เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
จากหน้าต่างห้องนอนชั้นสองsarahsthoughts
จากหน้าต่างห้องนอนชั้นสอง
  • หน้าต่างทรงครึ่งวงกลมทำจากไม้โอ๊กประกอบกระจกใสบานใหญ่ สูงจากขอบเตียงจรดเพดานในห้องนอนชั้นสองของเธอกำลังฉายภาพทิวทัศน์ของสวนในฤดูใบไม้ผลิครั้งที่สิบเก้าพอดีในวันที่เธอยอมให้เขาก้าวล้ำเข้ามาในห้อง ในทีแรกชายหนุ่มตั้งใจแค่จะมารับคืนหนังสือที่เธอยืมไปเท่านั้น แต่ภาพของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เขียวชอุ่มชูกิ่งก้านประดับใบเขียวสดชวนสบายตาอยู่ภายในกรอบไม้โอ๊กราวกับภาพวิจิตรศิลป์ภาพหนึ่งนั้นสะกดให้เขาไม่อาจละสายตาไปไหน เขาเริ่มตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนั้น และลามไปถึงสิ่งต่าง ๆ ที่รายล้อมอยู่ในห้อง; หนังสือ ภาพถ่าย ภาพสีน้ำที่เธอวาดค้างไว้ รวมถึงตัวเธอเองที่ได้แต่ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่

    และถึงแม้ว่าเธอออกจะตกใจที่พื้นที่ส่วนบุคคลถูกรุกราน แต่เมื่อเริ่มตอบคำถามที่หลั่งไหลมาจากปากของเจ้าหนูจำไมอย่างเขา เธอกลับพบกับความเพลิดเพลินอย่างน่าประหลาดใจ เธอรู้สึกสนุกที่ได้เล่าถึงตอนที่เริ่มปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์นี้ในสวนกับมือเมื่อตอนเจ็ดขวบ; แนะนำวรรณกรรมคลาสสิกทุกเล่มที่เธออ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่จำความได้ แถมยังหยิบยื่นบางเล่มให้เขาลองอ่านคำโปรย และกึ่งยัดเยียดให้เขานำกลับไปอ่านที่บ้านเสียด้วย เธอยิ้มร่าพลางชูกล้องฟิล์มโบกไหวไปมาในอากาขณะเล่าที่มาเบื้องหลังภาพถ่ายแต่ละภาพที่ติดอยู่บนผนังห้องให้เขาฟัง; และหัวเราะร่วนระหว่างพยายามเช็ดคราบสีน้ำที่ติดอยู่บนใบหน้าตอนเขาหยอกล้อเธอว่าเธอใช้แก้มแทนพู่กันหรืออย่างไร

    ในระหว่างที่กำลังฟังเธอเล่าถึงหัวข้อของภาพสีน้ำที่วาดค้างไว้อย่างตั้งใจ เขาถือวิสาสะเปิดบานหน้าต่างออก ยื่นมือออกไปแตะกิ่งหนึ่งของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เบา ๆ

    ดอกตูมทั้งมวลบนต้นก็พลันบานสะพรั่งอวดช่อชูโฉมสีชมพูอ่อนใสจรดกระจกหน้าต่าง; ราวกับจะประกาศให้คนทั้งโลกรับทราบว่าวสันต์ฤดูได้มาถึงแล้ว

    ลมสายหนึ่งโชยมาพาเอากลีบดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ให้ไหลหลั่งเข้ามาในห้อง โอบล้อมเขาและเธอไว้ด้วยความอ่อนนุ่มของกลีบดอกไม้ที่ทับถมในห้องจนเต็มแน่น ลมสายนี้ยังคงพัดหมุนวนไป กวาดเอากลิ่นหวานหอมขจรขจายไปทั่วบริเวณ ติดตรึงไว้บนหนังสือเสื้อผ้า เส้นผม และผิวเนื้อ กลิ่นหอมหวานที่ชวนให้หลงใหลและเมามายในคราวเดียวกันกำซาบลึกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจของเขาและเธอ สายตาประสานสายตาด้วยความตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนควบคุมไม่ได้ ทำได้แต่เฝ้ามองและรอคอยจนกว่าลมสายนี้จะอ่อนแรงไป

