วันที่ 6 : ตุ๊กตากระดาษ
ใกล้สอบมิดเทอมแล้ว…
นรกมาก!!!...
ชายหนุ่มเจ้าของห้อง 206 ในหอพักสองชั้นใกล้มหาวิทยาลัยกำลังนั่งพิมพ์งานที่โต๊ะญี่ปุ่นตัวเดิมอย่างขมักเขม้น ทั้งงานเดี่ยวงานกลุ่มเหมือนรุมเข้ามาในคราวเดียว จริงๆ อาจารย์ก็สั่งมาสักพักแล้ว แต่ก็นั่นแหละ ไม่น่าทำตัวสบายเกินเหตุเลย
นัยน์ตาสีน้ำตาลกวาดมองหนังสือบ้าง หน้าจอคอมบ้าง มือเรียววางมือบนแป้นคีย์บอร์ดแล้วรัวนิ้วลงตามตัวอักษรต่างๆ อยู่ร่วมสี่ชั่วโมงแล้ว เวลาที่ล่วงเลยมื้อเที่ยงมามากโขทำให้อีกคนที่อยู่ในห้องขยับตัวอย่างเป็นห่วง
“ไป… เดี๋ยวผมออกไปซื้อข้าวให้นะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆ พารักษ์ชะงักมือ มองตัวเลขบอกเวลาตัวเล็กๆ บนจอคอมพิวเตอร์พกพาแล้วได้แต่เอนหลังพิงกับโต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน
“หิวมากมั้ย”
“ผมไม่เป็นไร แต่คุณยังไม่กินอะไรตั้งแต่เช้าแล้ว” หนุ่มผมสีเงินอีกคนกล่าว มองขนมปังจากร้านสะดวกซื้อที่วางข้างๆ โต๊ะโดยที่ยังไม่ถูกแตะต้องตั้งแต่เมื่อเช้า เจ้าของห้องระบายลมหายใจพลางนวดหัวคิ้ว
“หิว… ออกไปกินข้าวกัน” พารักษ์ขยับตัวบิดไปมา อีกคนสะดุ้งมอง
“เดี๋ยวผมออกไปซื้อให้ก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลาคุณ”
“ให้ฉันออกไปไหนบ้างเหอะ ทำมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ตื่นมาก็ทำเลย ตอนนี้ไม่ไหว จะอ้วก” ใบหน้าพารักษ์ซีดเซียวเล็กน้อยเมื่อโหมทำรายงานที่ค้างอยู่ตลอด 3 วัน
“ครับ เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนกางเกงก่อน” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างดีใจ อย่างน้อยการได้ออกไปข้างนอกก็คงทำให้พารักษ์ผ่อนคลายได้ พารักษ์พยักหน้า
“เดี๋ยวขออาบน้ำสิบนาที”
.
.
.
การออกมาข้างนอกในช่วงบ่ายแก่ก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีนักเมื่ออากาศข้างนอกก็ยังคงร้อนจัด จะดีขึ้นหน่อยเมื่อบางจังหวะมีเมฆแผ่นใหญ่ลอยมาบดบังแสงแดดให้
“วันนี้ไม่ขับมอไซด์ออกมาเหรอครับ” คนข้างๆ ชวนคุย ชายหนุ่มนักศึกษาในชุดลำลองส่ายหน้า
“ถ้าไม่รีบก็จะเดินเอา รู้สึกดีกว่า” พารักษ์ตอบไป หูฟังสีขาวเส้นเดิมถูกสอดเข้ามาในหู โดยเหลืออีกข้างไว้เพื่อไม่ให้คนที่เดินอยู่เคียงข้างรู้สึกเหมือนโดนปล่อยให้เดินคนเดียว
คนแปลกหน้าพยักหน้ารับ นัยน์ตาสีทองอ่อนเหลือบมองพารักษ์แล้วได้แต่อมยิ้ม วันนี้พารักษ์เดินออกมาข้างนอกด้วยเสื้อแขนสั้นสีกรมท่า ใส่เสื้อแขนยาวสีเทากันแดดอีกชั้น กางเกงขาสั้นใส่สบายพร้อมรองเท้าแตะ ขณะที่ตัวเขาสวมเสื้อฮู้ดตัวเดิมคลุมศีรษะปิดหูสุนัขไว้เช่นที่ชอบทำแม้จะไม่มีใครเห็นก็ตามที กางเกงยีนส์ขายาวปิดหางนุ่มไว้ และรองเท้าผ้าใบคู่เก่าของตัวเอง
พารักษ์หันมองคนแปลกหน้าแล้วรู้สึกเหมือนวันที่ได้เจอกัน
“นาย…”
“ครับ?”
