หลังจากทำงานฝีมือมานาน ก็อยากจะมีภาพสวยๆ ของตัวเองบ้าง เดิมทีก็ใช้วิธีปรับภาพในแอพต่างๆ ผลที่ออกมาก็พอใจในระดับนึง แต่พอเห็นภาพของต่างชาติก็ทนไม่ได้อีก เพราะภาพเขามีมิติกว่ามาก คิดว่าต้องเป็นที่กล้องแน่ๆ หลังจากคิดอยู่นานก็ตัดสินใจถอยกล้องเล็กๆ มาตัวนึง
ถ่ายไปก้อกๆ แก้กๆ มั่วเองไปมา ก็พบว่ามันไม่เห็นจะสวยเลย 555 อะ เข้ากรุ๊ปหัดถ่ายภาพหน่อย อ๋อออ มันต้องมีเลนส์ที่เหมาะสมสำหรับภาพแต่ละแบบนี่เอง เกิดพุทธิปัญญาและทุกขเวทนาขึ้นพร้อมกัน เนื่องจากค่าเลนส์แต่ละแบบก็ไม่ใช่ถูกๆ แต่ถ้าไม่ซื้อ ก็ทำงานแบบที่ต้องการไม่ได้ กล้องก็คงจะเปล่าประโยชน์ สรุปก็ถอยเลนส์มาอีกสองตัว หาที่ไม่แพงมาก
หัดใช้เลนส์ได้นิดหน่อย ถ่ายงานในบ้านบ้าง หน้าบ้านบ้าง ส่วนมากเน้นถ่ายภาพที่จะใช้ประกอบการสอน แบบที่เอาไปทำคู่มือและลงเพจลงไอจีได้ แต่พอของเริ่มเยอะ ก็เริ่มอยากลองเอาไปถ่ายแบบแฟชั่นดู
สถานที่ไม่ได้คิดล่วงหน้า แค่ไปนครนายก คิดว่าเจออะไรสวยก็แวะถ่าย ซึ่งที่แรกที่ไป "ทุ่งนามุ้ย" เป็นอะไรที่เฟล เนื่องจากในเว็บสวยมาก เขียวขจี แต่ของจริงไม่มีนาเลย ดินแตกเหมือนทุ่งกุลาร้องไห้
เราก็เลยเสิร์ชร้านกาแฟ ไปเจอร้านนึงที่ขายบิงซูหน้าตาดีอยู่แถวทางไปวัดหลวงพ่อปากแดง ไปถึงก็โอ้ ร้านน่ารัก เป็นเรือนกระจก มีตะบองเพชรตบแต่งนิดนึง มีสนาม มีเก้าอี้ทั้งในและนอกร้าน ที่สำคัญมีชิงช้าด้วย ได้ใช้เลย โชคดีไปเย็นวันธรรมดา ทั้งร้านจึงมีแต่คณะเรา
คอนเซปต์งานที่ต้องการถ่ายคือ เน้นความมินิมัล ดูสว่างสดใส ดูคลีน เราต้องการให้คนที่ได้ดูรู้สึกว่างานฝีมือเป็นงานที่เก๋ได้ ไม่ใช่งานที่เชยอีกต่อไป
เสียดายรีบไปหน่อย ลืมกระเป๋าตั้งหลายใบ งานหน้าค่อยถ่ายอีกที นครนายกใกล้แค่นี้เอง
ถ้าสนใจเรียนกระเป๋าใบไหน ติดต่อทาง line @crafttherapybkk นะค้า ^^
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in