เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Out of the Blue Short Storiesnokaeyp
Cat Me If You Can
  • ความเป็นชายที่เห็นได้ชัดที่สุดของผมถูกทิ้งลงถังขยะ ให้ตายเถอะ ผมไม่มีสิทธิ์อะไรในชีวิตตัวเองเลยหรือไง ผมต้องน่ารัก อ้วนท้วน ขนนุ่มและหน้าโง่เท่านั้นเหรอคนถึงจะรักผม ขอทีเถอะ แมวเพศผู้วัยกำหนัดอย่างผมก็มีหัวใจนะ

    ย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์สะเทือนขวัญวันนี้เกิดขึ้น ผมนั่งอยู่ริมหน้าต่างเหมือนปกติ แต่จิตใจผมฟุ้งซ่านถึงสาวขนสีเทาข้างบ้าน ผมแอบมองดูเธอบ่อย ๆ ผ่านหน้าต่างบานนี้ เธอมักจะออกมาเดินเล่นกลิ้งไปกลิ้งมาบนสนามหญ้าอย่างสบายอารมณ์ตอนเย็น ๆ เธอน่ารักเป็นแมวนักผจญภัยตัวฉกาจเลยล่ะ สเปกผมเลย พูดตรง ๆ

    แต่เรื่องราวความรักแสนหวานมันก็แค่นิทานหลอกเด็ก ในชีวิตจริงก็มีแต่เรื่องน้ำเน่าโสมมทั้งนั้น เนื่องด้วยผมเป็นแมวพันธุ์ดีราคาร่วมแสนเจ้าของสุดที่รักของผมจึงหวงแหนผมยิ่งนัก พวกเขาจัดห้องหับให้ผมอย่างดีชนิดที่ว่าแมวตัวไหนมาเห็นเป็นต้องกรี๊ด เบาะนอนขนเป็ดพรีเมี่ยมนุ่มสบายเหมือนนิทราบนสรวงสรรค์ ของเล่นแมวแทบจะทุกประเภทบนโลกนี้วางอยู่เกลื่อนห้อง อาหารที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อขนสุขภาพดีและอ่อนนุ่ม ไม่หลุดร่วง ถ้าใครชอบโดนพะเน้าพะนอหรืออยู่แบบเจ้าชายล่ะก็ นี่แหละคือคำตอบของคุณ

    ตอนเป็นแมวน้อยไม่รู้สี่รู้แปดอะไร ผมก็เอนจอยกับการอยู่ในวังหลังนี้มาก แถมยังกระหยิ่มยิ้มย่องว่าตัวเองเป็นราชาแห่งสรรพสัตว์ทั้งปวง (ก็แหงสิ ทั้งบ้านมีผมเป็นแมวอยู่ตัวเดียว) ผมเท่สุด คูลสุด ใครก็เทียบไม่ได้

    จนวันหนึ่งเจ้าของบ้านเผลอเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ไอ้แมวน้อยจอมซนขี้สงสัยแบบผมก็อดไม่ได้ขอแอบออกไปเล่นนอกบ้านหน่อย ผมค่อย ๆ เดินไปบนหลังคาบ้านที่ร้อนจนแทบลวกเท้าตัวเอง ตอนนั้นยังอุตส่าห์คิดสงสารแมวที่ต้องทำแบบนี้ทุกวันด้วยนะ ชีวิตพวกเขาคงลำบากเหลือทน

    “ทำไมมันร้อนจังเนี่ย” แมวขนเยอะอย่างผมก็ย่อมขี้ร้อนเป็นธรรมดา                                                           

    เดินมาจนสุดขอบหลังคา ก็พบว่าไม่สามารถเดินต่อไปได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณผมก็รู้ว่าผมต้องกระโดดไปบนต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปตรงนั้น จึงจะไต่ลงไปถึงพื้นเบื้องล่างได้ แต่ปัญหาของผมก็คือ ต้นไม้อยู่ไกลไปและผมไม่เคยกระโดดไกลกว่าจากเตียงไปที่จานข้าวเลย ตอนนั้นยิ่งคิดก็ยิ่งสงสารแมวตัวอื่นที่มีชีวิตลำบาก

