• Bullet Journal จัดระบบความคิด จัดระเบียบชีวิตด้วยบุลเล็ตเจอร์นัล ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยเตือนความจำต่อการทำงานและกิจกรรมต่างๆเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้เรารู้จักตนเอง รักตนเองและยังทำให้เรามีความมั่นใจในตนเองมากขึ้นด้วยการจดที่แสนเรียบง่าย สะดวกรวดเร็ว ปรับเปลี่ยนง่ายให้เหมาะในแบบตนเอง

• อุปกรณ์แค่ สมุดสักเล่ม กับปากกาที่ชอบ ก็เริ่มเขียนได้แล้ว

สวัสดีค่ะทุกคน ตอนนี้เพื่อนๆเป็นอย่างไรกันบ้างคะ สบายดีไหม เมื่อคืนเข้านอนกี่โมงแล้ววันนี้ตื่นเช้าหรือเปล่าคะ สำหรับบางคนวันนี้อาจจะเป็นวันพร้อมพักผ่อน ผ่อนคลายสบายๆด้วยการนั่งอ่านหนังสือดีๆสักเล่มพร้อมกับจิบชา กาแฟยามเช้าไปด้วย หรือบางคนก็มีแพลนจะดูซีรี่ย์ยาวตลอดทั้งวัน เพื่อหยุดจากการเรียนและการทำงานที่แสนจะเหนื่อยล้าเข้าเต็มที แต่สำหรับบางคน วันนี้อาจจะเป็นวันที่ยุ่งตั้งแต่รุ่งเช้าจนไม่มีเวลาได้พักดื่มกาแฟเลยก็ได้ ไหนจะประชุมที่นัดกันตั้งแต่ 9 โมง ไหนจะวิชาเรียนที่วันนี้อาจารย์ดันขอสอนก่อนเวลา ไหนจะลืมว่าวันนี้จะต้องไปซื้อของอะไรบ้าง การบ้านที่ต้องรีบปั่นกันให้เสร็จก่อนกำหนดการส่ง พอปั่นเสร็จปั๊ป เอ้า! ลืมว่าต้องส่งตั้งแต่เมื่อวานก่อนแล้ว นี่ฉันลืมไปได้ยังไงกันนะ ความเร่งรีบนี่กระทบต่อเวลาชีวิตไปหมด 

สำหรับบางคนอาจจะวางแผนจัดตารางกำหนดการต่างๆของวันนั้นๆมาแล้วอย่างดี แต่กับบางคนก็เป็นเรื่องยากจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มจดบันทึกแพลนกิจกรรมไหนควรมาก่อน งานไหนควรจะมาทีหลัง อยากจะจัดระเบียบชีวิต อยากบันทึกสิ่งต่างๆที่เจอในวันนี้เพื่อวันข้างหน้าจะได้แก้ไขได้ อยากได้ความบาลานกับชีวิต แต่ก็ดูจะยุ่งยากเข้าไปทุกทีพอนึกถึงคำว่า “จดบันทึก”
เอาล่ะค่ะ ถ้าคุณคือคนที่อยากจะจัดระบบระเบียบกับกิจวัตรประจำวันของตัวเองใหม่เพื่อคลายความยุ่งยากของชีวิต เพื่อจะได้ไม่ต้องมาลืมสิ่งสำคัญต่างๆ หรือใครที่อยากเริ่มต้นด้วยการจดบันทึกแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร จะเขียนตรงไหน อะไรดีนะ เราแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ

Bullet Journal จัดระบบความคิด จัดระเบียบชีวิตด้วยบุลเล็ตเจอร์นัล

หนังสือที่เล่าประสบการณ์และวิธีการจดบันทึก Bullet Journal จากประสบการณ์ส่วนตัวของคุณ Marie เจ้าของหนังสือเล่มนี้ เธอได้เล่าจุดเริ่มต้นของการจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำ การบันทึกรายวันและรายเดือน ตารางนัดหมาย ภาระงานต่างๆ รวมไปถึงประโยชน์ดีๆที่จะได้จากการจดบันทึก

