เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
NOVELBER : 17's Story Jeonghan x Jisoolimehaney
Day 4 : Seven
  • DAY4 : Seven

    Pairing : JEONGHAN x JISOO

    TAG: #LMnvb


    วันนี้จีซูโดนยกคลาสตอนบ่าย เขาเลยเอาเวลาที่ได้มาเหมือนฟ้าประทานนั้นมาทำโปรเจกต์ที่ต้องพรีเซนต์ในวันรุ่งขึ้น จีซูซูนยองและซึงชอลขะมักเขม้นอยู่กับงานตั้งแต่ตะวันตรงศีรษะจวบจนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มทั้งสามเหนื่อยล้าเต็มที ซูนยองเป็นคนแรกที่ยอมแพ้เด็กหนุ่มละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วฟุบลงกับโต๊ะ ซึงชอลตามมาติด ๆก่อนที่จีซูจะยอมวางมือบ้าง

     

    “ของพวกมึงจะเสร็จยังอา” ซูนยองพูดเสียงยานคางประหนึ่งว่าการขยับปากพูดก็ดูจะสิ้นเปลืองพลังงานเกินไป

     

    “ยัง ..อีกประมาณหน้านึง” ซึงชอลตอบ

     

    “ของกู ...อีกเยอะเลย โอย จะเสร็จไหมวันนี้” จีซูอวดครวญพร้อมขยี้ผมตัวเองอย่างหงุดหงิดที่งานไม่เสร็จสักที ไม่ว่าจะใช้เวลาทุ่มเทไปแค่ไหนแต่ก็เหมือนว่าปริมาณเนื้อหาจะไม่ได้ลดลงเลย

     

    “นี่กี่โมงแล้ววะ ..หิวอะ” ซึงชอลว่า

     

    “จะหกโมงแล้ว ..เออ แล้วมึงยังไม่ไปหรอวะ?” ซูนยองดูนาฬิกาก่อนจะหันไปถามจีซู

     

    “ไปไหนวะ?”

     

    “เอ้า ก็วันนี้ผัวมึงจะมารับไปกินข้าวไม่ใช่หรอ? ไหนบอกมาห้าโมง?”

     

    เปรี้ยง—

     

    เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัวจีซู

     

    “เชี่ย กูลืม! แล้วมือถือกูอะ” เด็กหนุ่มรีบควานหาโทรศัพท์มือถือที่น่าจะโดนสุมอยู่ในกองชีทเรียนถ้าเกิดว่าพี่จองฮันมาแล้วก็น่าจะโทรหาเขาสิ แต่ไม่เห็นได้ยินเสียงละ ..เลย

     

    เวร! ลืมเปิดเสียง

     

    หน้าจอแสดงเบอร์ที่ไม่ได้รับประมาณ 5 สาย จีซูอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ เพราะอาจารย์ที่สอนวิชาเช้าเฮี้ยบมาก จีซูจึงปิดเสียงปิดสั่นเพื่อตัดปัญหาแต่ตอนนี้มันกำลังสร้างปัญหาให้เขาเพราะลืมเปิดคืนเนี่ย!

     

    “มึง กูไปก่อนนะ คืนนี้กูส่งงานให้ ไม่เกินห้าทุ่ม!!”จีซูไม่สนใจใครหน้าไหนแล้วทั้งนั้น กวาดชีทเรียน ปากกา ดินสอ ทุกอย่างลงกระเป๋าสะพายก่อนจะรีบยัดโน้ตบุ๊คลงไป

     

    “เออ บายเว้ย!”

     

    เสียงร่ำลาของซึงชอลกับซูนยองเป็นเพียงเสียงลมเบาๆ ที่ผ่านหูเพราะจีซูก้าวขาวิ่งหน้าตั้งกลับไปที่คณะ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รูดซิบปิดกระเป๋าพี่จองฮันต้องไปรอที่คณะตามที่นัดกันไว้แน่ ๆ พอไม่มีเรียนตอนบ่าย จีซูเลยย้ายไปทำงานที่ห้องสมุดแทนแล้วก็ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะพื้นที่สมองกลายเป็นที่ตีกันของข้อมูลไปเสียฉิบ

     

    จีซูก้าวขาสุดความยาว วิ่งไปหอบไป จนไปถึงลานจอดรถหน้าคณะเด็กหนุ่มกวาดสายตาไปรอบ ๆ ไม่เห็นว่าพี่จองฮันรออยู่เลย..ไม่ใช่ว่าโกรธที่ติดต่อเขาไม่ได้จนหนีกลับไปแล้วนะ

     

    ระหว่างที่จีซูหันรีหันขวาง จะวิ่งไปหาที่ลานจอดรถอีกฝั่งไหล่ของเขาก็ถูกคว้าเอาไว้

     

    “!!”

     

    “จะไปไหน?”

     

    จีซูใช้เวลาในการเรียกสติตัวเองนานมากกว่าจะระลึกได้ว่าเจ้าของมือและเจ้าของเสียงคือใคร

    “พี่ ..ไปทำอะไรกับผมมา?”