    ผมนั่งลงแล้วครุ่นคิดกับตัวเองว่าควรเอาไงต่อดี ถ้าโดดไม่พ้นผมอาจจะตกลงไปตายแหงแก๋ได้ (ตอนนั้นผมเด็กมาก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแมวกระโดดเก่งแค่ไหนและมีตั้งเก้าชีวิต!) ต้นไม้ต้นนั้นก็ดูเหมือนความฝันเลื่อนลอยที่ไม่น่าเป็นจริง ในขณะที่ผมกำลังจะถอดใจเดินกลับเข้าบ้านเสียงเล็ก ๆ เสียงหนึ่งก็ร้องเรียกผมไว้ก่อน

    “เฮ้! หวัดดี”

    ผมสะดุ้งแล้วก้มลงมองดูเจ้าของเสียงเรียก เธอเป็นแมวรุ่นราวคราวเดียวกับผมแต่เป็นพันทางสีเทาที่น่าจะมีเชื้อแมวไม่รู้กี่พันธุ์อยู่ในตัวเธอ เธอรูปร่างผอมเพรียวดูกระฉับกระเฉง แถมขนก็ไม่ได้หนาเตอะแบบผมด้วย

    “หวัดดี” เธอกล่าวทักทายอีกครั้ง 

    ผมอึ้งไม่รู้ว่าควรทำยังไง เกิดมาตัวคนเดียวไม่เคยมีเพื่อนมีสมาคมกับเขามาก่อน สิ่งเดียวที่สามารถเรียกว่าเพื่อนได้ก็คงจะเป็นตุ๊กตาฉลามหน้าตาซื่อบื้อที่ผมนอนกอดทุกคืน (โอเค ผมรู้ว่ามันฟังดูไม่เท่ แต่ผมก็เป็นลูกแมวน้อยน่ารักนะ จะให้ผมทำไง) ผมเงอะ ๆ งะ ๆ พยักเพยิดหน้าให้เธอ

    “นายเป็นแมวใบ้เหรอ” เธอถามอย่างฉงน “ฉันไม่เคยเห็นแมวใบ้มาก่อนเลย ปกติจะร้องเก่งกันทั้งนั้น”

    ยัยบ้านี่ปัญญาอ่อนมาก แค่ผมไม่พูดทักทายกลับก็ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นใบ้นี่ ด่วนตัดสินกันจริง ๆ คนเรา แมวผู้ภาคภูมิอย่างผมหัวเสียนิดหน่อยที่เธอหาว่าผมเป็นใบ้ เธอก็แค่แมวหน้าตาบ้าน ๆ กล้าดียังไงมาว่าผม

    “อะแฮ่ม ฉันพูดได้” ผมตอบกลับไป

    เธอดูร่าเริงขึ้นมา แล้วตอบผมด้วยน้ำเสียงใสแจ๋ว “เจ๋ง มาเล่นด้วยกันมั้ย”

    โอเค ยัยนี่คงบ้าจริง ๆ แหละ มีอย่างที่ไหนมาชวนแมวแปลกหน้าเล่นด้วย “เอ่อฉันว่าคงไม่เหมาะเท่าไหร่”

    “นี่ อย่าหยิ่งไปเลยน่า ถึงนายจะราคากี่แสนก็เท่ได้ไม่ถึงครึ่งฉันหรอก”

    อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่ผมบอกตอนนั้นผมคิดว่าผมเป็นแมวที่เท่ที่สุดในจักรวาลแล้ว มาเจอคำพูดสบประมาทแบบนี้ก็ต้องเดือดเป็นธรรมดา

    “ตัวเธอมีหมัดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันไม่เล่นกับแมวสกปรกหรอก” อย่าสปอยล์แมวคุณมากไปนะครับ ไม่งั้นพวกเขาจะนิสัยเสียเหมือนผม

    “มีแล้วทำไม ไม่ตายหรอกน่า ปัญญาอ่อน” แผงขนบนหลังเธอเริ่มฟูเล็กน้อย บ่งบอกว่าเธอก็ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่เช่นกัน เห็นอย่างนี้ได้ทีผมก็เอาใหญ่เลย “ยัยแมวราคาถูก สกปรก หน้าตาน่าเกลียด” ผมล้อเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก จนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นก็ทำเอาผมอึ้งไปเลย