    และเมื่อลมเริ่มสงบนิ่งลง กลีบดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ก็พลันกระจายหายไปจากสายตา เหลือไว้แต่เพียงกลีบเล็ก ๆ บางใสที่เกาะอยู่บนมือที่กอบกุมกันเท่านั้น

    ตั้งแต่นั้นมา คนทั้งคู่ก็เฝ้าชมทัศนียภาพที่ปรากฏผ่านหน้าต่างในห้องนอนชั้นสองของเธอด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะในวันที่แดดจ้าจนทะลุกระจกใสเข้ามาลามเลียถึงชั้นหนังสือขนาดใหญ่ สะท้อนสันหนังสือหนาบางมากมายที่เธอเฝ้าสะสมไว้ ในวันที่ฝนวสันต์โปรยปรายกระทบใบชมพูพันธุ์ทิพย์ดังเปาะแปะ คลอกับเสียงจิ้งหรีดเรไรเซ่งแซ่คล้ายวงออเคสตราขนาดย่อม ในวันที่โลกทั้งใบเปลี่ยนแปรสีสันไปเป็นสีส้ม เหลือง และแดงจากฤทธิ์ของสารประกอบในใบไม้ที่ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ หรือในวันที่หิมะร่วงหล่นอย่างแผ่วเบาลงบนขอบหน้าต่างไม้โอ๊ก ย้อมให้โลกทั้งใบกลายเป็นสีขาวโพลนสะอาดตา; ไม่ว่าจะฤดูกาลใดผ่านพ้นไป ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ข้างหน้าต่างของเธอยังคงตั้งตระหง่าน อวดช่อดอกชมพูอ่อนสู่สายตาชาวโลกอยู่เช่นนั้นราวกับไม่รู้อายุขัย สวยงามราวกับไม่มีวันร่วงโรย

    หากอากาศร้อนเกินไปในกลางวันช่วงฤดูร้อน เขาและเธอก็จะชี้ชวนกันดูหมู่ดาวและจันทร์กระจ่างที่ลอยค้างเหนือสวนในช่วงที่ราตรีเข้าแทนที่ ผลัดกันขับร้องบทกวีที่เปรียบเปรยความงามของดวงดาว แต่แล้วก็กล่าวว่าเทียบไม่ได้กับดวงตาที่สุกสกาวของอีกฝ่าย หากโลกภายนอกชื้นแฉะเกินไปจากสายฝนในฤดูใบไม้ผลิ เขาและเธอก็ยังคงสามารถหาความเพลิดเพลินจากการอ่านหนังสืออยู่ในห้องอันอบอุ่นไปพร้อมกับฟังเสียงหยาดฝนกระทบหน้าต่างด้วยกันได้ และหากอากาศภายนอกหนาวเหน็บเกินทนไหวในช่วงใบไม้ร่วงหรือหิมะโรย กลิ่นของชาอุ่น ๆ ที่ผสมปนเปกับกลิ่นกายยามอิงแอบนั้นล้ำเลิศเสียจนทำให้หลงลืมความทุกข์ทรมานที่ผ่านมาไปเสียสิ้น

    ถึงโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่ภายในห้องนอนชั้นสองเธอ เขา และต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ออกดอกสะพรั่งยังคงเป็นเช่นนั้นเสมอไม่เคยเปลี่ยน--- เธอเชื่อเช่นนั้น และหวังไว้เช่นนั้นอย่างสุดหัวใจ

     โลกโคจรรอบอาทิตย์ครบรอบที่สองเมื่อพายุฝนเริ่มก่อตัวตั้งเค้ามาจากที่ไกล ๆ เธอเปิดหน้าต่างออกไปมองด้วยใจระทึก กลัวว่าดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ที่บานโดยไม่โรยรามาสองปีจะต้องลมฝนจนเปียกช้ำ ถึงกระนั้น เธอเองก็ไม่มีอำนาจมากพอที่จะกระทำการใด ๆ เพื่อปกป้องดอกไม้ดอกน้อยเหล่านั้นได้ ทำได้แค่ปิดหน้าต่างลงเพื่อป้องกันไม่ให้พายุฝนโหมพัดเข้ามาทำลายข้าวของภายในห้องแต่เพียงเท่านั้น

