มันเป็นคอมบิเนชั่นที่ตอนแรกก็ งงๆ ว่าเออ ทำไมแวะ เอเธนส์ ก่อนแล้วค่อยไป นิวเจอร์ซี แต่ก็นั่นแหละ มันคงเป็นรูทที่สามารถทำเงินได้มั้ง แต่ก็นะ มีหน้าที่บินก็บินไปค่ะ ตัวเองก็อยากไปกรีซมาตั้งนานแล้ว บิดค่ะ ท๊อปบิดกดไปเลยอันดับหนึ่ง ขอสามรอบ (เพราะมันไม่เคยให้มาเกินรอบนึงอยู่แล้ว) เราจะได้อยู่ เอเธนส์ 2 วัน แล้วก็ได้อยู่ที่นิวเจอร์ซี 1 วัน
เราเลือกuberกันค่ะ เพราะว่าตอนที่เราลงมารถเพิ่งออกไปพอดี จะรอก็เสียเวลา เด๋วมันจะปิดซะก่อน
uber ที่นี่ถูกมากกกก เทียบกับประเทศยุโรปอื่นๆหรืออเมริกาที่เห็นราคาแล้วไม่อยากคูณกลับเป็นเงินไทย น้ำตาร่วงตลอด แล้วคำถามที่เกิดขึ้นระหว่างทางคือ Is Uber legal in Greece?? คนขับบอกว่า ตามจริงแล้ว มันไม่ legal ค่ะ แต่เค้าก็เปลี่ยนเป็นการที่เค้าตั้งบริษัทขึ้นมา ให้คนทั่วๆไปมาเช่ารถขับ คนขับจะไม่ได้รับค่าโดยสารจาก uber โดยตรง (ไม่ว่าเราจะจ่ายด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสด) แต่เค้าจะได้รับเงินเดือนจากบริษัทแทนค่ะ แน็ตจำไม่ได้ว่าบริษัทมัน owned by goverment รึป่าวหรือยังไง อันนี้ไม่ชัวร์ค่ะ ไม่พูดต่อล่ะกัน แต่อย่างคนขับเค้าก็ไม่จำเป็นต้องมีรถเพราะบริษัทจะมีรถให้เช่าไป ก็แล้วแต่ใครจะเช่านานเท่าไหร่ก็โดนหักไปค่ะ
ตรงเคาน์เตอร์ซื้อบัตรก็มีติดป้ายบอกเวลาเปิดและปิดของสถานที่ต่างๆไว้ด้วยค่ะ แนะนำให้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย
คู่เกาหลีข้างหน้านี่ก็ทำเราอิจฉากันพอสมควรค่ะ //ส่งสายตาอำมหิต 555
สถานที่แรกที่มาถึงคือ Odeon of Herodes Atticus ค่ะ
มองลงไปคือที่นั่งชันมาก ไม่รู้ทำไมต้องทำให้ชันขนาดนี้ ไม่ใช่คนกลัวความสูง แต่มองไปแล้วมันก็เสียวๆเนอะ ตามที่อ่านๆมา ที่นี่จุคนได้ 5000-6000 คนค่ะ ซึ่งมองๆแล้วก็เป็นไปได้ เพราะที่นั่งถี่และชันมาก ตามประวัติแล้ว แต่เดิมที่นี่ไม่ใช่โรงละคร outdoor ค่ะ มันจะมีหลังคาไม้ด้วย แต่มันก็หลายพันปีแล้วเนอะ ผ่านสงครามผ่านฝนผ่านแดด หลังคาก็กลายเป็นฝุ่นไปแล้วค่ะ การที่เค้าไม่สร้างใหม่มันก็ทำให้ดูเก๋ไปอีกแบบ (คหสต.)