    ผมหมุนตัวไปมาแล้วล้อเธอเหมือนไอ้งั่งสมองฝ่อ รู้ตัวอีกทีคือเธอมาอยู่ประชิดตัวผมแล้ว “เฮ้ย” ผมสะดุ้งโหยงร้องเสียงดัง รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ๆ เมื่อเห็นสายตามาดร้ายสีเขียวมรกตนั่น ผมรู้ได้ในทันทีว่าเธอเอาจริง เล็บของเธอยาวเป็นเงาวับสะท้อนกับแสงอาทิตย์ อาวุธร้ายนั่นเปรียบดังดาบซามูไรที่ถูกขัดจนคมกริบและตัดคอคุณได้ในเสี้ยววิ ขนตั้งฟูบนหลังเธอยิ่งน่าประหวั่นพรั่นพรึงในใจผมตอนนั้นสวดภาวนาอ้อนวอนพระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่หยุด

    ผมหลับตาปี๋ตอนได้ยินเสียงฝีเท้าและลบวูบใหญ่ที่หนาวจนแทรกผ่านชั้นขนหนาฟูของผม มันเสียดบาดผิวหนังผมแบบที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน นี่ผมตายหรือยังนะ

    แล้วตอนนั้นเองก็รู้สึกถึงสัมผัสนุ่ม ๆ ที่หน้าท้อง ผมกล้า ๆ กลัว ๆ ลืมตาขึ้นและคิดว่าตัวเองคงตัวโชกเลือดเรียบร้อยแล้ว แต่ทันทีที่ผมลืมตาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าไม่มีเลือดแม้สักหยด เห็นเพียงแต่เท้าสีเทาที่วางอยู่บนหน้าท้องตัวเอง เจ้าของเท้าข้างนั้นจ้องมองลงมาที่ผมราวกับพระเจ้ากำลังจะตรัสอะไรบ้างอย่างแก่ผู้ที่ท่านเพิ่งชุบชีวิต

    สายตาสีเขียวมรกตแน่วแน่ของเธอทำผมใจสั่น ตาสีขาว ๆ ของผมคงสวยไม่ได้ครึ่งสายตาเด็ดเดี่ยวคู่นั้นเธอยังคงจ้องผมอยู่อย่างพินิจพิเคราะห์ ผมแทบจะไม่หายใจแล้วในตอนนั้น เพราะผมเกร็งมากจนทำอะไรไม่ถูก กลัวว่าเสียงลมหายใจของตัวเองจะทำเธอหมดความอดทน เธอลงน้ำหนักของเท้าบนท้องผมมากขึ้น แต่แล้วก็ถอนเท้าออก แล้วนั่งลงพร้อมถอนหายใจ

    “ถ้าไม่ใช่นาย ฉันคงใส่จนยับไปละ”

    ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วถามเธออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “ทำไมเหรอ”

    “ไม่อยากรังแกเด็ก” เธอเหลือบตามองผมอย่างเซ็ง ๆ

    “ฉันขอโทษที่ทำเธอโกรธ” ผมนั่งคอตกอย่างเหงาหงอย

    “ช่างเถอะ ถ้านายไม่อยากเล่นกับฉันงั้นฉันไปล่ะ” เธอทำท่าจะลุกเดินไปแต่ผมวิ่งไปขวางเธอไว้ก่อน “เอ่อ อยากเล่นสิ ฉันอยากเล่นกับเธอ”

    เธอมองผมนิ่ง ๆ แล้วพูดว่า “งั้นก็ตามมา”

    แล้วผมก็ตามเธอไป จากนั้นเธอก็สอนผมให้กระโดดไปนู่นนี่ ลงจากที่สูงที่ผมไม่เคยทำมาก่อน สอนวิธีจับหนู จับนก จับงู หรือแมลงตัวเล็ก ๆ เธอสอนผมทุกอย่างที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน ตลอดเวลาสามเดือนต่อมาหากเจ้าของผมลืมปิดหน้าต่างอีก ผมก็จะแอบออกมาเล่นกับเธอ เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขสุด ๆ เลยล่ะ

    ผมอายุเจ็ดเดือนแล้ว หนุ่มแน่นพอที่จะตื่นเต้นเมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ สาว ๆ ใจผมเต้นแรงเมื่อเห็นเธอมองมาจากสนามหญ้าบ้านเธอ ถึงหน้าเธอจะนิ่งตามประสาแมวแกร่งที่ไม่สนโลก แต่สายตาเธอกำลังส่งยิ้มมาให้ผม ตัวผมร้อนรุ่นไปหมดและผมรู้ดีว่ามันคือไฟรักที่กำลังปะทุเหมือนภูเขาไฟรอวันระเบิด