     

    จีซูพูดด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย เบื้องหน้าเขาตอนนี้ ไม่ใช่พี่จองฮันที่เขารู้จักเส้นผมสีน้ำตาลที่เคยยาวประบ่า ตอนนี้ตัดสั้นขึ้นไปหลายเซ็นฯ

     

    “ผม..? นี่หรอ? ตัดมา” จองฮันมุ่นคิ้ว พลางจับที่ปลายผมตัวเอง จริง ๆเขาบอกช่างเอาออกนิ้วเดียว แต่หายไปประมาณสามนิ้วได้ (7 เซนติเมตร) “อย่าบอกว่าที่วิ่งไปวิ่งมาเพราะจำพี่ไม่ได้???”

     

    “ก็ ..”

     

    จีซูอ้าปากพะงาบ ๆ จะเถียง แต่ก็ต้องเม้มแน่นเมื่อคิดหาคำแก้ตัวไม่ออก..จำไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ ตาเรียวเหลือบมองการแต่งตัวของจองฮันตอนที่วิ่งไปวิ่งมานั่นน่ะ เหมือนจะเห็นอยู่หรอก แต่ในความเคยชินของเขาเวลามองหาพี่จองฮัน ก็ต้องมองหาคนผมยาว ๆ นี่นา

     

    อีกอย่าง ผมทรงนี้ก็ ..

     

    ฉ่า

     

    ขณะที่จองฮันกำลังสงสัยว่าตัวเองเปลี่ยนไปขนาดนั้นเลยหรือจีซูที่พินิจพิจารณาทรงผมใหม่ของคนรักก็ใบหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาดื้อ ๆ

     

    ทำไมหล่อจังวะ..

     

    “อะไร ทำไมหน้าแดง ..”จองฮันถามด้วยความสงสัยที่เห็นคนรักยืนแก้มแดงอยู่ ก่อนจะส่งเสียงอ้อยาว ๆ ออกมานัยน์ตาสีเข้มเป็นประกายวาววับ

     

    “ชอบละสิ ..หล่อใช่ไหมล่ะ?”

     

    “ไม่เห็นจะหล่อเลย!”

     

    จีซูสวนกลับทันควัน ตามนิสัยดื้อรั้นที่จะไม่ยอมลงให้กับจองฮันง่าย ๆแม้ว่าในใจจะรู้สึกว่าทรงผมนี้เหมาะกับพี่จองฮันมาก หล่อมากจนใจเต้นแรงมากก็เถอะ

     

    “หึ ..ปากแข็ง”

     

    “หลงตัวเอง!”

     

    “หลงตัวเองแต่ก็ไม่เคยผิดนัดนะ” จองฮันเย้า พอได้ยินดังนั้นจีซูจากที่เชิด ๆ ก็ตัวเหี่ยวอย่างคนมีความผิด เด็กหนุ่มถามเสียงอ่อย

     

    “พี่โกรธผมปะ ..ลืมไปเลยอะ”

     

                จองฮันเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเล็กน้อย

     

    “ไม่โกรธ โกรธทำไม ก็พอโทรหาเราไม่รับ พี่เลยไลน์หาซูนยอง..เจ้านั่นบอกแล้วว่าทำงานอยู่ห้องสมุดกัน พี่เลยไปหาที่นั่งรอ..ซูนยองไม่ได้บอกหรอ?”

     

    “ไม่อะ ..”

     

    เดี๋ยวนะ นี่มันอะไรกันโว้ยยยยยยยย!

     

    จู่ ๆ จีซูก็รู้สึกเหมือนมีกองไฟมาสุมที่หัว คิดย้อนกลับไปว่าคนที่ทำให้เขาเอะใจเรื่องเวลาก็ซูนยอง คนที่บอกให้เขารีบวิ่งมาก็ซูนยอง ..

     

    ไอ้เพื่อนเลว!!

     

    “โดนแกล้งอีกแล้วละสิ” จองฮันวาดแขนกอดไหล่คนรักถามด้วยน้ำเสียงกลั้นขำไม่ต้องบอกก็รู้ว่าซูนยองต้องแกล้งให้จีซูรีบวิ่งมาหาเขาแน่ ๆ

     

    “โอ๊ย พี่รู้ไหมว่าวิ่งมาแทบตาย เพราะกลัวพี่จะรออะ”

     

    “หรอ ..ทำไมน่ารักจัง” จองฮันยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกชนกันจีซูสะดุ้งเฮือก ผลักจองฮันจนกระเด็น

     

    ฉ่า--------------

     

    “ถอยออกไปห่าง ๆ เลยนะ!”

     

    แย่กว่าการที่โดนทำรุ่มร่าม ก็ตรงที่ ...ระยะใกล้ชิดเกินพอดีเมื่อครู่นั้นทำให้จีซูเห็นหน้าจองฮันได้ชัดเจนมากพลันก้อนเนื้อในอกเต้นรัวแรงเหมือนกลอง สูบฉีดเลือดแล่นผ่านทั่วร่างใบหน้าของเด็กหนุ่มแดงแจ๋ ดูน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกินในความรู้สึกของจองฮัน

     

    ตอนแรกก็หงุดหงิดอยู่หรอก ที่ช่างตัดผมไม่ได้ดั่งใจ..แต่ตอนนี้สงสัยต้องซื้อขนมไปขอบคุณสักหน่อยแล้วมั้ง

     

    “////^ ////”

     

    คงใช้เวลาอีกนานกว่าหัวใจของจีซูจะต้านทานกับผมทรงใหม่ของจองฮันได้

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in