เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
PARADENTISTRYBenchiro
Habsburg Jaw : คางยื่นจนบัลลังก์ล่มสลาย
  •        ในวิชา Ortho I (ทันตกรรมจัดฟันพื้นฐาน) คงเป็นครั้งแรกๆที่ชื่อ Habsburg Jaw ถูกเอ่ยถึง พร้อมกับการปรากฏตัวของรูปวาดชายหน้าเรียวคางแหลมปริศนา ที่ดูผ่านๆก็พอจะเดาได้ว่า น่าจะเป็นชนชั้นสูงชาวยุโรปสักคนในอดีต และแน่นอนเมื่อพ้นผ่านสภาพค๊องในช่วงสอบ Final วิชา Ortho ไปแล้ว Habsburg Jaw จึงกลายเป็นสิ่งที่นิสิตทันตแพทย์อย่างเราๆ ต่างเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงลักษณะ ขากรรไกรล่างยื่นยาว (mandibular prognathism) หรือที่เรียกแบบเก๋ๆว่า Skeleton Class III นั่นเอง
           
           แต่รู้ไหมครับว่า Habsburg Jaw อันยื่นยาวสะดุดตาของชายลึกลับคนนี้เอง คือส่วนหนึ่งของชนวนจุดเริ่มต้นในสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน (The War of the Spanish Succession, ค.ศ. 1701–1714) ที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 13 ปี และสิ้นสุดลงที่อำนาจการปกครองประเทศ รวมถึงอาณานิคมโพ้นทะเลของสเปน ไม่ได้ตกอยู่ภายใต้ราชวงศ์ Habsburg อีกต่อไป 


                                              ภาพวาด Charles II หรือ พระเจ้า Carlos II, ค.ศ. 1685
           ก่อนอื่นต้องขอแนะนำชายคนนี้ที่เราคุ้นหน้ากันดีก่อนครับ เขาคือ Charles II หรือ พระเจ้า Carlos II แห่งสเปน ว่ากันว่า Charles II นั้นมีลักษณะผิดปกติหลายอย่าง นอกจากจะมีขากรรไกรล่างที่ยื่นยาวจนเคี้ยวอาหารแทบไม่ได้แล้ว ยังมีบันทึกว่าพัฒนาการทางร่างกายและสติปัญญาของเขานั้น ก็ล่าช้ากว่าคนทั่วไปมาก คือกว่าจะพูดเป็นภาษาได้ก็ต้องรอกันถึง 4 ขวบ แถมกว่าจะหัดเดินได้ตอนอายุ 8 ขวบเข้าไปแล้ว ความอาภัพอีกอย่างหนึ่งของ Charles II คือจำเป็นต้องขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุ 3 ปี (ค.ศ. 1665) หลังจากที่พระราชบิดาสวรรคต นั่นหมายความว่า Charles II ได้กลายเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองสเปนและดินแดนโพ้นทะเลในอาณัติ ตั้งแต่ยังพูดเป็นคำไม่ได้ด้วยซ้ำ 
                                                   
                                                         ลำดับสายตระกูลของ Habsburg                                                                       (ที่มา : http://www.rebelcircus.com/blog/the-deformed-monarchs-the-habsburg-dynasty/)

           เคราะห์กรรมของ Charles II ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นคำสาปมรณะที่นำไปสู่สงครามสืบราชบัลลังก์ที่ดำเนินไปกว่าทศวรรษ ภายหลังที่ความรู้ทางการแพทย์พัฒนาขึ้น และชนรุ่นหลังพอได้มานั่งไล่ลำดับสายตระกูล (pedigree) ของ Habsburg แล้ว ก็ทำให้ต้องร้อง "อ๋อ" เพราะสาเหตุความผิดปกติหลายอย่างของคนใน The House of Habsburg นั้นเกิดจากการเลือกเสกสมรสกันเองระหว่างหมู่พระญาติใกล้ชิด (inbreed) เพื่อรักษาฐานอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจของราชตระกูล ให้ยังคงจำกัดอยู่แค่แวดวงและ connection ภายในราชวงศ์นั่นเอง ลักษณะทางพันธุกรรมที่ใกล้เคียงกันทำให้ gene pool ของ Habsburg ขาดความหลากหลาย gene ด้อยจึงมีโอกาสจับคู่กันมากขึ้นและปรากฏเป็นลักษณะด้อยต่างๆที่ผิดปกติในรุ่นลูกหลาน และหนึ่งในนั้นคือลักษณะ Habsburg Jaw ที่ปรากฏอยู่ในรูปวาดของ Habsburg's family หลายต่อหลายคน