    ผมยกเท้าขึ้นแตะกระจกหน้าต่าง อยากใช้เท้าข้างนี้สัมผัสขนนุ่ม ๆ สีเทาของเธอแทบขาดใจ ทำยังไงดีนะ ทำยังไงผมถึงจะได้ออกไปหาเธอและสารภาพความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีต่อเธอ

    “ว่าไงจ๊ะ แดนดี้ มานี่มา” เจ้าของของผมอุ้มผมเข้าไปกอดอย่างรักใคร่ เธอพาผมไปนั่งที่โซฟาข้างสุดที่รักของเธอ ผมลุกขึ้นยืนจะเดินกลับไปที่หน้าต่างเพื่อมองหญิงสาวในดวงใจของผมอีกครั้ง แต่เจ้าของก็รั้งผมไว้ “เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วนะเนี่ย แม่จัดนัดบอดให้แดนดี้แล้วนะครับ”

    นัดบอดบ้าบอคอแตกอะไรผมไม่รู้จัก ถึงผมจะฝืนและดิ้นแค่ไหนสุดท้ายก็โดนจับยัดเข้ากรงขึ้นรถไปอยู่ดี ผมประท้วงด้วยการร้องเสียงดังลั่นรถตลอดทาง ผมจะกลับบ้านไปหาหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจ

    “เป็นอะไรของเขานะ สงสัยตื่นเต้นจะได้ไปเจอสาว ฮิ ๆ แหนะ แซวนิดแซวหน่อยทำหน้าบึ้ง” ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าเจ้าของผมประสาทขนาดนี้ ที่ผมทำหน้าบึ้งแบบนี้ก็เพราะไม่สบอารมณ์ไง ผมจึงเพิ่มเลเวลการประท้วงด้วยการตะกุยกรงอย่างบ้าคลั่ง

    รถจอดที่บ้านหลังหนึ่ง ผมถูกนำตัวมาพบกับแมวสาวพันธุ์เดียวกันที่มีขนสีขาวราวกับหิมะ เธอนั่งนิ่ง ๆ มองผมด้วยสายตาเหนียมอาย แต่ผมพอจะสัมผัสได้ว่าเธออยากจะมอบกายถวายเรือนร่างให้ผมขนาดไหน ให้ตายสิ มนุษย์นี่จะบงการทุกอย่างในชีวิตคนอื่นเลยหรือไง

    ผมส่งสายตาเป็นเชิงว่า “ขอโทษทีนะน้อง พี่ไม่สน” แล้วเหมือนเธอก็จะรู้สึกได้แต่เธอหาได้แคร์ไม่ กลับเดินเข้ามาเอาตัวถูไถผม ผมกระโดดหนีและส่งเสียงขู่ฟ่อ ขนบนหลังตั้งชันด้วยความหงุดหงิด ถ้าใครอยากเห็นแมวหนุ่มเลือดร้อนก็เตรียมตัวต้อนรับผมได้เลย แทนที่จะถอยไป เธอดูจะชอบใจและเข้ามายุ่งกับผมมากขึ้น จนผมสติแตกฟาดเล็บเข้าใส่เธออย่างจังจนเลือดกระฉูด

    แล้วก็ตามคาดเสียงกรีดร้องของสตรีเลี้ยงแมวทั้งสองคนก็ดังระงมรบกวนโสตประสาทผมเป็นที่สุดก็สมควรแล้วไงบังคับให้ผมทำนู่นทำนี่อยู่ได้ ผมบอกอะไรก็ไม่ฟัง

    “ขอโทษนะคะ ขอโทษจริง ๆ ฉันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ แดนดี้ มานี่เลยนะ ทำไมนิสัยไม่ดีแบบนี้”

    “ก็ฉันเป็นแมว” ผมตอบออกไปแต่เธอคงได้ยินแค่เสียงร้องเหมียวแบบไร้อารมณ์

    ผมสงสารเด็กที่กำลังจะเกิดออกมาเป็นลูกเจ้าของสองคนของผมมาก เพราะเธอบ่นตลอดทางที่กลับบ้าน เธอบ่นแมวที่เธอก็รู้ว่าฟังภาษาคนไม่ออก บ่นอย่างกับว่าผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยแมวระดับโลกไม่ติดเพราะไม่ขยันหาเส้นสายในสังคมแมวผู้ดี นึกภาพตัวเองอยู่ในงาน Aristocat ของพวกคน Aristocrat แล้วขนลุกขนพอง

