เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
story tellingDominicky
ลูกแมวสีส้ม
  • มันเป็นเรื่องราวของลูกแมวตัวหนึ่ง ที่เป็นลูกแมวธรรมดาๆเกิดในวัดพร้อมพี่น้องรวม5ตัว แมวเหล่านั้นมีเอกลักษณ์ที่ฉันจดจำได้ดี 
    ตัวแรกเป็นแมวสีส้ม ตัวนี้คือตัวโปรดของฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลยก็ว่าได้
    ตัวต่อมาเป็นสีขาวและแต้มด้วยลายดำที่ลำตัวส่วนบนและหัวของมันเป็นสีดำเหมือนใส่เสื้อคลุมและหน้าท้องสีขาว ตามด้วยเท้าขาวๆเหมือนใส่ถุงเท้า
    ตัวที่3เป็นสีดำล้วน
    ตัวที่4 เป็นแมวขาวแต้มลายส้ม
    และตัวที่5เป็นสีดำทั้งตัว แต่ใส่ถุงเท้าข้อสั้น สีขาว

      วันหนึ่งของการไปทำบุญที่วัด ความสุขของฉันคือการได้เล่นกับสัตว์เหล่านี้ มันทั้งน่ารักและแสดงความอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา สักพักแม่ของฉันก็มาตามให้กลับบ้านเพราะหมดธุระพบปะผู้ใหญ่ตามประสางานบุญแล้ว ฉันที่นั่งเล่นกับมันก็กำลังจะลุกขึ้นเตรียมกลับบ้าน หลวงพ่อก็เดินผ่านเข้ามาพอดีและท่านก็พูดว่า "แม่มันทิ้ง เอาไปเลี้ยงสิโยม" 

      ทันใดนั้นฉันมองแม่และยิ้มให้เป็นการอ้อนวอน จากนั้นแม่จึงเรียกพ่อให้มาช่วยตัดสินใจ พ่อบอกว่าเลือกเอาว่าจะเลี้ยงกี่ตัว ฉันเลือกไม่ถูกในขณะนั้นเลย เหมือนต้องใช้เวลาคิดนานกว่านี้แต่ทั้งหลวงพ่อและคนรอบข้างต่างบอกว่า ถ้าชอบมากก็เอาไปเลย5ตัว

    ฉันจึงได้แมว5ตัวกลับบ้านไป

    แต่วันต่อมา หลังจากฉันกลับมาจากโรงเรียนมัธยมต้นที่ค่อนข้างไกลบ้าน

    ฉันพบเพียง2ตัวที่อยู่บ้าน
    เจ้าแมวสีส้ม และ ขาวแต้มดำ

    ฉันถามแม่ของฉัน ว่าที่เหลือไปอยู่ไหน แม่ตอบกลับมาว่า "เราเลี้ยง5ตัวไม่ไหวหรอก นอกจากค่าอาหาร มีค่ายา ค่ารักษาถ้ามันป่วย อีกอย่าง บ้านเรามีหมาแล้วตัวนึง ถ้าจะให้มันมีเพื่อนก็แค่2ตัวพอ"
      ตอนนั้นฉันไม่ค่อยเข้าใจนักว่าแม่เอาไปคืนวัดเพราะอะไรเพราะหูดับไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น แต่พอเริ่มคิดได้ก็รู้สึกว่าตัวฉันเองนั้นงี่เง่าพอตัวในวัยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะทางปัญญา

      จากนั้น1สัปดาห์ของการเลี้ยงเจ้าแมวทั้งสอง เหมือนทุกอย่างกำลังจะลงตัว และวันหนึ่ง เจ้าขาวแต้มดำหายไป

      ฉันกลับบ้านมาพร้อมกับใบหน้าที่กลุ้มใจของแม่ ก่อนจะเข้าบ้านแม่เดินออกมาหาแถวหน้ารั้วและพูดกับฉัน
    "ตัวดำขาวหายไป" และเมื่อมองไปในตัวบ้าน ก็เห็นแต่ตัวสีส้มนอนกัดตุ๊กตาอยู่ แต่ ณ ตอนนั้นไม่มีเวลามานั่งมาความน่ารักของมันเลย เพราะฉันรีบวางกระเป๋าโรงเรียนและรีบออกไปตามหามันกับแม่ เพื่อนบ้านรอบข้างก็ช่วยหา และเมื่อไม่เจอเลยก็กำลังสันนิษฐานว่ามันจะไปไหน
      แต่ไม่ทันที่ฉันจะได้ลองใช้สติปัญญา เพื่อนบ้านคนหนึ่งก็มาบอกว่า "ลูกแมวของหนูอาจจะโดนแมวป่าฆ่าก็ได้ เพราะลูกแมวตัวหนึ่งของบ้านป้าก็ตาย มีแผลจากการโดนกัดจนทนพิษบาดแผลไม่ได้"

      แมวป่า?

