เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryPYF48
บันทึกการอ่านหนังสือสอบแพทภาษาญี่ปุ่น
  • สวัสดีค่ะ :- ) 
    ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราเป็นเด็ก61ค่ะ ผ่านการสอบแพทภาษาญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นี้ เราได้คะแนน261คะแนนค่ะ เนื่องจากรอมหาลัยเปิดเทอมอย่างยาวนาน 
    เราเลยอยากจะมาเขียนบันทึกนี้ เผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้น้องๆที่เตรียมตัวสอบอยู่ค่ะ แล้วก็อยากบันทึกเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นการทบทวนตัวเองไปด้วยว่าทำอะไรบ้างกว่าจะมาถึงจุดนี้ ฮ่าๆ
    _____
    สิ่งที่เราเขียนไปเป็นแนวทางการอ่านหนังสือของเรานะคะ ซึ่งแต่ละคนก็มีแนวทางและความถนัดไม่เหมือนกัน อยากให้ลองอ่านเรื่องของเราและถ้ามีจุดไหนสามารถนำไปประยุกต์กับการอ่านหนังสือของตัวน้องๆเองได้เหมาะสม เราก็จะดีใจนะคะ 
    _____
     เนื่องจากเราเป็นติ่งวงญี่ปุ่นด้วย นี่จึงเป็นการเรียนประยุกต์กับการเป็นโอตะในแบบของเรานะคะ อาจจะออกทะเลไปบ้างบางเนื้อหา      โดยเฉพาะเวลาพูดถึงวงที่ชอบ แต่มันหยุดไม่ได้จริงๆค่ะ หัวใจมันเรียกร้อง ***

    ระยะเวลาในการเตรียมตัว

    เราเริ่มอ่านหนังสือเพื่อการสอบแพทอย่างจริงจังช่วงประมาณปิดเทอมขึ้นม.6 ค่ะ แต่เนื่องจากเราอยู่สายศิลป์ภาษาญี่ปุ่น ทำให้เราได้เรียนญี่ปุ่นตั้งแต่ม.4-6 จริงๆเราเรียนตั้งแต่ม.1 ตอนนั้นเป็นชมรม      ให้เลือก แต่ก็ไม่นับดีกว่า เพราะเรียนไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว55555 ตอนนั้นมีแค่เซนเซย์สอนค่ะ ญี่ปุ่นล้วน งงเลย 3ปีไม่มีความหมาย T-T 

    เราเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะตอนนั้นชอบดูอนิเมะค่ะ ความฝันสูงสุดคือดูรู้เรื่องโดยไม่มีซับได้             จนประมาณม.2ได้รู้จักกับAKB48ค่ะ กลายเป็นว่าตกหลุมรักทั้งเพลง ทั้งไอดอล ทั้งวัฒนธรรมต่างๆของประเทศญี่ปุ่น เลยรู้สึกว่าชอบขนาดนี้ต้องจริงจังกับมันแล้วแหละ การเรียนโดยมีไอดอลเป็นแรงผลักดันนี่มันมีพลังมากนะคะ พูดเป็นเล่นไป ฮ่าๆ

    หนังสือ

    ในการเตรียมตัวสอบแพทญี่ปุ่นเราอ่านไปพร้อมกับสอบN4นะคะ เราเริ่มอ่านหนังสือประมาณเดือนเมษายน สอบN4ประมาณเดือนกรกฏาคมค่ะ ส่วนใหญ่เราอ่านด้วยตัวเองบวกกับดูรายการญี่ปุ่นของวงที่ชอบแล้วก็ตั้งใจเรียนในห้อง ไม่ได้เรียนพิเศษที่ไหนเลย แต่ก็ดูคลิปสอนในยูทูปบ้างค่ะ 5555 มันสะดวกแถมฟรีด้วย เวลาไม่เข้าใจเรื่องไหนและอยากได้คนอธิบายก็พึ่งกูเกิ้ลกับยูทูปนี่แหละค่ะ 