The Odeon of Herodes Atticus ถูกสร้างในปี 161 โดย Herodes Atticus นักปรัชญาชาวกรีก เพื่อเป็นสถานที่ที่รำลึกให้กับการเสียชีวิตของ Aspasia Annia Regilla ภรรยาของเขาที่เสียชีวิตในปี 160 AD คนสมัยนั้นนี่แสดงความรักกันอย่างอลังการจริงๆ ลึกซึ้งงง อิจฉาภรรยาเค้าเฉ้ยยย 555
ในปัจจุบันเค้าก็มีจัดคอนเสิร์ตใน theatre นี้ ช่วง Athens Festival ระหว่างเดือน พฤษภาคม ไปจนถึงต้นเดืิอนตุลาคมของทุกปีค่ะ คอนเสิร์ตที่จัดก็เป็นดนตรีคลาสสิคนะ ไม่ใช่แบบ Coldplay หรือ EDM กระโดดกันตกบันไดตายแน่ๆ
The Odeon of Herodes Atticus's view from the top of The Acropolis
จุดที่ขึ้นไปยืนก็ค่อนข้างป๊อปปูล่าร์พอสมควร หลังจากที่แน็ตกะเพื่อนถ่ายเสร็จ พอลงมาปุ๊ปปป คนปีนกันใหญ่เลย นักท่องเที่ยวเข้าออกตลอดค่ะที่นี่ แต่วันนั้นก็ไม่ถึงกับขนาดหนาแน่น อาจจะต้องรอจังหวะ และใช้ความไวในการโฟกัสและกดชัตเตอร์นิดนึงก็จะได้ช๊อตไร้คนค่ะ
ช๊อตนี้ก็โคตรยากค่ะ กว่าจะได้นี่สิบกว่าเทค ใช้ความอดทนกันไป
จากนั้นเราก็เดินขึ้นไปจนถึงด้านบนค่ะ มาถึงจุดนี้ ลูกๆหลานๆอาจจะกลัวว่าอาม่าอากงหลานๆตัวเล็กตัวน้อยจะเดินกันไม่ไหว เดินไหวค่ะ มันไม่ได้ชันเท่ากำแพงเมืองจีน ระยะทางไม่น่ากลัวขนาดนั้น ถ้าแน็ตไหว อาม่าก็ไหวค่ะ
ขึ้นบันไดตามเค้าไปแล้วมองขึ้นไปทางขวาค่ะ
ทาดาาาาาาาาาาาาาาาา //ทำเสียงแบบโลกิ
วิหารด้านขวาคือ Temple of Athena Nike
อ่านคำสุดท้ายว่าอะไรกัน??
ไนกี้ล่ะสิ หรือ
นิก ? ตอนแรกก็แอบงงเบาๆ ทำไมเหมือนชื่อยี่ห้อรองเท้าจัง จะอ่านว่าไนกี้ก็ยังไงอยู่ เลยไปค้นคว้าหา pronunciation ที่ถูกต้องค่ะ จริงๆมันออกเสียงว่า
เท็มเพิลออฟอาเทียน่าสนิกิส (Ναός Αθηνάς Νίκης, Naós Athinás Níkis) อาเทียน่าคือเทพธิดาแห่งสงครามและชัยชนะในตำนานของกรีกโบราณค่ะ คำว่า Nike แปลว่า ชัยชนะค่ะ เค้าก็เลยตั้งชื่อวิหารนี้ตามชื่อท่านนั่นเอง
ตามประวัติแล้ววิหารโดนทำลายไปรอบนึงแล้วก็เค้าก็มีการสร้างวิหารขึ้นมาใหม่จากซากที่เหลือค่ะ หลังจากนั้นก็โดนทำลายอีกรอบนึงโดยชาวเติร์ก พอกรีซได้รับอิสรภาพเค้าก็สร้างขึ้นมาใหม่อีกรอบนึง ในปี 1998 เค้าถึงกับมีการรื้อถอนเศษพื้น ตามคำอธิบายคือ เค้ารื้อเอาพื้นแตกๆ บุบๆ และก็ผ้าสักหลาดจากวิหารออกแล้วนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ Acorpolis Museum แทนค่ะ
ตรงจุดๆนั้นเราเดินเข้าไปไม่ได้ค่ะ
เดินวนขึ้นมาอีกนิดนึงก็จะเจอกับเสาๆๆๆๆค่ะ
ตรงนี้เรียกว่า Propylaea