    เรื่องราวทั้งหมดนี้นำมาสู่เรื่องสะเทือนขวัญที่ผมเล่าให้ฟังตอนต้นเรื่อง เจ้าของผมคิดว่าในเมื่อผมเป็นแมวนิสัยเสียไม่เอาใคร งั้นผมก็ไม่ต้องเอาไข่ ตัดมันทิ้งไปเลย! แล้วก็กลายเป็นแมวอ้วนนอนอืดอยู่บ้านไปจนตาย

    บอกตามตรง ผมห่อเหี่ยวใจมาก ความเป็นชายของผม ตัวตนของผม ทำไมมันถึงต้องถูกกำหนดโดยคนที่ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะรักและเข้าใจผมมากที่สุด เจ้าของที่ดูแลทะนุถนอมผมมาตลอดเจ็ดเดือน กลับไม่เข้าใจธรรมชาติของแมวเลยสักนิด พวกเขารักผมยังไงถึงขังผมไว้ในบ้าน ไม่ให้ผมคบค้าสมาคม แล้วยังบังคับให้ผมมีอะไรกับคนที่ใจผมไม่ต้องการอีก

    ผมหดหู่ใจเหลือเกิน ใครบอกว่าแมวเป็นสัตว์ด้านชา ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นสัตว์ที่อ่อนไหวขนาดนี้ ผมเกิดมาพร้อมสัญชาตญาณสัตว์ป่าและโหยหาอิสระ แต่กลับไม่มีใครเข้าใจผมเลย ทุกคนหวังให้ผมเป็นสัตว์เชื่อง ๆ ขี้อ้อนและติดบ้าน แล้วไหนล่ะชีวิตของผม

    ผมไม่กินข้าว ไม่นอน และไม่ไหวติง คืนนี้ฝนตกปรอย ๆ ผมนั่งฟังเสียงเปาะแปะของฝนอย่างเลื่อนลอย แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นขัดความคิดผม

    ตึก ตึก                    

    เงาตะคุ่มตรงหน้าต่างเป็นเจ้าของเสียงเคาะนั่นเอง ผมนั่งนิ่งไม่รู้ว่าควรทำยังไง ผมไม่เหลือความเป็นชายแล้ว ผมจะกล้าสู้หน้าเธอได้ยังไง เธอผู้ที่ผมอยากเป็นชายมาดแมนที่สุดเพื่อปกป้องเธอ...

    เมื่อเห็นว่าผมไม่เดินไปที่ริมหน้าต่าง เธอก็เคาะอีกครั้ง ผมเห็นว่าฝนเริ่มลงเม็ดหนา จะปล่อยเธอให้ตากฝนแบบนั้นก็กลัวเธอจะป่วยเอา เลยจำใจเดินไปที่หน้าต่างลับเล็ก ๆ ในห้องน้ำที่ผมบังเอิญเจอเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แล้วเอาเท้าดันให้หน้าต่างเปิดออก ตามความเคยชิน เธอกระโดดลอดผ่านทางหน้าต่างเข้ามาอย่างเชี่ยวชาญ

    “ฝนท่าจะตกหนัก” เธอเอ่ยแล้วเดินไปนั่งริมหน้าต่าง ดูฝน

    ผมมองเธออยู่ห่าง ๆ ไม่กล้าเข้าไปใกล้ กลัวเธอเห็นว่าผมไม่แมนเต็มตัวแล้ว ผมจึงนั่งอยู่ในเงามืดเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร “ทำไมไปนั่งตรงนั้นล่ะ มานั่งด้วยกันสิ” เธอร้องเรียก

    ผมส่ายหัวและนั่งอยู่ที่เดิม

    เมื่อเห็นว่าผมคงไม่ยอมเดินไปหาเธอง่าย ๆ เธอจึงเดินเข้ามาหาผมแทน ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอหัวใจผมหล่นวูบ เธอช่างสง่างามและแข็งแกร่งเหลือเกิน ไม่เหมือนผมที่อ่อนแอและไม่สามารถปกป้องเธอได้ เธอเดินเข้ามาใกล้ แต่ผมก็ถอยห่าง ผมยอมให้เธอเห็นผมในสภาพนี้ไม่ได้