“นายเป็นใครกันแน่”
คำถามที่เคยเอ่ยถามแต่ไม่เคยได้รับคำตอบถูกเอื้อนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง คนแปลกหน้าเกร็งแข็งขึ้นจนพารักษ์สัมผัสได้ นัยน์ตาสีทองหลุบลงอย่างลำบากใจ
“ช่างเถอะๆ” พารักษ์โบกมือให้อีกฝ่าย ในเมื่อเจ้าตัวไม่อยากบอกเขาก็ไม่คิดจะคาดคั้น แม้ว่ามันจะแปลกไปเสียหน่อยที่เขาแทบจะไม่รู้จักอีกฝ่ายแล้วยังกล้าให้มาอยู่ร่วมห้องก็ตาม
นั่นสิ…ทำไมกัน...
“ตุ๊กตา…”
“หือ?”
“ผมเป็นตุ๊กตาครับ” ชายหนุ่มตัวสูงตอบเสียงหม่น พารักษ์หันมาขมวดคิ้วให้ อีกฝ่ายเพียงแต่ยิ้มเจื่อนๆ
“อธิบายเพิ่มได้มั้ย หรือไม่อยาก” ชายหนุ่มผมสั้นถาม
“อา… เป็นตุ๊กตาที่ใครจะสั่งให้ทำอะไรก็ได้ ให้ใส่ชุดไหนก็ได้ ให้ชอบหรือเกลียดใครก็ได้… ประมาณนั้นมั้งครับ” ชายแปลกหน้าผมสีเงินเอ่ยเบาๆ นัยน์ตาที่เคยมีประกายเหม่อมองออกไปราวกับมีภาพบางอย่างฉายเข้ามาในความทรงจำ
“นั่น… ฟังเหมือนตุ๊กตากระดาษที่เพื่อนตอนเด็กๆ ของฉันเล่นเลยนะ ฮ่ะๆๆ” พารักษ์หัวเราะแห้งๆ ราวกับอยากจะกลับมาสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น จึงได้รับรอยยิ้มบางตอบกลับมา ชายหนุ่มผิวแทนถอนให้ใจหนัก
“ไหนขอดูหน่อย เหมือนตุ๊กตาจริงๆ รึเปล่า” ว่าจบมือเรียวเอื้อมเข้าไปในหมวกเสื้อคลุมที่สวมปิดใบหูสีเทาข้างในไว้ ก่อนคว้าหูนุ่มไว้แล้วออกแรงบีบไม่เบานัก
“โอ๊ย! คุณ…” ชายหนุ่มเจ้าของหูที่โดนทำร้ายร้องเสียงหลง
“ตุ๊กตามันไม่เจ็บหรอกนะ…”
“...”
“ต่อให้มันถูกเปลี่ยนชุดไปกี่ชุดมันก็ทำได้แค่ยิ้ม แต่นายไม่ใช่ นายเจ็บเป็น มีความสุขเป็น เศร้าเป็น เสียใจเป็น เพราะงั้น… นายไม่ใช่ตุ๊กตาหรอก” พารักษ์ยิ้มให้คนที่ตัวสูงกว่า มือที่จับหูนุ่มสีเทาเปลี่ยนมาเป็นลูบเบาๆ ที่เรือนผมสีเงิน ชายหนุ่มแปลกหน้ามองสบพารักษ์ด้วยความรู้สึกหลายหลาย
อบอุ่น…
ปลอดภัย…
อยากปกป้อง…
และต้องการอยู่ด้วยตลอดไป…
……………..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in