    และราวกับจะทราบล่วงหน้าด้วยสัญชาตญาณ --- เขาในวันนั้นก้าวเข้ามาในห้องด้วยร่างที่เปียกโชกและสั่นเทาจากห่าฝนภายนอก หยาดฝนที่เกาะกุมร่างเขาได้แปรเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นคนแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จัก ไม่ทราบชื่อ รู้จักเพียงหน้าตาทว่าไม่คุ้นเคยด้วยความโกรธเกรี้ยวที่ปกคลุมทั่วใบหน้า น้ำเสียงอ่อนโยนที่เคยทำให้เธอยินดีทุกครั้งที่ได้ยินกลับกลายเป็นดั่งหนามแหลมที่ทิ่มแทงจิตใจของเธอด้วยทุกวาจา แรงอารมณ์ทั้งของเขาและเธอก่อกำเนิดเป็นพายุขนาดย่อม ก่อนจะเริ่มโหมพัดแรงขยายใหญ่จนไม่ต่างอะไรจากพายุฝนภายนอก แรงลมพัดพาทำให้หน้าต่างบานใหญ่เปิดออกกว้าง ฟ้าร้องคำรามพร้อมแสงฟ้าแลบวาบผ่านใบหน้าที่โกรธขึ้งสองดวง พายุทั้งสองลูกบรรจบกันจนไม่อาจแยกได้ ครานี้ลมไม่ได้พัดพากลีบดอกไม้เข้ามาห่อหุ้มทั้งคู่อีกต่อไปแล้ว หากแต่โหมพัดทำลายข้าวของภายในห้องจนแตกหักเสียหาย น้ำป่าที่มาพร้อมพายุฝนก็ไหลหลากเข้าซัดท่วมภายในห้องจนเปียกปอนเละเทะไม่เหลือชิ้นดี

    หลังจากค่ำคืนอันบ้าคลั่งผ่านพ้นไป เขาจากไป ทิ้งไว้แต่ห้องที่บัดนี้ไม่เหลือเค้าโครงเดิม หนังสือแสนรักทุกเล่มและภาพถ่ายทุกใบเปียกโชกจนไม่อาจกู้สภาพคืนได้อีก ภาพสีน้ำบนผืนผ้าใบฉีกขาดเสียหาย มีแอ่งน้ำแอ่งเล็ก ๆ กระจายตัวอยู่บนพื้นเป็นหย่อม ๆ ทั่วทั้งห้อง หน้าต่างไม้โอ๊กบานใหญ่บัดนี้มีสภาพทรุดโทรมไม่ต่างอะไรจากหน้าต่างในบ้านร้าง กระจกใสแตกร้าวด้วยกิ่งไม้หัก ๆ ที่พุ่งมากระทบจากแรงพายุ

    และต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ดอกไม่เคยร่วงหล่น บัดนี้กลับไม่เหลือแม้กระทั่งใบ

    หลังจากวันนั้น เธอก็ปิดตายประตูห้องนอนของตัวเองลง ล็อกด้วยกลอนสารพัดรูปแบบเท่าที่จะจินตนาการถึงเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาได้อีกครั้ง เธอค่อย ๆ เก็บชิ้นส่วนสิ่งของที่บุบสลายมาซ่อมแซมใหม่ จับหนังสือและรูปภาพที่เปียกปอนมาผึ่งแดดเข้าสันใหม่ เคลือบปกอย่างดี ค่อย ๆ เย็บปะผืนผ้าใบของภาพสีน้ำที่ฉีกขาดเข้าด้วยกันหน้าต่างโอ๊กบานใหญ่ได้รับการประกอบใหม่อย่างดี ทาสี เคลือบเชลแล็กจนเงาวับ เธอดูแลทุกอย่างอย่างทะนุถนอมเฝ้าระวัง และจัดเก็บทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางตามเดิม

    เว้นก็เสียแต่ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ต้นโปรดที่เธอสุดปัญญาจะรักษาให้กลับมาได้