    เราคิดว่าถ้าจะสอบแพทญี่ปุ่นควรเรียน/อ่านอะกิโกะจบทั้ง6เล่มแบบจำไวยากรณ์และการผันแม่นนะคะ เพราะมันสำคัญมาก รวมทั้งเราจะได้ศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันหรือพบเห็นบ่อยๆในข้อสอบด้วย

    เราบอกข้อแตกต่างของมินนะกับอะกิโกะไม่ได้เพราะเราเรียนแต่อะกิโกะ 555 เคยอยากลองซื้อมินนะมาอ่านนะคะ แต่มันแพง               เลยอ่านอะกิโกะอย่างเดียวละกัน ;-;

    หนังสือเพิ่มเติมที่เราอ่านนอกจากแบบเรียนอะกิโกะคือ

    1.คันจิสอบวัดระดับ N1-N5 6,900คำ ของ ผศ.สุเทพ น้อมสวัสดิ์ ราคา250 


    เราจะท่องคันจิของN5ไปจนN4 สำหรับการจำคันจิของเราคือ คัดค่ะ คัดวนไป5555 ยังไม่เจอวิธีไหนที่จะจำได้ดีกว่านี้ ลองไปถามเพื่อนที่เรียนจีนเค้าก็บอกว่าคัดนั่นแหละ จนกว่าจะจำได้ เราคิดว่าการเรียนคันจิมันไม่มีวิธีลัด ต้องใช้ความพยายามคัดให้มันคุ้นตาให้มันชินมือ ตอนแรกๆอาจจะน่าเบื่อนะคะ แต่พอคัดไปเรื่อยๆจนชินมันก็สนุกขึ้นมานิดนึง ฝึกสมาธิดีด้วย เวลาจำคันจิแล้วบังเอิญเจอที่อื่นมันจะแบบ เห้ยตัวนี้เคยท่องมาแล้ว จำได้ (แต่มันอ่านว่าไรนะ...) เราเรียกว่าเป็นเมจิคเวลาท่องศัพท์เลยค่ะ ทำให้อยากอ่านอีก เวลาบังเอิญเจอแล้วจำได้มันรู้สึกดีมากเลยนะ :- )

    สูญเสียกันไปเท่าไหร่กับค่าปากกา... แต่พอกลับมามองก็รู้สึกดีนะ 

    2.200รูปประโยคภาษาญี่ปุ่น N4-N5  ราคา260

    เล่มนี้ช่วยได้ดีมากกก ในส่วนของไวยากรณ์ มีตัวเลขกำกับไว้ว่าตัวนี้คือไวยากรณ์ในระดับN4นะ ตัวนี้ของN5 ประมาณนี้ และมีแบบทดสอบเล็กน้อยในแต่ละบทด้วย จัดเป็นหมวดหมู่ อ่านง่าย ตัวอย่างก็เข้าใจง่าย แนะนำเลยค่ะ 

    3.พจนานุกรมญี่ปุ่น-ไทย  ราคา199


    บอกเลยว่าพจนานุกรมนี่แหละเป็นแหล่งรวมคำศัพท์มากที่สุดแล้ว (จริงๆนะ) เล่มนี้มีตัวอย่างการใช้ศัพท์ในบางคำด้วย เราชอบหยิบมาเปิดอ่านเวลาว่างๆ ดูจากสภาพก็พอรู้ว่าผ่านอะไรมามากมาย55555 อ่านแล้วก็ใช้ไฮไลต์ขีดบางคำที่เจอบ่อยๆหรือบางคำที่เราคิดว่ามันน่าสนใจ มันต้องได้เจอกันในข้อสอบซักคำแหละ! 

