เธอจามออกมาสามครั้งติดกัน น้ำมูกใสคลอคั่งอยู่ในจมูก หญิงชราข้างตัวเธอกำลังหยิบเทกระเป๋าสตางค์ออกมานับเหรียญบาทเตรียมจ่ายค่ารถเมล์เสียงเหรียญขยับกรุ๋งกริ๋งไปมา ก่อนจะบ่นพึมพำอย่างขัดใจเมื่อพบว่าขาดไปเพียงบาทเดียว นางเทเหรียญบาทลงกระเป๋าก่อนจะหยิบแบงค์ยี่สิบออกมาคลี่สะบัด เธอจามออกมาอีกรอบอย่างสุดกลั้น กล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงติดจะอู้อี้เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของคนรอบข้างที่เหลือบมอง
ไม่น่าลืมเลย เมื่อเช้าว่าจะกินยามาก่อนแท้ๆ เธอได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ
กระเป๋ารถเดินมาหา เธอส่งกระดาษห่อเหรียญที่เตรียมมาก่อนให้ กระเป๋ารถเมล์หน้างอหงิกฉีกกระชากกระดาษห่อออกก่อนจะตีหน้ายักษ์ใส่ “ไม่รับเหรียญสลึง” เธอหน้าเสีย “ทำไมล่ะ” กระเป๋าไม่ตอบ หากแต่ตีหน้าถมึงทึงกว่าเก่า หยิบเหรียญออกมายัดใส่มือเธอ เธอตั้งท่าจะจามอีกรอบขณะที่ก้มหน้าควานหาเหรียญในกระเป๋าอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อหญิงชราข้างตัวเธอส่งเหรียญบาทในกระเป๋ามาให้ “เอ้านี่” ก่อนจะบ่นต่อ “เฮ้อ เด็กสมัยนี้นี่นะ นิดหน่อยก็ไม่ไหวแล้ว”
เธอจามสนั่นก่อนจะได้ตอบขอบคุณ
กว่าจะถึงที่หมายก็ราวกับฝ่านรก เธอหอบสังขารของตัวเองลงมายืนหอบอยู่ข้างทางก่อนจะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าต่อ เคราะห์ดีที่วันนี้รถไฟฟ้ายังไม่เสีย เธอลงจากรถ อารมณ์ดีขึ้นมานิดหนึ่ง จมูกก็พลอยจะโล่งขึ้นไปด้วย เธอแวะเข้าร้านกาแฟเจ้าประจำก่อนจะเข้าไปที่ทำงาน
“ลาเต้เย็นเพิ่มช็อตหวานน้อย นมโลว์แฟตค่ะ” เสียงของเธอยังคงอู้อี้อยู่บ้าง เจ้าของร้านที่คุ้นเคยกันยิ้มให้ ที่จริงก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าเธอจะสั่งอะไร “กินของเย็นๆจะดีหรือจ๊ะ เป็นหวัดอยู่รึเปล่า”
เธอหัวเราะ “ไม่หรอกค่ะ แค่ภูมิแพ้กำเริบนิดหน่อย”
“โรคเดิมอีกแล้วหรือ” เธอพยักหน้า นั่งลงรอกาแฟที่สั่งตรงเคาน์เตอร์ เหลือบไปเห็นเด็กใหม่ไม่คุ้นหน้าที่กำลังง่วนอยู่กับโน้ตบุ๊คประจำร้าน เพียงครู่หนึ่ง เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ ก็ดังคลอบรรยากาศ เธอคุ้นๆว่าเป็นเพลงจากหนังเก่าสักเรื่อง เจ้าของร้านหันไปหา “เปลี่ยนเพลงหน่อยเถอะ พี่ฟังเราเปิดเพลงนี้มาเมื่อวานทั้งวันแล้ว”
กาแฟเสร็จแล้ว เธอเดินไปรับกาแฟ หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อกดจ่ายผ่านแอพพลิเคชั่นตามที่เคยชินก่อนจะพบว่าไม่สามารถทำได้
“อ้อ พี่ลืมบอกไป วันนี้ rabbit ใช้ไม่ได้นะ เครื่องพัง ขอโทษที"
เธอได้แต่ยิ้ม ในใจนึกคำสบถเกรี้ยวกราด ขณะที่จำใจเปิดกระเป๋าสตางค์เพื่อหยิบธนบัตร เธอก็จามออกมาเป็นรอบที่สิบของวัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in