ "อเมริกา ไม่มีผู้เล่นที่แข่งกับพวกเขาได้มา 20 ปีแล้ว"

    • เห็นหน้าบอร์กอฟชัด ๆ ในแมกกาซีน Chess review ซึ่งแมกกาซีนบอกกับเราว่าบอร์กอฟเป็นแชมป์โซเวียตอีกสมัยนะ รู้ไว้ด้วย

    • น้องฮาร์มอนเอ่ยปากว่ากลัวบอร์กอฟ

    :: ep. 4 เจอตัวเป็นๆ :: 

    • หลังคว้าโคแชมป์ยูเอสโอเพ่นหมาด ๆ เบ็ธแข่งกับผู้เล่นโซเวียตครั้งแรกที่เม็กซิโกซิตี้ เจอบักหำน้อยจอร์จี กิเรฟ วัย 13 ผลคือเบ็ธสรวนจนต้องเลื่อนการแข่ง อันนี้ดีมาก ย้ำอีกทีว่ายี่ห้อโซเวียตเขาแข็งจริง แม้เป็นเด็กแต่ก็งานหิน 

    • ครึ่งซีซั่น บอร์กอฟถึงจะปรากฎร่างให้เห็นด้วยตาเนื้อครั้งแรกในสวนสัตว์ - และกระดานแรกที่เบ็ธกับบอร์กอฟสู้กันก็รู้สึกถึงแรงกดบนบ่าไปด้วยเลย


              ทั้งนี้ไอ่ความที่แม้คนดูจะโขกหมากรุกไม่เป็น แต่รู้สึกได้ว่าแมตช์ไหนยากง่าย ฟันได้ว่าใครจะเป็นฝ่ายฟุบหมากคิงลงบนกระดานก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ “ฉลาดเล่า” เพราะอุณหภูมิบนกระดานเล่าผ่านนอกกระดานต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นเสียงกดนาฬิกาจับเวลาคู่แข่ง ความกดดันโดยเสียงเข็มวินาทีซึ่งเทคนิคนี้น่าจะคุ้นเคยกันจากหนังเรื่อง Dunkirk 

             อย่างไรก็ดีสิ่งที่บอกอุณหภูมิบนกระดานอย่างแข็งขันที่สุดคือสีหน้า แววตา ท่าทาง และอารมณ์ของนักแสดง ขอชมว่าผู้กำกับใช้เครื่องมือของนักแสดงคุ้มสุด ๆ แถมละเอียดมั่ก ฉากที่ไม่ได้แข่งหมากรุกก็ใช้เครื่องมือนี้ละเอียดเช่นกัน อาทิตอนที่เบ็ธเมนส์มาครั้งแรก ปากพูดว่าใส่ผ้าอนามัยเป็นแต่นางดันส่ายหัวนะจ๊ะ ซึ่งมันคืออาการของคนโกหก เออยอม 

              เมื่อมีสิ่งที่ชอบสุด ก็มีไม่ชอบสุด นั่นคือ male gaze เห็นชัดมากใน ep. 6 ที่ชีเบ็ธเมาแล้วใส่ชุดชั้นในลั้ลลาอยู่ในบ้านและกล้องก็ซูมแก้มก้นนางไปเลยจ้า ปี 2020 แล้วเนาะ อะไรแบบนี้เลิกได้ยังอะ

              ถัดจาก male gaze ก็มีเรื่องที่ทำให้ขยุกขยิกในหัวใจสองสามประการ ประการแรกคือชื่อซีรีส์ ทำไมต้องเป็น The Queen's Gambit ? แม้แมตช์ที่โค่นบอร์กอฟในอีพีสุดท้ายเบ็ธจะเปิดกระดานด้วยแผน Queen's Gambit แต่มันก็ไม่แข็งแรงพอจะสื่อถึงตัวเบ็ธหรือเนื้อเรื่องทั้งหมดได้ เพราะแผนเปิดกระดานที่เบ็ธสบายใจที่สุดคือ Sicilian  นอกจากนี้ชื่อ Queen’s Gambit คือแผนที่หมากขาวต้องสละเบี้ย 1 ตัว หากหมากดำตอบโต้แบบรับคำท้า (Accepted) ทว่าตามเนื้อเรื่องเบ็ธไม่ได้เลือกที่จะเสียสละอะไรเพื่อเปิดทางให้ตัวเองได้เดินต่อสวย ๆ เลย พระเจ้าจิ้มให้สูญเสียซะมากกว่า 