อ่ะ ... อ่านยังไงดีสินะ 555 อ่านตามตัวสะกดของกรีกจะอ่านว่า "โพรพิเลอา" ค่ะ ซึ่งมันจะต้องใส่สำเนียงเค้าด้วย แนะนำให้ไปกดคำนี้ Προπύλαια ใน Google Translate ดูแล้วกดให้นางออกเสียงค่ะ กดไปกดมานางพูดช้าลงด้วยนะ ไม่รู้คิดเองรึป่าว แต่นี่ขำมาก เหมือนแบบ ฟังไม่ทันใช่ม่ะ เหมือนนางจะรู้ว่าฟังไม่รู้เรื่องก็เลยแบบฟังดีๆนะเด๋วสโลว์ดาวน์ให้ 55
กลับเข้าเรื่องดีกว่า
โพรพิเลอาก็หมายถึงประตูทางเข้าทั่วๆไปค่ะ คือคำนี้เอาไว้ใช้เรียกประตูทางเข้าอนุสรณ์สถานอะไรประมาณนั้น อันนี้ก็จะถูกเรียกชื่อเต็มๆว่า Propylea of Acropolis (of Athens)
ในรูปด้านบนมันคือการที่แน็ตถ่ายหันหลังให้ประตูเลยไม่ค่อยเห็นภาพว่ามันคือประตูเท่าไหร่ มองเป็นทางเดินมากกว่า
เริ่มเห็นภาพมากขึ้นเนอะ ช๊อตนี้นี่ได้มาด้วยน้ำตาค่ะ คือเค้าทำทางเดินเป็นหินบลอคๆ นี่ออกนอกหินบลอคไปหาหินเงาๆ ด้วยความที่มันก็ยังอยู่ในรั้วและอยากได้ช๊อตนี้มาก เหยียบหินปั๊ป ลื่นพรืดดดดดดด ฝรั่งมุงเลยค่ะ นี่ก็ฮากลบความอาย อาร์ยูโอเค๊ กันใหญ่ พอจะลุกขึ้นมาก็ พรืดดด อีกรอบนึง อ้าปากพูด แอมไฟน์ ยังไม่ทันจบประโยคร่วงอีก ถ้าเห็นหินลื่นๆอย่าไปเหยียบมันนะ ลื่นมาก
โพรพิเลอาแบบเต็มค่ะ จะเห็นว่าด้านขวาหลังประตูจะเหมือนออฟฟิศคน คือที่นี่เค้ามีการ renovation ตลอดเวลาค่ะ เอาจริงๆมันไม่สวยเพราะแบบนี้แหละ บางคนที่มาก็ไม่ปลื้มเพราะอะไรแบบนี้ แต่แน็ตเฉยๆนะ แน็ตมองภาพโดยรวมมากกว่า
เดินผ่านเข้าโพรพิเลอามาก็จะเป็น Parthenon ค่ะ
คนเป็นมด จริงๆคนเยอะกว่านี้อีก นี่ก็รัวหลายๆช๊อต แล้วเอาภาพที่คนน้อยสุด เครนก็พาดไปพาดมา และจุดที่ลื่นคือจุดที่รั้วมันเว้าเข้าไปอ่ะค่ะ 555 อายยยยย
กรีกโบราณเรียก "พาร์เทอน่อน" โมเดิร์นกรีกเรียก "พาร์เทอนอนนาส" คำว่า เทอ ต้องเอาลิ้นแตะฟันด้วยนะ จะได้ เป็น th แบบชัดๆ
วิหารนี้เป็นวิหารดั้งเดิมของชาวกรีกโบราณที่สร้างไว้ให้แก่เทพธิดาอาเทียน่า ซึ่งชาวกรีกยกให้เป็นเทพธิดาผู้สร้างเอเธนส์เลย เพิ่มความรู้ให้อีกนิดนึงค่ะ พอดีไปอ่านที่พิพิธภัณฑ์มา คือมันแปลกและน่าสนใจมากๆ
ตามตำนานเทพกรีกโบราณ อาเทียน่าไม่ได้กำเนิดมาจากครรภ์มารดาแต่ออกมาจากศีรษะของเทพเจ้าซีอุส ผู้เป็นบิดาของเทพอาเทียน่า (ตอนอ่านถึงประโยคนี้คือตาโต) คืออยู่มาวันหนึ่งซีอุสปวดหัวมากๆ ปวดจนบอกให้เฮเฟตุสใช้ขวานผ่าหัวเค้าเลย (ใจเด็ดจริงๆ) แล้วอาเทียน่าก็กระโดดออกมาจากศีรษะของเค้าโดยที่เค้าให้คำอธิบายว่าออกมาแบบ "fully armed" คือไม่ได้ออกมาเป็นทารกแน่ๆ อาเทียน่ามาพร้อมเกราะพร้อมอาวุธ อาเทียน่าไม่มีมารดาค่ะ ตามตำนานเค้าบอกว่า ซีอุสกลัวคำทำนายที่ว่าตัวเค้าก่ับเทพมีทีส (Metis) จะมีบุตรชายที่เก่งกว่าและมีอำนาจมากกว่ามาโค่นบัลลังก์ทำให้เค้ากลืนมีทีสเข้าไปเลยค่ะ โหดไปอี๊กกก แต่ว่าสายไปเพราะมีทีสตั้งครรภ์อาเทียน่าแล้วก่อนที่ซีอุสจะกลืนเข้าไป