                                            ภาพวาด Philip, Duke of Anjou หรือ พระเจ้า Felipe V
           ความอ่อนแอของ Charles II กลายเป็นวิกฤตและสร้างความกังวลให้กับราชสำนักสเปนในเวลานั้นเป็นอย่างมาก ชายคนสุดท้ายผู้สืบสายตรงจาก The House of Habsburg ผู้กุมชะตากรรมสายโลหิตศักดิ์สิทธ์ที่สืบมาตั้งแต่ The Holy Roman Empire เมื่อเจริญวัยก็พบว่าตนเองนั้นเป็นหมัน ไม่สามารถมีทายาทสืบราชบัลลังก์ได้ แม้จะแต่งงานถึง 2 ครั้งก็ตาม และในปี ค.ศ. 1700 เขาก็สวรรคตในวัย 38 ปี โดยไร้รัชทายาท เรื่องราวมันจึงเข้มข้นขึ้นเพราะว่าผู้ที่กลายมาเป็น candidate ลำดับแรกในโปเจียมการสืบบัลลังก์ปกครองสเปน ดันกลายเป็นหลานของ Charles II  ที่ชื่อว่า Philip, Duke of Anjou แต่ขณะเดียวกัน Philip ก็เป็นหลานปู่ของพระเจ้า Louis ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสอีกด้วย (คนเดียวกับที่สั่งให้บ้านไม้ทุกหลังใน Paris ฉาบเคลือบผนังด้วย Gypsum plaster ในบทความ Plaster of Paris ที่แล้วของผมนั่นแหละครับ ) เห็นมั๊ยครับว่าสายสกุลในราชวงศ์ยุโรปมันวุ่นวายพันกันอีรุงตุงนังขนาดไหน 555555 

                                                        ภาพวาด Leopold I, ค.ศ. 1672
           Philip นั้นถือว่าเป็นคนนอกของ Habsburg เพราะเขาอยู่ในสายตระกูล Bourbon แห่งฝรั่งเศส การอ้างสิทธิ์ครองราชย์ของ Philip นอกจากจะเป็นการยุติบทบาทของ Habsburg ที่มีเหนือสเปนมาอย่างยาวนานแล้ว ชาติอื่นๆในยุโรปทั้ง อังกฤษ ดัตช์ โปรตุเกส ยังกลัวว่านี่จะเป็นการสูญเสียสมดุลทางอำนาจครั้งสำคัญของยุโรปต่อฝรั่งเศส จึงเกิดการรวบรวมกำลังกันกลายเป็นพันธมิตรสนับสนุนให้ Leopold I แห่ง The Holy Roman Empire ที่ยังมีสายเลือด Habsburg อยู่กลายๆ ขึ้นปกครองสเปนแทน ซึ่งเหตุแห่งความขัดแย้งนี่เอง จึงก่อให้เกิดสงครามที่รบพุ่งกันยาวนานกว่า 13 ปี ที่มีชื่อว่า "The War of the Spanish Succession"  และท้ายที่สุดสงครามก็ยุติลงภายใต้สนธิสัญญา Utrecht  (Treaty of Utrecht, ค.ศ. 1713) ซึ่งมีเนื้อหายอมต่อรองดินแดนการปกครองกันระหว่างรัฐในยุโรป และไกล่เกลี่ยโดยยอมให้ Philip, Duke of Anjou แห่ง The House of Bourbon ขึ้นครองราชย์เป้็นพระเจ้า Felipe V ของสเปนได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องยอมสละสิทธิ์ในการสืบบัลลังก์ฝรั่งเศสแทน

                                             ภาพวาดการต่อสู้บนหลังม้าของ Philip, Duke of Anjou                                                                             ในสมรภูมิ Villaviciosa ท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อในปี ค.ศ. 1710
           ความพ่ายแพ้ของประเทศสหพันธมิตร และการเริ่มต้นของราชวงศ์ Bourbon เหนือสเปนของพระเจ้า Felipe V นี้เอง จึงถือเป็นการปิดฉากความเกรียงไกรของ Habsburg ที่มีมาอย่างยาวนาน ผืนแผ่นหญ้ากว้างไกลแห่งยุโรปใต้อันอุดมสมบูรณ์ จึงจำต้องผลัดใบจาก Habsburg สู่ Bourbon และมิเคยหวนกลับสู่ Habsburg อีกตลอดกาล ลักษณะด้อยทางพันธุกรรมอันแปลกประหลาดของ Habsburg's family จึงกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขาน ที่แพร่ผ่านกันในยุโรปหลังยุคกลาง และท้ายที่สุดจึงมาปรากฏอยู่ในตำรา Ortho ของพวกเรานั่นเอง 

                                               ภาพสมเด็จพระราชาธิบดี Juan Carlos I, ค.ศ. 2007
           แม้ Habsburg จะไม่เคยได้กลับมาปกครองสเปนอีก แต่สายเลือดของผู้คนในตระกูลก็ยังคงดำรงอยู่และหมุนเวียนแต่งงานผูกสัมพันธ์กันในหมู่ชนชั้นสูงของสเปนและยุโรปใต้กันต่อมา จนว่ากันว่าลักษณะคางที่ยื่นหน่อยๆของสมเด็จพระราชาธิบดี Juan Carlos I อดีตกษัตริย์สเปนในรัชกาลก่อน ก็อาจมาจากลักษณะทางพันธุกรรมของ Habsburg jaw ที่ยังคงหลงเหลือและถ่ายทอดมาสู่พระองค์ และนี่จึงอาจเป็นอีกข้อพิสูจน์ว่า แม้จะผ่านพ้นเวลามาหลายศตวรรษแล้วก็ตาม Habsburg ก็ไม่เคยจางหายไปจากสเปน หากแต่ยังแฝงเร้นอยู่ในพันธุกรรม และไหลแล่นอยู่ในพระโลหิตของหมู่พระราชวงศ์สเปน ราวกับว่ากำลังเฝ้ารอเวลา ให้สเปนนั้นกลับมาสู่ Habbsburg อีกครั้ง
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in