               ประการที่สอง ซีรีส์วางเงื่อนไขมาเองว่ายาระงับประสาททำให้เบ็ธหัวโล่งจึงเล่นหมากรุกในหัวตัวเองบนเพดานได้ แต่การแข่งกับบอร์นอฟในกระดานกระชับมิตรที่มอสโกเป็นแมตช์ตึงเครียดไม่ใช่เหรอ เบธเล่นหมากรุกบนเพดานได้เฉยเลย ทำได้ในครั้งแรกที่ไม่ใช้ยาเสียด้วย และการหยอดเรื่องยาระงับประสาทเข้ามาหลาย ๆ ฉากนั้นราวกับตั้งใจทำให้คนดูกังขาในความสามารถของเบ็ธ ทั้ง ๆ ที่อีพีแรก ๆ ก็เล่าไว้แล้วว่ายัยเด็กเบ็ธมีหนังสือคณิตศาสตร์ของแม่ไว้อ่านเล่น ตัวละครนี้เป็นผู้หญิงฉลาดพอตัว ซึ่งคนดูงับเมสเสจดังกล่าวเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ต้น 
     
              ในประเด็นความฉลาดของเบ็ธซีรีส์พยายามเรื่อง "ความสมเหตุสมผล" เป็นอย่างมาก ทว่าในเฮือกสุดท้ายกลับโยนความสมเหตุสมผลในเงื่อนไขของยาระงับประสาททิ้งลงชักโครกเอาดื้อ ๆ แม้ระหว่างพักการแข่งกับบอร์กอฟ เพื่อน ๆ นักเชสเมกันจะโทรศัพท์มาช่วยวิเคราะห์การเดินหมากข้ามทวีป แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขการเล่นหมากรุกบนเพดานของเบ็ธ และบอร์กอฟก็ขยับหมากต่างออกไปจากที่คาดกันไว้ ในท้ายที่สุดเบ็ธจึงต้องเค้นสมองของตัวเอง การทุบเงื่อนไขการเล่นหมากรุกบนเพดานในฉากโค่นบอร์กอฟนี้ ส่งผลให้เบ็ธมีความ X-man มากเกินไปหน่อย 

               ประการที่สาม ในกระดานโค่นบอร์กอฟทั้งทีทำไมให้ชีเบ็ธเล่นหมากขาวซึ่งเป็นฝ่ายที่มีโอกาสชนะง่ายกว่า

               ในประการสองและสามชวนให้ตั้งคำถามว่า แม้ซีรีส์จะอิงจากนิยายที่วางขายในปี 1989 แต่เมื่อนำมาสร้างเป็นซีรีส์ผู้หญิงเก่งในยุค 2020 นี้ สามารถติดตั้งเพดานความเก่งของเบ็ธ ฮาร์มอนให้สูงกว่านี้ได้หรือไม่ 


               ติดนั่นนิดนี่หน่อย แต่ขอรวบตึงว่าหนุกดี 

    #####



    Fun Fact 1: เบ็ธ ฮาร์มอนโค่นวาซิลี บอร์กอฟได้ตอนอายุยี่สิบเท่าไหร่กันแน่ คำตอบคือ 20 พอดี

    • 1948 Nov. 2 -- เกิด
    • 1963 Oct. 20-22 -- อายุ 14 แชมป์รัฐเคนทักกี
    • 1966 -- อายุ 18 โคแชมป์ยูเอสโอเพ่นร่วมกับเบนนี่
    • 1967 -- อายุ 19 OHIO US championship โค่นเบนนี่
    • 1968 -- อายุ 20 แข่งกระชับมิตรมอสโกชนะบอร์กอฟ

    Fun Fact 2:

    • 1948 เบนนี่ 8 ขวบ เล่นเสมอไนดอร์ฟ
    • เบ็ธ 8 ขวบ เริ่มเล่นหมากรุกโค้ชคนแรกคือไชเบล ภารโรง

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in