กลับมาที่พาเทอร์น่อนของเรากันค่ะ
ตามประวัติแล้ว ภายในพาร์เทอน่อนก็จะมีรูปปั้น หินแกะสลักโดยรอบ แต่ว่าโดนชาวออตโตมันทิ้งระเบิดตรงกลางเลย ก็เลยเหลือเป็นซากๆ ในปี1816 คนที่ค้นพบเศษซากรูปปั้นก็ได้ขาย artifacts ทั้งหมดให้ British Museum ทุกวันนี้ก็เลยถูกจัดแสดงอยู่ที่ลอนดอนค่ะ
ประวัติยาวมากกกกกกก เอาเป็นว่าแนะนำให้อ่านเองค่ะ ถ้าให้อธิบายในนี้ ไม่สนุกแน่ๆ อ่านกันจนหลับพอดี
จุดต่อไปคือ Sanctuary of Zeus Polieus ค่ะ
เป็นวิหารกลมๆไม่มีหลังคาที่อยู่ด้านหลังสุดของยอด Acropolis of Athens
ซึ่งก็ไม่มีอะไรค่ะ เดินขึ้นไปเป็นฐานกลมๆ กลายเป็นจุดชมวิวมากกว่า รูปที่ได้มาเลยเป็นการท้ายย้อนกลับก็จะเป็นวิว Parthenon กับ The Old Temple of Athena, Pandroseion และ Erechtheum ที่เรากำลังจะเดินไปกันค่ะ
ก่อนจะถึงสามวิหารนั้น เราจะเดินผ่าน Altar of Athena
จากรูปสามที่นี้จะอยู่ติดๆกันแชร์กำแพงกันเลยค่ะ
The Old Temple of Athena, Pandroseion และ Erechtheum
The Old Temple of Athena (ดิโอลด์เท็มเพิลอาเทียน่า) สังเกตง่ายๆ ตรงที่มีเสาเป็นรูปปั้นก็คือ The Old Temple of Athena ค่ะ
Pandroseion (พานโดรสซีออน) คือ วิหารที่่อยู่ด้านหลังของวิหารเสารูปปั้นค่ะ
ส่วน Erechtheum (เอเร็กเทอุม) คือ วิหารขวาสุดในรูป หรือเป็นด้านหลังของพานโดรสซีออน ที่มีเสาโรมันสูงๆ ตรงนั้นถ่ายรูปเก๋มากกกกก
เรียงลำดับตามภาพเลยค่ะ จะได้ไม่งง ส่วนพานโดรสซีออนไม่มีรูปค่ะ ตอนเดินถึงจุดนั้นนี่ล้ามากแล้ว ขอไม่เดินเข้าไปล่ะกัน
The Old Temple of Athena
Erechtheum
ถ้ายังงงอยู่ลองดูรูปด้านล่างค่ะ
เห็นภาพมากขึ้นเนอะ ขวาคือ Erechtheum เถิบมาด้านซ้ายคือส่วนที่มีเสาเป็นรูปปั้นซึ่งก็คือ The Old Temple of Athena ค่ะ ท่านผู้ชมมมม
พอมาถึงจุดนี้คือต้องกินแล้วค่ะ ใช้พลังงานไปเยอะมาก จริงๆแล้วบนนั้นยังมีอีกสองสามที่ ที่แน็ตไม่ได้เดินเข้าไปดู
ในตอนหน้าแน็ตจะพาลงไปดูข้างล่างแล้วก็เดินชมบ้านเมืองเค้ากันค่ะ สวยมากกกกกก ประทับใจ ถ่ายรูปไม่หยุด
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ 555
ข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อนประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
แล้วก็ อย่าเอารูปไปใช้นะค้าาาทุกคน คือรู้ว่ารูปตัวเองไม่ได้สวยขนาดนั้น แต่บอกไว้ก่อนล่ะกันเนอะ งานละเอียดแบบนี้ เป็นใคร ใครก็หวงค่ะ :)
ขอลาด้วยคำว่า
ευχαριστώ = ขอบคุณค่ะ (เอฟคาริสโต้)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in