    ทำได้เพียงปล่อยไว้เช่นนั้น ไม่กล้าแม้กระทั่งจะเหลือบมองมันอีก

    เธอเฝ้าระวังมิให้ใครผ่านพ้นเข้าประตูห้องนอนมาได้อีกครั้งพอ ๆ กับการเฝ้าระวังมิให้ความทรงจำใด ๆ เกี่ยวกับเขาผุดขึ้นมาในใจ การก่อร่างสร้างห้องนอนขึ้นมาใหม่เป็นกิจธุระที่ดีมากที่ทำให้เธอได้เอาใจออกห่างจากความคิดในหัว แต่แล้วเมื่อการซ่อมแซมทุกอย่างเสร็จสิ้น เธอกลับรู้สึกถึงความว่างเปล่าที่เกิดจากเขาได้เป็นครั้งแรก

    ถึงหนังสือทุกเล่มจะได้รับการเข้าสันใหม่และเคลือบปกอย่างดี

    ทว่าบทกวีทุกวรรคที่เขาเคยจารไว้ยังคงอยู่;

    ถึงแม้ภาพวาดที่ฉีกขาดไปจะได้รับการเย็บซ่อมแซมใหม่

    ทว่าแต่ละฝีแปรงบนผืนผ้าใบ ยังคงเก็บซ่อนเงาของเขาไว้;

    และถึงแม้ภาพถ่ายที่เคยเปียกเสียหายจะได้รับการผึ่งแดดจนกลับมาสภาพดังเดิม

    ทว่ารอยยิ้มของเขาที่สว่างไสวอยู่บนภาพนั้น ทำให้เธอรู้สึกมอดไหม้อีกครั้ง

    เธออยากจะวิ่งหนี หนีออกไปให้ไกลจากห้องนอนที่เธอใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่อาศัยและสร้างขึ้นมา ทว่ากลอนประตูสารพัดรูปแบบที่เธอติดตั้งไว้ป้องกันการรุกราน บัดนี้กลับกลายเป็นกลอนขังเธอไว้ไม่ให้หนีไปไหน เธออยากทุบทำลายห้องนอนนี้เสีย ฉีกกระชากหนังสือทุกเล่ม ภาพถ่ายทุกใบภาพวาดทุกผืนให้ขาดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เผื่อว่าจะลบร่องรอยของเขาให้เลือนหายออกไปจากใจ แต่ก็รู้ดีว่าถึงกระนั้นก็ไม่สามารถเผาทำลายความทรงจำที่ยังคงฝังแน่นในหัวไปได้จนหมดจด

    หน้าต่างไม้โอ๊กบานใหญ่ในห้องนอนชั้นสองของเธอที่เธอเคยภูมิใจ บัดนี้กลับดูเหมือนซี่กรงขังผู้ต้องหา

    เธอได้กลายเป็นนักโทษที่ถูกจองจำอยู่ภายในกรอบความเป็นตัวเอง

    ถูกทรมานด้วยความฝันที่เคยสร้างไว้ร่วมกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    สายฝนโปรยปรายจากฟากฟ้ามากระทบหน้าต่างห้องนอนชั้นสองของเธอนับตั้งแต่นั้น;

    ไม่ว่าโลกจะหมุนไปอย่างไร แต่สภาพอากาศในจิตใจเธอไม่เคยเปลี่ยนแปลง

    -------

    แล้วสุดท้ายเธอก็เข้าใจอย่างเงียบเชียบในคืนที่ฝนพรำคืนหนึ่งว่า สิ่งที่ควรทำไม่ใช่การพยายามลืม แต่คือการยอมรับความจริงทั้ง ๆ ที่ยังจำได้ไปทั้งแบบนี้ต่างหาก

             เธอยังคงจำใบหน้า รูปร่าง เสียง และกลิ่นของเขาได้ ถึงแม้มันจะเลือนรางไปบ้าง แต่หากมีบางอย่างสะกิดความทรงจำที่เธอกักขังไว้ให้ปริออก มวลความทรงจำเหล่านั้นก็ยังคงทะลักทลาย ไหลบ่ากลับมาห่อหุ้มเธอไว้ได้อย่างแจ่มชัด

           เธอยังคงจำภาพความฝัน ที่เขาอยู่กับเธอ ณ ที่แห่งนั้น; ห้องนอนชั้นสองติดสวนอันเงียบเชียบในวันที่ฝนพรำได้ดี

           เธอยังคงจำได้

           แต่เธอก็รู้ดีว่ามันอยู่ได้แค่ในความทรงจำเท่านั้น

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in