    “ฉันรู้เรื่องแล้วนะ” เธอเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบา

    เธอรู้เหรอ ผมคิดในใจ และเหมือนว่าเธอจะอ่านใจผมออก เธอก็ตอบว่า “ฉันได้ยินที่เจ้าของนายพูดกับเจ้าของฉันน่ะ”

    เฮ้อ เธอรู้แล้ว เธอคงรู้สึกสมเพชผมมาก “งั้นเหรอ”

    เกิดความเงียบเนิ่นนาน เราสองคนนั่งอยู่ในมุมมืด ๆ แต่สายตาของแมวแบบพวกเราต่างมองเห็นกันทะลุปรุโปร่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าสิ้นหวัง แม้แต่ความมืด แมวก็ยังเอาชนะได้แต่ทำไมผมถึงเลือกทางของชีวิตตัวเองไม่ได้

    “นี่” เสียงเธออ่อนโยนเสียจนผมใจสั่นระรัว เธอเดินเข้ามาใกล้ผมแล้วเอาหัวของเธอถูกับหัวของผมเบา ๆ คล้ายกับจะปลอบโยน หากผมมีน้ำตา ตอนนี้มันคงไหลอาบแก้มแล้ว 

    “ฉันรักนายนะ”

    ...

    เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ผมยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น ผมกำลังฝันไปใช่ไหม นี่คงไม่ใช่เรื่องจริง แต่แล้วเธอก็พูดประโยคนั้นซ้ำอีก ไออุ่นจากกายเธอแผ่ซ่านผ่านชั้นขนหนาของผมแบบที่ผมไม่เคยรู้สึกอบอุ่นขนาดนี้มาก่อนไม่ว่าในอ้อมกอดใคร

    ...

    “นายไม่ได้ฝันไปหรอกนะ”

    ผมตั้งสติแล้วถามเธอออกไปแผ่วเบา “แต่... แต่ฉันไม่...ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนเดิมแล้ว”

    “ไม่ นายสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว เป็นความไม่สมบูรณ์แบบที่สมบูรณ์แบบที่สุด” เธอถูแก้มผมอีกครั้งอย่างรักใคร่

    “แต่ว่าเรา... เราจะทำอย่างนั้นไม่ได้ เราจะมีลูกตัวน้อย ๆ ด้วยกันไม่ได้”

    “นายคิดว่าตัวเองเป็นแมวตัวเดียวที่ไม่สมบูรณ์แบบเหรอ”

    “หมายความว่าไง”

    “สองวันก่อนเจ้าของพาฉันไปหาหมอ หมอบอกว่าฉันต้องผ่าเอามดลูกออกเพราะฉันมีเนื้องอก” เธอก้มหน้าลง และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเผยด้านที่อ่อนไหวของเธอให้ผมเห็น

    “เมื่อไหร่ล่ะ”

    “มะรืนนี้”

    เธอนอนลงบนพื้น ผมเองก็นอนลงข้าง ๆ เธอ เอาเท้าโอบกอดเธอไว้เธอซุกหน้าลงกับอกผมเหมือนต้องการที่พักพิง ไม่อยากเชื่อเลยว่าแมวกาก ๆ อย่างผมจะได้นอนกอดแมวที่แกร่งที่สุดในโลกตัวหนึ่งที่ผมรู้จัก ผมกระซิบข้าง ๆ หูเธอด้วยน้ำเสียงจริงจังและจริงใจ...

    “ฉันรักเธอ รักเธอมาก ๆ เลย สมสึ”

     

     


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
growingfs (@growingfs)
เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ เลยครับ.. :)
nokaeyp (@nokaeyp)
@growingfs ขอบคุณค่ะ :)
giftmeme (@giftmeme)
ชอบมากเลย! ชอบปากคอที่เราะร้ายของแมวมาก ๆ สมเป็นแมวจริง ๆ เลยให้ตาย
nokaeyp (@nokaeyp)
@giftmeme นี่คือจิตวิญญาณดิบของคนเขียนไงล่ะ แบบโนฟิลเตอร์ 55555
A38 (@fb1000003814022)
เห้ยคืออ่านเพลินๆๆๆ
nokaeyp (@nokaeyp)
@fb1000003814022 ไปอ่านเรื่องอื่นได้อีกนะคะ ;-)