อ่านมาถึงตรงนี้ดูๆ แล้วรายการเยอะแยะไปหมดเลยใช่ไหมคะ แต่จะบอกว่า รายการเหล่านี้มันสามารถรวมอยู่ในเล่มเดียวของสมุดบันทึกของเพื่อนๆได้โดยที่มันจะไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอีกต่อไปเลยค่ะ เราจะมาสรุปหัวข้อหลักๆที่มีในหนังสือเผื่อว่าจะช่วยเป็นไกด์นำทางให้เพื่อนๆผู้ที่อยากเริ่มได้ลองทำตามในสิ่งที่คุณ Marie เขียนไว้ในเล่มนี้กันดูนะคะ

“หากคุณจดบันทึกไปเรื่อยๆ สมุดบันทึกของคุณจะช่วยให้คุณได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน”

ก่อนจะเริ่มจด เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าว่า Bullet Journal คืออะไร

คุณ Marie ได้อธิบายไว้อย่างเข้าใจง่ายๆว่า Bullet หมายถึง “จุด” เป็นสัญลักษณ์ที่ไว้ใส่ข้างหน้าข้อความที่จะเขียนเรียงเป็นข้อๆ เพื่อที่จะสามารถจัดการกับกำหนดการและงานต่างๆได้ง่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดังนั้น Bullet Journal คือ ระบบการจัดระเบียบตารางเวลาและงานด้วยการจดบันทึก ในปัจจุบัน เราจะเห็นได้ตามโซเชี่ยล หรือใน Instagram เกี่ยวกับไอเดียการเขียนบันทึกรวมไปถึงไอเดียการตกแต่งเพื่อความสวยงาม ทำให้ความเข้าใจต่อการจดบันทึกเริ่มเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ถ้ากลับมามองถึงจุดประสงค์หลักจริง

Bullet Journal เน้นการจดที่เรียบง่าย รวดเร็ว และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามความสะดวกของผู้ใช้ โดยไม่มีกรอบและกฎตายตัว เครื่องมือมีแค่กระดาษและปากกาเท่านั้น ที่สำคัญ “ใช้ได้กับสมุดทุกรูปแบบ”

Bullet Journal ถูกคิดค้นขึ้นโดยคุณไรเดอร์ แคร์รอล์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของโรคบกพร่องทางการเรียนรู้และไม่ค่อยมีสมาธิจดจ่อที่เขาต้องเผชิญ จากการทดลองผิดถูกจนได้วิธีจดบันทึกที่ช่วยให้หาข้อมูลสำคัญเจอในทันทีและเพียงมองปราดเดียวก็เข้าใจ ทำให้ Bullet Journal เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่แพร่หลายไปทั่วเนื่องจาก ความง่าย สะดวก กระชับต่อการจดจำนั่นเองค่ะ

ตอนนี้เพื่อนๆก็เริ่มเข้าใจกับแนวคิดของ Bullet Journal กันแล้ว เรามาดูกันว่าคุณ Marie แนะวิธีการจดอย่างไรบ้าง

โครงสร้างพื้นฐานของ Bullet Journal ถูกแบ่งไว้เป็น 4 อย่าง

1. ดัชนี (Index) จะอยู่ในหน้าแรก มีไว้เขียนหัวเรื่อง เลขที่กำกับเพื่อการเข้ามาเปิดค้นสิ่งที่เราเคยจดไว้ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

2. บันทึกอนาคต (Future Log) ใช้เขียนแผนการที่ต้องทำหรือสิ่งที่อยากทำในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

3. บันทึกประจำวันเดือน (Monthly Log) เพื่อเขียนปฎิทินสำหรับ 1 เดือนและรายการสิ่งที่ต้องทำในเดือนนั้นๆ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้มองเห็นกำหนดการและสิ่งที่ต้องทำใน 1 เดือนไปพร้อมๆกัน