    ตอนนั้นฉันไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมถึงเรียกว่าแมวป่า ซึ่งแถวบ้านนอกเขาหมายถึงแมวจรจัด ที่ไม่มีเจ้าของ หากินเอง และใช้ชีวิตเหมือนสัตว์ป่า(คือการออกล่าหากินเอง) แต่ในตอนนั้น ฉันรู้สึกสะดุดที่คำว่า "โดนกัดจนทนพิษบาดแผลไม่ได้"
      เจ้าขาวดำเองก็เป็นพียงลูกแมว ไม่น่าจะไปไหนได้ไกล แล้วมันไปไหนก่อนจะหายไปแบบนี้? แม่กับฉันกลับมาคุยกันที่บ้าน แม่ของฉันเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เช้าที่ฉันเดินออกไปขึ้นรถเพื่อไปโรงเรียน ก็ไม่เห็นมันอีกเลย แต่ฉันจำได้ว่าฉันเห็นมัน 
      เพราะมันวิ่งตามฉันมา ด้วยอุ้งเท้าเล็กๆของมัน ตามฉันมาเพื่อส่งที่หน้ารั้วบ้าน จากนั้นรถก็ออก 

    นั่นคือครั้งสุดท้ายของฉันกับเจ้าขาวดำ

    เมื่อนึกออก ก็แทบจะเสียงสั่นเล่าให้แม่ฟัง แม่ของฉันถอนหายใจแล้วลูบไหล่ของฉัน "ไว้ตักบาตรก่อนไปโรงเรียนกันนะ"

      จากนั้นบ้านฉันก็มีแมวสีส้ม ตัวเดียว 

    พวกเราระวังมากขึ้น ไม่ให้มันวิ่งตามไปไหนตามใจมันนัก ต้องคอยให้อยู่แต่ในตัวบ้านและดูแลอย่างใกล้ชิด แต่เพราะช่วงนั้นเรายังไม่หากระบะทรายที่ไร้กลิ่นสำหรับไว้ในบ้าน จึงต้องเลี้ยงมันไว้ส่วนของนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ หลังจากมีแค่มันได้ราว1สัปดาห์ มันก็เริ่มไม่ร่าเริงเหมือนเคย

      เจ้าแมวน้อยสีส้มซึมไปอย่างเห็นได้ชัด กินไม่ค่อยลงเพราะข้าวหรือนมไม่ได้ลดลงเลย มีแต่น้ำที่กินบ้าง แม่กับพ่อจึงตัดสินใจพาไปหาสัตวแพทย์ในวันถัดไป ฉันเองก็ภาวนาให้มันหายดี

      เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฉันก็รีบถามแม่ว่าเจ้าแมวส้มเป็นยังไงบ้าง? แม่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงกังวลเหมือนเคย "หมอบอกว่ามันไม่ได้กินนมแม่เลย คงเพราะแม่มันทิ้งไป มันเลยไม่มีภูมิต้านทาน"

      ตอนนั้นฉันคิดอะไรไม่ได้ หวังเพียงแต่ให้วันถัดไปมันยังอยู่ และจะพาไปหาหมออีกครั้ง เพื่อรักษามันในวิธีใดวิธีหนึ่ง

      เช้าวันต่อมาฉันเตรียมไปโรงเรียนเหมือนเคย ฉันแวะเดินไปที่นอนของเจ้าแมวสีส้มและลูบหัวมันอย่างเอ็นดู ฉันบอกกับมันว่าขอให้หายดี 
      แม่ของฉันเดินมาหาฉัน 

    "มันไม่ตื่นแล้ว"

    ฉันมองหน้าแม่ของฉันทันทีที่แม่พูด มันชัดเจนและกระจ่างในหัวมากว่าแมวน้อยที่หลับตาอยู่ตรงหน้า ไร้ลมหายใจ และจะไม่ตื่นอีกแล้ว....

      วันนั้นฉันนั่งรถไปโรงเรียน โดยรถลุงและหลานชายที่เด็กกว่าฉันที่นั่งข้างหน้า ที่คอยไปส่งเพราะว่าเริ่มเข้าฤดูฝน ฉันนั่งอยู่เบาะหลังและเขยิบเข้ามาที่ฝั่งคนขับ เสียงฝนกระทบลงที่หลังคาจนแทรกเข้ามาในเสียงเพลงที่ฉันเปิดจากหูฟัง ไม่ว่าจะเร่งเท่าไหร่ มันก็จะมีเสียงฝนเข้ามาอยู่บ้าง

      แต่มันไม่อาจจะกลบน้ำตาของฉันได้เลย....



    แมวสีส้ม ดมน. 
    ขอโทษเจ้าแมวน้อยทั้งสอง รักและคิดถึงเสมอมา
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in