ขอเริ่มจากเพลงแรก ที่ เจย์แนะนำตัวเอง ในฐานะนักแต่งเพลง
"Bestie"
"ต้องมองให้ลึกกว่านั้น"
เป็นเหมือนคำประกาศ ทำหรับคนที่เกลียดชังเขา
ก่อนออกอัลบั้มนี้ เจย์เองก็ยังคงเจอโจมตีจากแอนตี้แฟนอยู่อย่างต่อเนื่อง
ไม่พ้นประเด็นเดิม คือ ปัญหากับอดีตต้นสังกัดและเพื่อนร่วมวง ที่ยังไม่ได้แก้ไขอย่างชัดเจน
แต่ดูเหมือน เรื่องราวก็ไม่ได้เริ่มจากทั้ง 2 ฝั่ง
แต่เริ่มจากการจุดประเด็นจากแฟนๆเอง
แม้ "วัฒนธรรมชาวเน็ต" ในเกาหลี จะเป็นกระแสที่ส่งผลกระทบกับผู้คนในวงการเสมอ แต่ดูเหมือน มันไม่ได้ส่งผลกับเจย์รุนแรง แบบที่เคยเป็นสมัยที่เขายังเป็นเพียง "ไอดอลหัวหน้าวง"
วันนี้เขาแข็งแรงกว่าเดิมมาก
TAKE A DEEPER LOOK
TADL คือ มินิอัลบั้มแรกของ Jay Park ในฐานะศิลปินเดี่ยว ที่แฟนๆรอคอยและเป็นที่จับตามอง
นั่นเพราะ เขาทั้งแต่ง/ทั้งร้อง เพลงในอัลบั้มเอง
คนที่มีดีแค่เต้น จะไปได้สักกี่น้ำ?
สมัยที่เขายังอยู่ในวงบอยแบนด์ แม้จะได้รับตำแหน่งหัวหน้าวง แต่โดยเนื้อเสียงแล้วก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก ด้วยเพราะ เจย์มีคีย์เสียงที่แหลมเล็ก จึงค่อนข้างไม่เหมาะกับการร้องเพลงที่ใช้พลัง ซึ่งเป็นแกนเสียงหลักของเพลง
บวกกับความชอบส่วนตัว เขาจึงได้รับหน้าที่ในการร้องท่อนแรพหลักของเพลงแทน
พอเขาคิดกลับมาในฐานะ "นักร้อง" อีกครั้ง หลายคนก็ปรามาสว่า คนที่ร้องแค่ท่อนแรพอย่างเดียวจะไปทำอะไรได้ …
ก็แรพน่ะสิ ถามได้…
นั่นอาจเป็นความตั้งใจของเจย์ ด้วยเช่นกัน
จนกระทั่งมาถึง Fresh Air : Breath it นี่อยากปรบมือให้ดังๆ
และ ล่าสุดกับ JOAH มันเป็นเพลงรักธรรมดาเพลงหนึ่ง แต่มันกลับโดนใจมาก เพราะเหมือนเจย์จะกลับไปเป็นเด็กคนเดิมแบบที่เคยเขียนเพลง Bestie
ฉันชอบเธอมาก ภาวนาให้ได้อยู่กับเธอทุกคืนวัน ชอบเธอมาก ชอบทุกอย่างที่เป็นเธอ
จนถึงวันนี้ ตั้งแต่ได้รู้จักเจย์ และ ฟังเพลงของเขามา
เราก็พึ่งมาได้ระลึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา หลังจากฟัง JOAH
ทุกๆอย่างในในชีวิตถ้าชอบ เขาจะทำ ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม
#JOAH
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in