4. บันทึกประจำวัน (Daily Log) ไว้จดบันทึกรายวันโดยอาจจะมีรายการสิ่งที่ต้องทำในวันนั้นๆ กำหนดการต่างๆ ไอเดีย งาน ของที่จะซื้อหรือเรื่องเล่าที่พบเจอของวันนั้น

นอกจากโครงสร้าง 4 อย่างนี้แล้วก็ยัง “สามารถเพิ่มหน้าไว้เขียนสิ่งที่เราชอบ สนใจได้อีกตามใจชอบ” เช่น

• รายการสิ่งที่อยากทำในปีนี้ ภาพยนตร์ที่ได้ดูไปแล้ว
• หนังสือที่อ่านแล้ว, บันทึกการท่องเที่ยว
• ตารางบันทึกเรื่องเรียนแบบรายเดือน
• รายการรายรับ-รายจ่าย
• ตารางติดตามพฤติกรรรมที่อยากสร้างให้เป็นนิสัย หรือตารางติดตามสิ่งที่อยากตรวจสอบในแต่ละวันลงไปในบันทึกประจำเดือน (Habit Tracker)
• ความคิด ไอเดียเก๋ๆที่อยากจดไว้ เป็นต้น

เมื่อเริ่มรู้แล้วว่าเราอยากจะเขียนอะไรลงไปในสมุดของเราบ้าง สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือ

“สัญลักษณ์” หรือ Key ที่เรากำหนดขึ้นให้กับสิ่งที่เขียนเรียงเป็นข้อๆ เพื่อให้รู้ว่าแต่ละงาน จัดอยู่ในประเภทไหน สำคัญระดับไหน ช่วยให้เราเข้าใจในทันทีในพริบตา เช่น

 .  สร้างงาน

X งานที่ทำเสร็จแล้ว

> เลื่อนงานออกไป

< กำหนดวัยที่จะลงมือทำงานได้แล้ว

นอกจากนี้ก็สามารถเพิ่มสัญลักษณ์อื่นๆกับรายการต่างๆได้เช่นกัน อาจจะเป็น สัญลักษณ์รูปหัวใจ หน้ารายการหรือเรื่องที่ทำให้รู้สึกดีก็ได้นะ

การแบ่งย่อยงานให้มีขนาดเล็กลง

ย่อยงานลงมาโดยระบุเวลาที่จะใช้ในการทำงานนั้นๆตามความเป็นจริง ช่วยให้เรากระตือรือร้นที่จะทำงานต่างๆได้สำเร็จลุล่วงและไม่เสี่ยงต่อการเลื่อนงานไปทำวันอื่น

ตัวอย่าง “จัดห้องนั่งเล่น” ย่อยงานออกมาเป็น

• จัดชั้นวางโทรทัศน์ 5 นาที
• จัดบริเวณคอมพิวเตอร์ 10 นาที
• ดูดฝุ่น 10 นาที

การเขียนรายการวิธีรับมือกับความเครียด

คุณ Marie กล่าวในเล่มว่า มันเป็นวิธีการรักษาด้วยจิตบำบัดวิธีหนึ่ง โดยขั้นตอนคือ

• เขียนรายการวิธีรับมือกับความเครียด อะไรก็ได้ค่ะที่ทำแล้วรู้สึกดี เช่น ไปกินไอศครีม, เดินเข้าร้านหนังสือ, เดินเล่นในห้าง
• เมื่อรู้สึกเครียดให้ลงมือทำตามรายการที่เขียนไว้
• เช็คดูว่าวิธีที่ใช้ไปได้ผลหรือไม่ พร้อมทั้งให้คะแนนกับรายการที่เราทำไปแล้ว

วิธีนี้น่าสนใจมากๆค่ะ แอบบอกว่าเราทำตามแล้วได้ผลดีมากๆด้วย มันช่วยให้สมองโปร่งมากขึ้น แล้วเป็นการรับสิ่งดีๆเข้ามาทำให้เรามีกำลังใจอยากจะกลับไปทำงานที่ค้างคาต่อให้เสร็จ หรือสามารถกลับไปเผชิญหน้ากับวันที่แสนเครียดได้ค่ะ แนะนำเลยค่ะวิธีนี้ดีมากจริงๆ