    4.TRY N3   ราคา265

    เล่มนี้เราซื้อมาอ่านหลังสุด ตอนที่สอบN4ผ่านแล้ว (ด้วยคะแนนแบบเฉียดฉิว) เนื่องจากมันยังพอมีเวลาเลยอยากหามาอ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เล่มนี้มีทั้งบทอ่าน อธิบายไวยากรณ์จากบทอ่าน มีข้อสอบให้ทำท้ายบททั้งจับคู่ เติมคำ พาร์ทดาวแบบในแพทญี่ปุ่นก็มี ตรงนี้เราชอบมากเพราะเราอ่อนพาร์ทนี้มาก ตอนแรกทำไม่เป็นเลย วงมั่ว5555ไม่รู้มันคืออะไร มารู้ว่ามันก็คือการเรียงประโยคนั่นแหละ เราต้องหาประธาน กริยา กรรม ดูว่าไวยากรณ์ที่ให้มามันควรไปต่อตรงไหน เอาคำช่วยตัวนี้ไปต่อตรงไหน เอาadjนี้ไปขยายตัวไหน ลองฝึกทำไปเรื่อยๆพอเราจับทางได้จะรู้สึกว่ามันไม่ได้ยากขนาดนั้น

    แนวการเตรียมตัว

    เราชอบเขียนสรุปค่ะ สำหรับเรานั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะเราจะได้อ่านทบทวนซ้ำในแบบที่ตัวเองเข้าใจด้วย เวลาอ่านหนังสือเราก็จะมีสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆไว้สรุปไวยากรณ์แต่ละตัวพร้อมยกตัวอย่างเล็กๆน้อยๆที่เราเข้าใจได้ เวลาไปเรียนก็พกไปด้วย เผื่อว่ามีเวลาว่างไม่อยากเล่นมือถือก็หยิบมาอ่านทบทวนค่ะ 

    การอ่านทบทวนเป็นสิ่งสำคัญมากเลยนะคะ ถ้าหากว่าจำได้แต่จำผิดคงจะเจ็บใจน่าดู เพราะงั้นต้องท่องให้แม่นและใช้ให้ถูกด้วยนะคะ

    ในส่วนของความรู้รอบตัวนั้นกว่าครึ่งนึงของสมองเราได้มาจากรายการไอดอลที่ดูค่ะ55555 เวลาเค้าแข่งตอบคำถามกันในรายการ เด็กฝึกภาษาอย่างเราเนี่ยแหละได้ประโยชน์ไปด้วย แต่เราก็หาพวกวันสำคัญไว้นะคะ จำตั้งแต่วันหยุดสำคัญ ฤดูต่างๆว่าฤดูนี้มีวันสำคัญอะไร ดอกไม้ประจำฤดู พวกจังหวัดในประเทศญี่ปุ่นที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ติดตามข่าวสารในช่วงเวลานั้นไว้ มันไม่สามารถคาดการ์ณล่วงหน้าได้ ทำได้แค่เดาๆเพราะมันออกครอบไปหมด ฮ่าๆ รู้สึกเหมือนปีนี้จะออกว่าอาหารอะไรไม่มีส่วนผสมของข้าวนะคะ วันก่อนหน้านั้นเราอ่านหนังสือTRY N3 ทบทวน บทสุดท้ายมีคำศัพท์คำว่าข้าวต้มด้วย พอมาสอบก็เจอคำนี้ในข้อสอบ ยิ้มมุมปากเลยที่ทวนมา ฮ่าๆๆ ตัดช้อยไปได้หนึ่งและ 

    เราเน้นจำทุกอย่างเท่าที่จะจำได้เลยค่ะ สอบครั้งเดียวไม่อยากให้เสียเปล่า 
    สำหรับคนที่อยากจะจำจังหวัดทั้ง47จังหวัดของญี่ปุ่นนะคะ เราแนะนำเพลงนี้ ฟังวนไปฮ่าๆๆ แล้วจะท่องได้แบบเรียงลำดับด้วย    ฮอกไกโดขึ้นปุ๊บต่ออาโมริในใจเลย >-<

    สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกว่าการเรียนภาษาไม่ใช่แค่เฉพาะญี่ปุ่นแต่รวมทุกภาษา เราต้องมีใจรักมันจริงๆนะ ไม่งั้นคงทนคัดทนท่องไม่ได้ ต่อให้ทำได้เพื่อการไปสอบแต่พอเข้าไปเรียนในสิ่งที่เราไม่ได้รักมันก็ไปต่อไม่ไหวอยู่ดี อยากให้น้องๆที่กำลังลังเลคิดดีๆ การเรียนภาษาไม่ใช่แค่เรียนแต่เราต้องเป็นส่วนนึงของมันถึงจะทำได้ดีนะ แต่ถ้าใครที่มั่นใจแล้วและอ่านมาถึงตรงนี้เราก็ขอให้เก็บความรู้สึกนี้ไว้นะคะ อาจจะมีลำบากบ้าง ท้อบ้าง แต่เรากำลังทำสิ่งที่เราเลือก ก็ต้องทำมันออกมาให้ดีที่สุด จะได้ไม่มาเสียใจหรือโทษตัวเองภายหลังนะคะ 

    นี่เป็นเพียงบันทึกการอ่านในแบบของเรา อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดแต่ถ้าสิ่งที่เราแนะนำไปจะสามารถนำไปปรับใช้กับการอ่านหนังสือของน้องๆได้เราก็ดีใจนะคะ พยายามเข้านะคะ

    อาจจะขาดตกตรงไหนไปบ้าง ถ้ามีอะไรสอบถามเพิ่มเติมถามask.fmที่นี่ได้นะคะ

    เพลงนี้เป็นเพลงที่เราเปิดฟังเช้าวันสอบแพทค่ะ ลองฟังดูนะ เผื่อชอบ :- )
    ปล.การแปะรูปคนที่ชอบไว้เป็นกำลังใจก็ช่วยได้นะ แฮร่ 




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Piti Pui (@pitipui)
ส่วนตัวเราไม่คัดคันจิ ตอนเรียนใหม่ ๆ มีคนบอกให้คัดเยอะ เราคัดเยอะอยู่ช่วงแรก ๆ แล้วเสียเวลาชีวิตมากเลยอ้าาา วันนึงสองสามชั่วโมงคือไม่ได้ทำไรพอดี หลังจากนั้นเราฝึกจากการมองแล้วจำเอา มอง ๆ หลับตามโนตัวหนังสือในหัวว่ามันประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่ทำทุกวันประหยัดเวลามากกว่า ส่วนตัวเราเขียนไม่ได้เลย แต่มองแล้วอ่านออกทันที เพราะฝึกจากการมองแล้วจำกับอ่านหนังสืออ่านข่าวตามเวปเยอะ ๆ นะ เราว่าคัดมันก็ดีน่าจะได้สกิลแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เขียนหนังสือได้คล่องแคล่ว แต่สำหรับคนไม่มีเวลา เราแก่ละ ทำงานทำการเยอะอ่ะ ก็อาศัยมอง ๆ แล้วจำ ๆ นั่นแหละ
PYF48 (@PYF48)
@pitipui จริงค่ะ คัดแล้วเสียเวลามาก นั่งเป็นชั่วโมงๆ5555 บางตัวเห็นผ่านตาบ่อยๆก็จำได้เอง เราว่าที่สำคัญน่าจะเป็นการมองแล้วรู้ได้ว่าตัวนี้อ่านว่าอะไร แปลว่าอะไร นี่ก็เป็นวิธีที่ดีมากเลยค่ะสำหรับคนเตรียมสอบที่เวลาน้อยๆ การคัดเป็นแค่การช่วยเรื่องเขียนได้ส่วนนึงเท่านั้นเอง คัดนานๆก็มีเบลอๆบ้าง5555
Vinnyone (@fb1828433947230)
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ นี่อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากกกเลออ
PYF48 (@PYF48)
@fb1828433947230 หวังว่าที่เราแนะนำจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ พยายามเข้านะะ ^-^