หลักๆใน Bullet Journal ก็จะมีประมาณนี้ค่ะที่คุณ Marie ได้แบ่งจำแนกสิ่งสำคัญต่างๆไว้ พอเมื่อไว้ลองเริ่มแล้ว คุณจะพบว่าข้อดีของการจดบันทึกที่ให้เราได้มากกว่าที่เราคิดเยอะเลยค่ะ โดยส่วนตัว เราค้นพบประโยชน์ข้อดีต่างๆจากการจดเหมือนกับที่คุณ Marie ได้บอกไว้ในเล่มเลย

ข้อดีของการจด Bullet Journal

1. ไม่จำกัดพื้นที่สำหรับการเขียนบันทึกในแต่ละวัน
2. สามารถเขียนอะไรก็ได้อย่างอิสระ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเขียนได้ตลอดแล้วแต่ความสะดวกสบายต่อการใช้งานของตนเอง
3. จดได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อกลับมาดูก็สามารถจดจำและเข้าใจได้ปราดเดียว
4. ทำให้เรามองเห็นและจัดการสิ่งที่สำคัญและไม่สำคัญได้ และยังสามารถแยกแยะลำดับงานก่อนหลังได้ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
5. การจดบันทึกช่วยให้เรารู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ช่วยให้ไม่ลืมสิ่งที่เราอาจจะมองข้ามไป ซึ่งจุดเล็กๆนั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาตนเองไปอีกก้าวด้วยค่ะ
6. ทำให้เราได้ทบทวน ประเมินตนเอง รู้จักตนเองมากขึ้น รับรู้จุดแข็ง-จุดอ่อนที่อยากจะปรับปรุงแก้ไขของตนเอง
7. การจดบันทึกทำให้เรามีความมั่นใจในตนเองและมองเห็นความสำเร็จของตนเองมากขึ้นค่ะ

ทั้งหมดที่ได้เขียนไปนั้นคือใจความสำคัญของ Bullet Journal ที่คุณ Marie พบว่ามันเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกต่อการจัดระเบียบการกิจกรรมต่างๆรวมถึงตนเอง ถ้าหากว่าเพื่อนๆเริ่มมีไฟอยากเขียนแล้ว ลองหาสมุดที่เราชอบสักเล่ม ปากกาดีๆ อุปกรณ์แค่นี้ก็เพียงพอต่อการจดบันทึกแล้วค่ะ ไปเริ่มจดบันทึกกันเถอะ ลุย!

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจไอเดียเพิ่มเติมหรืออยากติดตามคุณ Marie นะคะ สามารถเข้าไป Blog ได้ที่นี่เลยค่ะ https://mandarinnote.com/ หรือ Twitter @marie__100

ปฎิทิน Journal ของเราในธีมซีรี่ย์ Friends ค่ะ

แอบมาแชร์นิดๆว่านี่คือ Journal ของเราค่ะ เป็นรูปแบบปฎิทินที่มี Mood Tracker, Sleep Tracker, Goal ของเดือนนั้นๆ

ไว้ครั้งหน้าเราจะมาแชร์ Bullet Journal ของเราให้เพื่อนๆว่าของอะไรบ้างแบบละเอียดกว่านี้ สำหรับโพสนี้ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมากๆที่อ่านกันจนจบนะคะ หวังว่าสรุปของเราจากหนังสือของคุณ Marie จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจต่อผู้ที่อยากเริ่มต้นการจดบันทึกนะคะ ไว้เจอกันโพสหน้าค่ะ มีความสุขมากๆนะคะทุกคน เย้!

เรามี Instagram @peanutbutterinthemoon ส่วนมากเราจะโพสรีวิวหนังสือ การทำปฎิทินของเรา งาน Collage Art และ บันทึก Study ของเราค่ะ ถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปรับชมหรือติดตามกันได้นะคะ ;)